[รีวิว] Lenovo Legion 5 เกมมิ่งโน้ตบุ๊คสุดแรงมาพร้อมขุมกำลัง Ryzen 5 4600H + GTX 1650 Ti

นาทีนี้คงต้องบอกว่าเป็นช่วงที่ตลาดเกมมิ่งโน้ตบุ๊คกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยความที่เทคโนโลยีต่าง ๆ ก้าวกระโดดจนแทบจะไม่มีช่องว่างระหว่างพีซีและโน้ตบุ๊คอีกต่อไป แต่สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของเกมมิ่งโน้ตบู๊คในช่วงที่ผ่านมาคือเรื่องของการระบายความร้อนที่ทำออกมาได้ไม่ดีนัก แต่มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปหากทุกคนได้พบกับ Lenovo Legion 5 เกมมิ่งโน้ตบุ๊คที่ได้รับการปรับแต่งออกมาให้เหมาะกับเกมเมอร์โดยเฉพาะ จะมีจุดไหนที่น่าสนใจภายในตัวเครื่องเราไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย

เรามาทำความเข้าใจกันเสียก่อนที่จะเจาะลึกเข้าไปที่ตัวเครื่องสำหรับ Lenovo Legion 5 มาพร้อมกับการใช้งานซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง AMD อย่าง AMD Ryzen 4000 Series ซึ่งจะมีการแบ่งออกเป็น 2 สเปคด้วยกันคือรุ่นที่มาพร้อมกับการใช้งาน Ryzen 5 4600H (ตัวที่เรากำลังจะพูดถึงกัน) และ Ryzen 7 4800H นอกจากชิปกราฟิกภายในตัวที่ดีในระดับหนึ่งแล้ว ยังมาพร้อมกับชิปกราฟิกแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti ที่สามารถเล่นเกมความละเอียด 1080p ได้แบบสบาย ๆ พร้อมแรมอีก 8GB และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ขนาด 512GB พร้อมติดตั้งระบบ Windows 10 พร้อมใช้งานเมื่อออกมาจากกล่อง

การออกแบบตัวเครื่องของ Lenovo Legion 5 มาพร้อมกับการใช้งานการออกแบบที่น่าสนใจมาพร้อมกับการเลือกใช้งานวัสดุที่เป็นพลาสติก แต่เกรดที่นำมาใช้งานถือว่าเป็นเกรดที่มีคุณภาพสูง แต่ว่าพื้นผิวในบริเวณต่าง ๆ จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน อย่างเช่นบริเวณส่วนของรอบ ๆ Touchpad จะมีการใช้พื้นผิวที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเบาะหนัง ทำให้เวลาใช้งานไม่ลื่นหรือทิ้งร่องรอยของคราบใด ๆ เอาไว้ ขณะที่ส่วนด้านใต้ของตัวเครื่องจะเป็นพื้นผิวพลาสติกทั่ว ๆ ไปที่เราคุ้นชิ้นกันเป็นอย่างดี

ด้วยความที่มีการเลือกใช้งานวัสดุภายนอกที่ไม่ได้มีน้ำหนักมากจนทำให้ส่งผลต่อน้ำหนักของตัวเครื่องด้วยเช่นกัน เพราะเจ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับน้ำหนักเพียงแค่ 2.3 กิโลกรัมถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยพอตัวสำหรับเกมมิ่งโน้ตบุ๊ค นอกจากนี้ยังมีความบางของตัวเครื่อง 26 มิลลิเมตร ก็ถือว่าบางเอามาก ๆ การพกพาออกไปใช้งานภายนอกจึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

Lenovo Legion 5 มาพร้อมกับบานพับหน้าจอที่สามารถกางออกได้สูงสุด 180 องศา โดยความหนาแน่นของข้อต่อส่วนที่เชื่อมกับบานพับถือว่าอยู่ในระดับดีสามารถเปิดและปิดได้ง่ายด้วยมือข้างเดียว สำหรับขอบของหน้าจอทั้งในทุก ๆ ด้านทำออกมาได้ค่อนข้างที่จะบางแม้จะไม่ได้ถึงขั้นที่เรียกว่าไร้ขอบ แต่หากมองจากการที่เป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊คการที่ทาง Lenovo ออกแบบมาในรูปแบบนี้ก็ถือว่าสมกับภาพลักษณ์ของตัวเครื่องได้อย่างลงตัว

ที่บริเวณด้านบนของขอบหน้าจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องที่มีตัวเลื่อนสำหรับเปิดปิดได้ด้วยตัวของผู้ใช้งาน 

