จั่วหัวมาแบบนี้ ผมเชื่อเลยว่าผู้อ่านหลายท่านจะต้องเคยประสบพบเจอกับความไม่สมเหตุสมผลของตรรกะในโลกวิดีโอเกม มาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งตรรกะไม่สมเหตุสมผลที่ว่าอาจจะหมายถึง กฏแปลกๆที่เราเจอในตัวเกม, การกระทำของตัวละครที่หาเหตุผลไม่ค่อยจะได้ว่ามันทำไปทำไม หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ที่ถึงแม้มันจะ Make sense ในเกมแต่พอเราเอากลับมาคิดดูอีกที ก็ชวนขมวดคิ้วพร้อมกับอุทานว่า “ เออ อย่างงี้ก็ได้เหรอ “ โดยในวันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านมาพบกับ ’10 ตรรกะชวนงงในโลกวีดีโอเกม’ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่าครับ
1. โรงพยาบาลรักษาทุกโรคใน GTA
ไม่ว่าคุณจะโดนยิง จมน้ำ รถระเบิด ไฟคลอก โดนกระทืบ รถชน หรือแม้กระทั่งเครื่องบินตก โรงพยาบาลใน GTA สามารถรักษาคุณได้ ผมว่าหลายคนที่เคยเล่นเกมตระกูลนี้คงจะคุ้นเคยกับโรงพยาบาลในเกมเป็นอย่างดี ( ถ้าไม่ใช้สูตรโกงเพิ่มเลือดอ่ะนะ ) ไม่ว่าคุณจะเผลอโดนยิงจากแก๊งคู่อริ หรือโดนตำรวจรุมยิงตายคาที่ หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ที่ถ้าเกิดขึ้นในโลกจริงของเราก็ตายแน่ๆ เช่น ขับเครื่องบินชนต้นไม้ ( เครื่องบินระเบิด แต่ต้นไม้ไม่เป็นอะไร ), โดนรถถังบี้จนแบน หรือ จะกระโดดลงมาจากความสูงระดับเหนือก้อนเมฆจนตัวละครกระแทกกับพื้นเต็มๆ เพียงแค่เรารอหน้าจอ Wasted ไม่นาน เราก็จะมาโผล่ที่หน้าโรงพยาบาลในละแวกที่เราเพิ่งบาดเจ็บไป ( จริงๆ ก็คือตายอ่ะแหละ ) แถมออกมาตัวละครของเราจะไม่เป็นอะไรเลย ทุกอย่างครบ 32 วิ่งได้ กระโดดได้ แถมไร้ซึ่งรอยขีดข่วน ( คือรอยกระสุนที่โดนยิง หรือรอยแผลที่โดนระเบิดมาก่อนหน้านี้คือไม่มีเลยแม้แต่นิด ) ซึ่งนี่ก็รวมไปถึง NPC ในเกมด้วยนะไม่ว่าพวกเขาจะโดนอะไรจนตายก็ตาม ก็จะมีรถพยาบาลจากโรงพยาบาลละแวกนั้น ขับมารักษาจน NPC คนนั้นลุกขึ้นมาเดินปร๋อได้ตามปกติเหมือนไม่เคยโดนอะไรเลย
2. โดนซอมบี้กัดแต่ไม่ติดเชื้อใน Resident Evil
ผมว่าหลายคนที่เคยได้เล่นเกมแนว Survival Horror ที่มันมี Zombie เนี่ย น้อยเกมที่จะมีซอมบี้ที่กัดเราทีเดียวตาย ( เท่าที่ผมคิดได้ก็มีแค่ Undead Nightmare ) ซึ่งเกมในตระกูล Re เนี่ยผมว่าตัวดีเลย เห็นใครโดนกัดที่มันไม่ใช่ตัวเอกเนี่ย แค่ครั้งเดียวก็ติดเชื้อ รอเวลากลายร่างได้เลย แต่ในทางกลับกันสำหรับผู้เล่น ไม่ว่าคุณจะโดนซอมบี้รุมกัดไปไม่รู้กี่หน แค่คุณมียาเขียวรักษาบาดแผล ตัวละครของคุณก็จะอาการดีขึ้นทันทีโดยไม่ต้องพึ่งวัคซีน ซึ่งมันก็สมเหตุสมผลในมุมของเกมเพลย์ที่จะไม่ทำให้เกมยากจนเกินไป ( แต่ถ้ามันมีระบบแบบนี้ผมว่าก็น่าลองนะ ) หรือทำให้ตัวผู้เล่นเครียดกับตัวเกมมากจนเกินพอดี แต่ถ้าเราลองกลับมาคิดดูมันก็เป็นตรรกะของเกมที่ดูตลกดี ที่ตัวเอกของเราโดนรุมกัดตลอดทั้งเกมมันก็ไม่ได้กลายเป็นซอมบี้แต่อย่างใด แต่ตัวประกอบหรือ NPC แค่โดนกัดหรือแค่ข่วนทีเดียวก็ติดเชื้อแล้ว พูดได้เลยว่าตัวละครไหนหน้าตาธรรมดาๆ เหมือนตัวประกอบก็คิดไว้เลยว่าพวกเขาคงไม่รอดแน่ๆ 5555
