เทคโนโลยี

Amazon โดนวิจารณ์หลังวิดีโอ Recap ให้ข้อมูลผิดเพียบ

AI สรุปซีรีส์ Fallout ได้ไม่ถูกต้อง

Amazon ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำ นั่นคือการสร้างวิดีโอสรุปเนื้อหาของซีรีส์ด้วย AI บนแพลตฟอร์ม Prime Video แต่ผลงานชิ้นแรกกลับสร้างเสียงวิจารณ์ทันที เมื่อวิดีโอสรุปตอนยาวของซีรีส์ชื่อดังอย่าง Fallout ซีซันแรก ถูกผู้ชมจับได้ว่ามีข้อมูลผิดพลาดหลายจุด โดยวิดีโอดังกล่าวสามารถดูได้ในส่วน Extras ของหน้าซีซัน 2 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ใช้เริ่มตั้งคำถามต่อความแม่นยำของระบบนี้อย่างหนัก

หนึ่งในความผิดพลาดที่สำคัญคือการระบุว่าฉากย้อนอดีตที่เกิดขึ้นในลอสแอนเจลิสเป็นเหตุการณ์ใน ทศวรรษ 1950 ทั้งที่ตามไทม์ไลน์ของซีรีส์จริงแล้วเป็น ปี 2077 ซึ่งสอดคล้องกับจักรวาลเกม Fallout ที่แยกจากโลกจริงหลังปี 1945 อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ AI ยังตีความตอนจบของซีซันแรกอย่างคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์และแรงจูงใจของตัวละครหลักอย่าง Lucy และ The Ghoul ก่อนเปิดทางสู่เรื่องราวในซีซันถัดไป

แม้ว่าวิดีโอนี้จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ AI ในการจัดฉาก, ผสมคลิป, และวางเสียงได้อย่างเป็นลำดับเรื่องราว แต่การ ไม่เข้าใจรายละเอียดปลีกย่อยของเนื้อหา ก็กลายเป็นจุดอ่อนที่ชัดเจน ความผิดพลาดเหล่านี้อาจไม่ถึงขั้นทำลายประสบการณ์รับชมซีซัน 2 แต่ก็ไม่ช่วยเสริมความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีที่ Amazon นำมาใช้ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความแม่นยำของข้อมูล

amazon-recap-fallout-mistake

สื่อหลายแห่งตั้งข้อสังเกตว่านี่เป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ง่ายมาก หากมีทีมงานที่เป็นมนุษย์ซึ่งได้ดูซีรีส์จริงมา ตรวจทาน (Quality Control) ก่อนเผยแพร่ แต่ดูเหมือนว่ากระบวนการควบคุมคุณภาพของ Amazon ยังไม่รัดกุมพอ โดยเฉพาะเมื่อบริษัทกำลังเร่งใช้ AI ในหลายส่วนของแพลตฟอร์มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความรวดเร็ว

นอกจากปัญหาด้านวิดีโอสรุปแล้ว ล่าสุด Amazon ยังต้องเผชิญกับประเด็นการใช้ AI ในงานสร้างสรรค์อื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะการที่บริษัทต้อง ถอดเสียงพากย์ที่สร้างด้วย AI ของอนิเมะหลายเรื่อง เช่น Banana Fish หลังจากที่ผู้ชมวิจารณ์อย่างหนักว่าคุณภาพเสียงแย่จนรับไม่ได้ ทำให้ประเด็นการใช้ AI ในงานคอนเทนต์ของบริษัทถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดมากขึ้นกว่าเดิม

ด้วยฐานผู้ชมจำนวนมาก ความผิดพลาดเล็กน้อยจึงถูกพบและขยายวงได้อย่างรวดเร็ว จนหลายฝ่ายคาดว่า Amazon อาจต้องถอดวิดีโอสรุป Fallout ออกไปแก้ไขก่อนนำกลับมาลงใหม่ และหากยังเดินหน้าพึ่งพา AI อย่างเข้มข้นเช่นนี้ โดยขาดการตรวจทานจากมนุษย์ ก็คงมีข้อบกพร่องอีกมากที่รอให้ผู้ใช้ค้นพบในอนาคต

ที่มา
Engadget

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button