
Apple กำลังเผชิญปัญหาครั้งใหม่กับ iPhone 17 ที่คล้าย Antennagate สมัย iPhone 4 หลังผู้ใช้รายงานปัญหาสัญญาณเซลลูลาร์ไม่เสถียร ไม่ว่าจะโทรหลุดหรือข้อมูลช้าลง โดยเกิดขึ้นทั่วเครือข่าย T-Mobile, AT&T, Verizon และ MVNOs ชี้ชัดว่าเป็นปัญหาจากตัวเครื่องเอง ไม่ใช่ผู้ให้บริการ
จากการสำรวจโพล ผู้ใช้ iPhone 17 เกือบ 50% ยอมรับว่าพบปัญหานี้ ขณะที่อีกครึ่งที่ไม่มีอาการกลับได้รับสัญญาณดีกว่ายุค iPhone 16 มาก แสดงถึงความไม่แน่นอนแบบสุ่ม ซึ่งน่าแปลกใจเพราะ iPhone 17 Pro ออกแบบเสาอากาศใหญ่ขึ้นเพื่อเสริมการรับสัญญาณ แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าน่าจะเป็นบั๊กซอฟต์แวร์มากกว่าฮาร์ดแวร์ หลังมีรายงานว่าอัปเดตเฟิร์มแวร์แก้ไขได้ในบางเคส ขณะที่ฝ่ายสนับสนุน Apple ยอมรับปัญหาและแนะนำคืนสินค้าหรือรีเซ็ตเครื่อง คาดว่าจะมีแพตช์ iOS 26.0.1 ออกมาแก้ไขในเร็ววัน

แต่ปัญหาไม่หยุดแค่นั้น iPhone 17 ยังถูกเรียก Scratchgate จากตัวเครื่องอะลูมิเนียมที่ขีดข่วนง่าย โดยเฉพาะรุ่น Deep Blue ที่รอยเห็นชัดเจน แม้แต่เครื่องโชว์ใน Apple Store ก็มีรอยแล้ว สวนทางกับการออกแบบที่ควรทนทานกว่า
ส่วนชั้นเคลือบกันแสงสะท้อนใหม่ แม้ช่วยลดแสงรบกวน แต่ยังด้อยกว่า Samsung Galaxy S24 Ultra ในการใช้งานจริง ขณะที่ iOS 26 เต็มไปด้วยบั๊กภาพและ glitch ทำให้รู้สึกไม่เรียบร้อย สร้างความผิดหวังให้ผู้ใช้รุ่นใหม่
แม้ iPhone 17 รวม iPhone Air จะมีจุดเด่นเรื่องกล้องและแบตเตอรี่ แต่ปัญหาพื้นฐานอย่างการโทรและส่งข้อความที่ล้มเหลว ทำให้กลายเป็นของราคาแพงไปโดยปริยาย