3. เดินเข้าบ้านคนอื่นได้ ( และไม่โดนไล่ ) ในเกม RPG หลายๆ เกม
สำหรับตรรกะตรงนี้ผมว่าแถบจะมีในทุกๆ เกมไม่ว่าจะเป็นเกมจากตระกูลไหนก็ตามแต่ ขอแค่มันเกมแนว RPG ก็พอ โดยตัวละครของตัวเอกของเราในหลายๆ เกม สามารถเดินเข้าออกบ้านทุกหลังในเกมได้อย่างอิสระและที่สำคัญคือเข้าไปแล้วไม่โดนเขาไล่ออกมาด้วย แถมในบางเกมเรายังสามารถหยิบข้าวของเครื่องใช้หรือพวกไอเทมที่วางๆ อยู่ในบ้านได้โดยไม่ต้องขอเลยหยิบเอาไปใช้ได้เลยตามสบาย ในบางเกมเราก็สามารถเข้าไปทุบตีของในบ้านเขาได้โดยไม่โดนด่าอีกต่างหาก ซึ่งไอ้ตรรกะแปลกๆ ที่ว่ามานี้มันก็มีไว้เพื่อส่งเสริมให้ตัวผู้เล่นช่างสำรวจนั่นเอง ( แต่ก็คงไม่ต้องถึงขั้นเข้าบ้านใครก็ได้แบบนี้ ) แหม่จะว่าไป การเป็นตัวเอกในเกมแนวนี้คงใช้ชีวิตสบายน่าดูเลยนะครับ พอเงินหรือยาหมดเราก็ไปค้นตามบ้าน NPC มาตุนไว้ได้อย่างสบายใจไร้กังวล ( บางทีเราทำๆ ไปก็สงสารชาวบ้านในเกมเหมือนกันนะ )
4. สงสัยลมคงพัดมา ใน The Elder Scrolls V: Skyrim
นอกจากประโยคเด็ดอย่าง “I took an arrow in the knee – ข้าโดนธนูปักที่หัวเข่า“ แล้วเนี่ย ผมว่าอีกประโยคนึงที่มันทั้งฮาและไม่สมเหตุสมผลสุดๆ อีกอันคงไม่พ้น “ Must have been the wind “ ซึ่งผมขออธิบายก่อนว่าประโยคนี้เนี่ยมันเป็นมีมของกลุ่มผู้เล่น Skyrim กัน โดยก่อนอื่นเราจำเป็นต้องอัพค่า Stealth ของตัวละครเราให้เต็ม และต่อจากนั้นถ้าเรายิงธนูใส่ศัตรูตัวไหนก็ตามในเกม ( ต่อให้ยิงในระยะใกล้มากๆ ) ศัตรูที่โดนเรายิงก็จะอุทานว่า “ Must have been the wind “ คือเฮ้ยแบบนี้ก็ได้เหรอ ลมพัดลูกธนูเข้ากลางหัวมันมีด้วยเหรอ คือถ้าบรรยายด้วยตัวอักษรมันคงจะเห็นภาพไม่ชัดพอ แนะนำว่าลองเอาประโยคที่ว่าไปค้นหาใน Youtube เลยครับ บอกเลยว่ามันสุดจะฮาและ Wtf มากๆ ( ถ้าเราอัพค่า Stealth เต็มทุกอย่างแล้วเนี่ยพูดได้เลยว่า แค่ยืนเฉยๆ ก็แทบจะไม่มีคนมองเห็นเราอยู่แล้ว แถมเราไปถอดเสื้อผ้า NPC มันก็ยังไม่รู้ตัวอีกนะว่าตัวเองล่อนจ้อนอยู่เป็น Stat ที่โคตรโกง )
5. ตัวละครเอกเป็นใบ้ใน Dragon dogma, Zelda, Fallout และอื่นๆ