ถัดไปมาดูกันที่ด้านในหลังจากที่เปิดหน้าจอขึ้นไปกันบ้าง ส่วนที่ต้องพูดถึงคงเป็นเรื่องของคีย์บอร์ดที่มีการวาง Layout ออกมาได้อย่างลงตัวเป็นคีย์บอร์ดแบบฟลูที่มีปุ่มสำหรับการใช้งานมาให้ครบครัน ความรู้สึกในการกดปุ่มถือว่ามีแรงต้านที่ไม่มากนักพร้อมกับเสียงที่ได้จากการกดก็ไม่ได้ดังมากมายอะไรสามารถที่จะใช้งานในยามค่ำคืนได้โดยที่ไม่เป็นการรบกวนใคร ๆ ขณะเดียวกันยังมาพร้อมกับแสงไฟ RGB ด้านใต้ของแต่ละคีย์ โดยสามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลได้ด้วยการกดปุ่ม Fn + Spacebar ได้โดยตรง

หากสังเกตให้ดีบริเวณมุมขวาบนของคีย์บอร์ดจะมีแนะนำการใช้งานฟีเจอร์ที่หาไม่ได้ในแบรนด์อื่น ๆ อย่างฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้งานกดปุ่ม Fn พร้อมกับปุ่ม Q จะเป็นการเปิดใช้งานโหมดการใช้งานของตัวเครื่องตั้งแต่ Quiet, Auto และ Performance โดยที่เมื่อเปิดใช้งานแต่ละโหมดก็จะมีแสงแสดงสถานะว่ากำลังใช้งานโหมดอะไรอยู่ที่ภายในปุ่ม Power ตรงกลาง

ในส่วนของ Touchpad มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นในปีที่แล้วด้วยการเลือกใช้งานเป็นแผงควบคุมแบบไร้รอยต่อ แตกต่างจากรุ่นก่อนที่มีการแบ่งส่วนของปุ่มการใช้งานออกมาอย่างชัดเจน แต่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีการใช้งานถือว่าทำออกมาได้ไม่มีปัญหา การกดปุ่มต่าง ๆ ในส่วนนี้ก็มีแรงต้านที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ การใช้ Gesture ต่าง ๆ ก็ถือว่าทำออกมาได้ถูกต้องและครบถ้วน

มาดูกันที่ด้านใต้ของตัว Lenovo Legion 5 กันบ้างที่สังเกตได้ชัดที่สุดคงเป็นรูระบายความร้อนภายในตัวเครื่องที่มีการเจาะไว้จำนวนมาก แน่นอนว่าข้อดีของการทำแบบนี้มีมากมายมหาศาลโดยเฉพาะเวลาที่เราเล่นเกมนาน ๆ และเครื่องร้อนปัญหานี้จะหมดไป ขณะเดียวกันที่ขอบด้านล่างทั้งสองฝั่งมาพร้อมกับลำโพงที่ให้เสียงคุณภาพสูงโดยมีบริษัทที่ดูแลก็คือทาง Harman นั่นเอง

นอกจากพื้นที่ระบายอากาศบริเวณด้านใต้ของตัวเครื่องแล้วก็ยังมีช่องสำหรับการระบายความร้อนภายในเครื่องอยู่ที่บริเวณด้านมุมบนขอบของตัวเครื่องทั้งสองด้าน และอีก 2 ช่องที่บริเวณขอบด้านหลังตัวเครื่องจึงต้องย้ำกันอีกครั้งว่าความร้อนหายห่วงได้เลยว่าจะไม่เป็นปัญหากับการใช้งาน

พอร์ตการใช้งานที่ให้มาภายใน Lenovo Legion 5 เกือบทั้งหมดจะอยู่ที่บริเวณขอบด้านหลังของตัวเครื่องประกอบไปด้วยพอร์ตสำหรับการชาร์ตตัวเครื่อง HDMI 2.0 พอร์ต USB-A 3.1 จำนวน 2 พอร์ต USB-C 3.1 ที่รองรับการใช้งานกับ DisplayPort 1.2 ได้จำนวน 1 พอร์ตและ RJ-45 ขณะที่พอร์ตอื่น ๆ บริเวณด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB-A 3.1 และ Audio Jack ขณะที่ด้านขวาจะเป็นพอร์ต USB-A 3.1 อีกจำนวนหนึ่งพอร์ตด้วยกัน ถือว่าให้มาครบเพียงพอสำหรับการใช้งานอย่างแน่นอน

มาว่ากันที่หน้าจอของ Lenovo Legion 5 ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว โดยที่มีความละเอียดระดับ FHD 1920 x 1080 พาเนลของจอที่ใช้งานเป็นประเภทยอดฮิตอย่าง IPS ที่ช่วยให้ได้การแสดงผลของภาพที่สว่างและชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมอย่าง Refresh Rate ยังให้มาถึง 144Hz ขณะที่ค่า Response Time อยู่ที่ 3ms นอกจากนี้ยังได้การรองรับมาตรฐาน VESA DisplayHDR 400

