
กลุ่มผู้ถือหุ้นของ Apple เริ่มไม่พอใจอย่างหนักหลังจากที่บริษัทเลื่อนแผนการเปิดตัว Apple Intelligence หลายครั้ง โดยเฉพาะในฟีเจอร์สำคัญอย่าง Siri เวอร์ชันใหม่ ซึ่งเคยสัญญาไว้ว่าจะมาพร้อม iPhone 16 แต่ตอนนี้เลื่อนไปถึงปี 2026
กลุ่มผู้ถือหุ้นนำโดย Eric Tucker ได้ยื่นฟ้อง Apple โดยอ้างว่า บริษัทสร้างความเข้าใจผิด ให้พวกเขาเชื่อว่า Apple Intelligence จะเป็นฟีเจอร์สำคัญที่ผลักดันยอดขาย iPhone 16 ในขณะที่ความจริงแล้ว ฟีเจอร์เหล่านี้ยังไม่พร้อมใช้งานจริง และอาจทำให้บริษัทเสียรายได้ไปถึง $100,000 ล้าน ในปีงบประมาณนี้ (สิ้นสุด 9 มิถุนายน 2025)
Apple เคยประกาศเมื่อปี 2024 ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับ Siri เพื่อสร้างประสบการณ์ ฉลาดและใกล้เคียงผู้ใช้มากขึ้น แต่จนถึงงาน WWDC 2025 ก็ยังไม่มีอะไรออกมาจริง ๆ นอกจากรายงานว่ายังอยู่ระหว่างการพัฒนา ทำให้นักลงทุนบางส่วนมองว่า Apple อาจเกินจริงในการโปรโมตเทคโนโลยีที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

ไม่เพียงแค่นั้น ราคาหุ้นของ Apple ยังตกฮวบลง เกือบ 25% จากวันที่ 26 ธันวาคม 2024 ทำให้มูลค่าตลาดหายไปกว่า $900,000 ล้าน ส่วนหนึ่งมาจากความไม่แน่นอนทางเทคโนโลยี และอีกส่วนก็มาจากรอบด้านนโยบายภาษีนำเข้าที่รัฐบาล Trump ปรับเพิ่ม ซึ่งกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการส่งออก
ในเอกสารฟ้องร้อง Reuters ระบุว่า Tim Cook, Kevan Parekh (CFO) และ Luca Maestri (อดีต CFO) ถูกใส่ชื่อเป็นจำเลยในคดี ฐานให้ข้อมูลไม่ตรงความจริงและฉ้อโกงหลักทรัพย์ ซึ่งหากศาลตัดสินตามคำฟ้อง Apple อาจต้องเผชิญกับค่าเสียหายมหาศาล และกระบวนการตรวจสอบภายในที่เข้มงวดขึ้น
ใครที่รอคอย AI บน iPhone หรืออยากเห็น Siri ใหม่ที่ฉลาดกว่าเดิม ตอนนี้คงต้องเตรียมใจว่าอาจต้องรอถึงปีหน้า และสำหรับนักลงทุน นี่อาจเป็นบทเรียนว่า การขายอนาคตด้วยคำสัญญา อาจทำให้เสียความเชื่อมั่นได้ หากไม่สามารถส่งมอบได้จริง