Apple มีแผนนำ Touch ID กลับมาใช้ใน iPhone พับได้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 ตามรายงานจาก Bloomberg การตัดสินใจครั้งนี้นับเป็นการหวนคืนสู่เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือครั้งแรกใน iPhone รุ่นเรือธงนับตั้งแต่ iPhone X เปิดตัว Face ID ในปี 2017 โดย Touch ID จะถูกฝังในปุ่มด้านข้าง แทนการใช้ Face ID เนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่ภายในเครื่อง
iPhone พับได้รุ่นนี้จะมีดีไซน์แบบพับเหมือนหนังสือ คล้าย Samsung Galaxy Z Fold มาพร้อมจอด้านนอก 5.5 นิ้ว และจอด้านใน 7.8 นิ้วเมื่อกางออก โดย Apple มุ่งพัฒนาจอให้ไร้รอยพับด้วยเทคโนโลยีจาก Samsung Display และใช้กระจกบางพิเศษจาก Corning เพื่อความทนทานและบางเฉียบเพียง 4.5-4.8 มม. เมื่อกางออก
คาดว่า iPhone พับได้จะใช้ชิป A20 และมีกล้องหลังคู่ 48 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ ตัวเครื่องใช้กรอบไทเทเนียมและบานพับจากโลหะผสมไทเทเนียม-สเตนเลส เพื่อความแข็งแรงและน้ำหนักเบา อย่างไรก็ตาม ราคาคาดการณ์สูงถึง 2,000-2,500 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็น iPhone ที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เหตุผลที่ Apple เลือก Touch ID อาจมาจากข้อจำกัดด้านการออกแบบที่ทำให้ Face ID ซึ่งต้องใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ไม่เหมาะกับดีไซน์บางเฉียบของ iPhone พับได้ ตามข้อมูลจากนักวิเคราะห์ Ming-Chi Kuo การใช้ Touch ID ที่ปุ่มด้านข้างคล้ายกับ iPad Air และ iPad mini รุ่นปัจจุบัน ถือเป็นทางเลือกที่ประหยัดพื้นที่
การพัฒนา iPhone พับได้เริ่มมีความคืบหน้า โดย Foxconn คาดว่าจะเริ่มผลิตในช่วงไตรมาส 3 หรือ 4 ปี 2025 และจะผลิตในจำนวนจำกัด 3-5 ล้านเครื่องในปีแรก เนื่องจากความซับซ้อนของการออกแบบ Apple ยังได้ปรับแต่ง iOS ให้เหมาะกับจอพับ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและเข้ากับระบบนิเวศของ Apple
iPhone พับได้นี้ไม่เพียงแต่เป็นก้าวสำคัญของ Apple ในตลาดสมาร์ทโฟนพับได้ แต่ยังอาจพลิกโฉมวงการด้วยนวัตกรรมจอไร้รอยพับและการผสาน AI เข้ากับการใช้งาน เช่น การดูแผนที่พร้อมแชทกับผู้ช่วย AI ซึ่งจะยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ให้เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง Samsung หรือ Google