ประสบการณ์ในการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือการรับชมสิ่งบันเทิงอื่น ๆ ถือว่าให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ เล่นเกมได้แบบคมชัดครบในทุก ๆ รายละเอียดที่เกมเมอร์ต้องการ ด้วยจอ 144Hz ทำให้เราได้เปรียบที่สามารถเห็นรายละเอียดภายในฉาก ณ ขณะนั้นได้ดียิ่งขึ้น

มาดูกันที่ประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่องกันบ้างสำหรับ Lenovo Legion 5 รุ่นที่เราได้นำมาทดสอบในครั้งนี้มาพร้อมกับการใช้งานซีพียูอย่าง AMD Ryzen 5 4600H ที่มาพร้อมกับความเร็วสูงสุด 4 GHz พร้อมจำนวน Core การทำงาน 6 Core 12 Thread ใช้พลังงานสูงสุดเพียงแค่ 45W มาพร้อมกับชิปกราฟิกแยกอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti ที่เป็นการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพในการเล่นเกมเป็นอย่างดีด้วยจำนวน VRAM 4GB GDDR6 แรมที่ให้มาทั้งหมด 8GB DDR4 3200 MHz

มาเริ่มกันที่การทดสอบด้วยโปรแกรมอย่าง Cinebench R15 โดยที่ตัวโปรแกรมจะเน้นไปที่การประมวลผลของซีพียูและระบบโดยรวมจะเห็นได้ว่าคะแนนที่ทำได้ในส่วนของ Multi-Core ได้ไปสูงถึง 1410 ขณะที่การทำงานแบบ Single-Core ก็น่าประทับใจด้วยคะแนน 168 เรียกได้ว่าซีพียูรุ่นใหม่ตัวนี้ได้จัดการสรรค์ประสิทธิภาพในการทำงานมาเป็นอย่างดี

ต่อกันที่การทดสอบด้วยโปรแกรม PCMark 10 ที่เป็นการทดสอบภาพรวมการใช้งานในหลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็นเอกสาร ตัดต่อ แต่งภาพ ท่องเว็บคะแนนที่ได้ออกมาอยู่ที่ 4560 คะแนนเป็นค่าที่อยู่ในระดับเฉลี่ยของเกมมิ่งโน้ตบุ๊คในปี 2020 ที่ควรจะเป็น

ความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลภายใน Lenovo Legion 5 ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีจากการทดสอบด้วย CrystalDiskMark ได้ผลลัพธ์ในการอ่านข้อมูลอยู่ที่ 3593.49 MB/s และความเร็วในการเขึยนข้อมูลอยู่ที่ 2964.12 MB/s ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงกว่าการใช้งานที่เก็บข้อมูลแบบอื่น

มาถึงจุดสำคัญของตัวเครื่องอย่างการเล่นเกมกันบางโดยเกมที่เราหยิบมาทดสอบในครั้งนี้จะประกอบไปด้วยเกมดัง 5 เกมด้วยกันไม่ว่าจะเป็น PUBG, Apex Legends, Fortnite, Death Stranding และ Resident Evil 2 Remake ผลการทดสอบตามกราฟด้านล่างที่เราได้ลองกันมาเลย

จากที่เห็นเราได้ทำการตั้งค่าความละเอียดภายในเกมอยู่ที่ FHD 1920 x 1080 โดยตั้งค่ารายละเอียดของภาพในแต่ละเกมอยู่ที่ High จากการทดสอบจะพบว่าในทุก ๆ เกมสามารถที่จะเล่นออกมาด้วยเฟรมเรท 60 FPS ได้อย่างไม่มีปัญหา และเกมหนัก ๆ ที่ใช้ทรัพยากรของเครื่องอย่าง Death Stranding ก็ยังสามารถเล่นได้สบาย ๆ สามารถรับส่งของเดินเควสภายในเกมได้เพลิดเพลิน ดื่มด่ำบรรยากาศการเล่นได้ไม่แตกต่างจากคอนโซลเลยทีเดียว นับว่า Lenovo Legion 5 เหมาะมากสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการเล่นเกมในทุก ๆ สถานที่ที่เดินทางไป

นอกจากจุดเด่นเรื่องของประสิทธิภาพด้านฮาร์ดแวร์แล้ว Lenovo Legion 5 ยังมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ที่ช่วยทำให้เราเพลิดเพลินกับการใช้งานมากยิ่งขึ้นไปอีกขึ้นด้วยชุดโปรแกรมอย่าง Lenovo Vantage ที่เราสามารถเข้ามาจัดการตัวเครื่องผ่านโปรแกรมตัวนี้ได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดใช้งานโหมดต่าง ๆ เปิดการชาร์จแบบรวดเร็วกว่าเดิม ปรับการแสดงผลของไฟ RGB ที่คีย์บอร์ด หรือจะเป็นการตรวจสอบดูว่าระบบของเครื่องมีการอัปเดตอะไรบ้าง เพียงแค่เข้ามาที่โปรแกรมก็สามารถรับทราบข้อมูลต่าง ๆ ของตัวเครื่องได้ครบถ้วน

แบตเตอรี่ภายใน Lenovo Legion 5 ในการใช้งานทั่ว ๆ ไปสามารถที่จะอยู่ได้ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง แต่แน่นอนว่าหากมีการนำไปเล่นเกมหรือสิ่งอื่น ๆ ที่ใช้งานทรัพยากรเครื่องเช่นการตัดต่อระยะเวลาก็จะลดลงไปตามแต่การใช้งาน แต่ในภาพรวมเรื่องของแบตเตอรี่ถือว่าทำออกมาได้น่าประทับใจ

สิ่งอื่น ๆ ที่น่าพูดถึงและเป็นความประทับใจอย่างมากคงจะเป็นเรื่องของความเงียบที่หากใช้งานทั่ว ๆ ไปดูหนัง เล่นเว็บ พิมพ์งาน แต่งภาพ จะไม่ได้ยินเสียงของพัดลมภายในเครื่องทำงานเลย เรียกว่าเงียบจนน่าประหลาดใจแต่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะเป็นการบ่งบอกว่าระบบการจัดการความร้อนภายในตัวเครื่องได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันเมื่อใช้งานหนัก ๆ อย่างการเล่นเกมตัวเครื่องก็จะมีการปรับการทำงานของพัดลมภายในให้ทำงานเต็มที่ซึ่งความดังก็อยู่ในระดับน่าพอใจ โดยที่อุณหภูมิของตัวเครื่องในการทำงานทั่ว ๆ ไปในการทดสอบที่ห้องอุณหภูมิปกติไม่ได้เปิดแอร์จะอยู่ที่ราว ๆ 40 องศา โดยที่เมื่อเปิดใช้งานเล่นเกมหนัก ๆ ก็ขึ้นมาที่ไม่เกิน 60 องศาเท่านั้น

บทสรุปของ Lenovo Legion 5 คงต้องบอกว่าเป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊คที่ตอบโจทย์เกมเมอร์ในยุค 2020 เป็นอย่างมาก ด้วยความที่ให้สเปคภายในมาพร้อมรับกับการใช้งานในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสายเกมเมอร์ที่อยากรับภาพบรรยากาศภายในเกมอย่างเต็มพิกัด หรือใครอยากนำไปใช้งานตัดต่อก็ถือว่านำไปใช้งานได้อย่างไม่เคอะเขิน กับราคาเพียง 26,990 บาทน่าจะถูกใจเกมเมอร์หลาย ๆ คนอย่างแน่นอน

ข้อดี

– วัสดุที่ดูแข็งแรงทนทานต่อการเป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊ค

– การออกแบบที่ดูดุดันแต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย

– พื้นผิวในการสัมผัสที่มีการแบ่งโซนการทำงานอย่างชัดเจน

– มาพร้อมสเปคภายในที่พร้อมรับกับการใช้งานในอนาคต

– หน้าจอขนาด 15.6 นิ้วใหญ่ ชัด แสดงผลภาพได้เป็นอย่างดี

– รองรับการแสดงผล 144Hz 

– คีย์บอร์ดมาพร้อมไฟ RGB และฟีเจอร์การทำงานที่แตกต่าง

– พอร์ตการใช้งานที่ครบครันและการวางตำแหน่งที่เหมาะสม

– การระบายความร้อนภายในเครื่องที่ทำออกมาได้ดี

– ลำโพงดังกังวานให้เสียงที่มีรายละเอียดแยกซ้ายขวาได้ดี

– ซอฟต์แวร์ภายในที่ช่วยเสริมการใช้งานของผู้ใช้ที่ทำออกมาแล้วใช้งานได้จริง

ข้อสังเกต

– ด้วยความบางของชิ้นส่วนของหน้าจอทำให้เวลาที่กางหรือปิดหน้าจอด้วยมือเดียวไม่ว่าจะด้านซ้ายหรือด้านขวาของหน้าจอ จะรู้สึกว่าจอมันดูยืดหยุ่นได้แปลก ๆ แต่หากเป็นการกางหรือปิดโดยจับที่ตรงด้านบนตรงกลางของจอจะไม่มีปัญาหาในส่วนนี้

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Lenovo แห่งประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง Lenovo Legion 5 เกมมิ่งโน้ตบุ๊คสุดแรงที่ตอบรับการเล่นเกมสำหรับเกมเมอร์ยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดีรุ่นนี้มาให้เราได้ทำการทดสอบกัน

ใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้จากตัวแทนจำหน่ายเลอโนโวใกล้บ้าน