ตรรกะข้อนี้ผมว่ามันเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดใช้ได้เลย ( อย่างน้อยก็สำหรับตัวผมอ่ะนะ ) เพราะตัวละครเอกของเราสามารถทำอะไรที่ซับซ้อนได้มากมายตั้งแต่ร่ายคาถาเวทมนตร์, สามารถต่อกรกับอสูรกายสุดโหด หรือแม้กระทั่งกู้โลกให้พ้นจากภัยอันตรายได้อย่างไม่ยากเย็น แต่กลับทำในสิ่งที่โคตรจะเบสิคอย่างการ “พูด“ อ่านไม่ผิดหรอกครับ ฮีโร่สุดเทพของเราไม่สามารถพูดได้หรือก็คือเป็นใบ้นั่นแหละครับ ในหลายๆ เกมโดยเฉพาะแนวสวมบทบาท (RPG) ที่เราสามารถปรับแต่งตัวละครเอกของเราได้อย่างอิสระนี่ตัวดีเลย แต่สำหรับบางเกมมันก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้างเช่น Fallout ที่มีตัวเลือกในการตอบคำถาม ( และ Fallout 4 ก็มีเสียงภาคด้วยนะ ) แต่บางเกมอย่าง Zelda ตัว Link เป็นถึงฮีโร่แห่งกาลเวลาที่ล้มจอมมาร Ganon ลงได้ แต่กลับพูดไม่ได้ซึ่งดูยังไงๆ มันก็เป็นตรรกะที่โคตรแปลกเลย ( คือมันจะใช้วิธีไหนสื่อสารกับคนอื่นล่ะถ้าไม่ใช่การพูด ) ซึ่งสมัยนี้การใส่เสียงพากย์ตัวละครก็ไม่ได้ยากเหมือนสมัยก่อนแล้วด้วย แถมถ้าตัวละครเราใบ้รับประทานเนี่ยอาจจะทำให้ผู้เล่นไม่อินกับเกมไปเลยอีกต่างหาก
6. ของกินรักษาบาดแผลใน Castlevania, Dead cells,Zelda และอื่นๆ
ผมว่าข้อนี้มันสามารถไปได้หลายเกมเลยล่ะ ( และผมว่าก็คงกลายเป็นสามัญสำนึกของเหล่าเกมเมอร์ไปแล้วด้วย) สำหรับการกินอาหารเพื่อเพิ่มเลือดไม่ว่าจะเป็น ขนมปัง,ไก่ทอด,พิซซ่า, เบียร์ หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มชูกำลังที่เมื่อผู้เล่นกิน/ดื่มเข้าไป แผลตัวละครของเราก็จะค่อยสมานๆ จนหายโดยที่ไม่ต้องพึ่งวิธีการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องเลย แถมตรรกะนี้ก็ไปโผล่ในหลายเกมหลายแนวเลยตั้งแต่แนวตะลุยฉากแบบ Deadcells ที่เราสามารถกินน่องไก่เพื่อเพิ่มเลือดจากแผลที่เราโดนศัตรูฟันเราเกือยตาย หรือใน Castlevania ที่เราสามารถเก็บไก่งวงกินได้จากการตีโคมไฟ ( คือมันหล่นมาเป็นไก่งวงได้ไง ) หรือจะเป็นในเกม PUBG ที่เราสามารถกระดกเครื่องดื่มชูกำลังแล้วเลือดก็เต็มหลอดได้ ทั้งๆ ที่เมื่อกี้โดนศัตรูระดมยิงจนลงไปนอนคลาน แต่เราก็เลี่ยงไม่ได้ที่ตรรกะนี้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของวีดีโอเกมไปแล้วอย่างเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ครับ
7. ความทนทานเกินมนุษย์ของตัวละคร จาก Tekken7, Street Fighter V, Mortal Kombat และ อื่นๆ
จริงๆ แล้วตรรกะนี้มันก็มีอยู่ในอีกหลายเกมๆ เลยนะครับ ที่ตัวละครเอกของเรามันมีความทนทานต่อความเสียหายจากอะไรต่างๆ ในเกมทั้งกระสุนยันลูกระเบิด ที่ถึงแม้จะโดนก็สามารถลุกขึ้นใหม่ได้หลังจากจอหายแดงแล้ว แต่ตัวอย่างที่เห็นได้ค่อนข้างชัดเจน ส่วนตัวผมคงต้องยกเกมแนวต่อสู้ขึ้นมา เพราะภายในเกมที่ผมพูดถึงเนี่ย แต่ละตัวละครก็มีท่าไม้ตายที่รุนแรงและอันตรายพอที่จะฆ่าคนได้จริงๆ อยู่หลายท่าตั้งแต่ Shoryuken ที่ถ้าโดนเข้าจังๆ คงหัวหลุดออกจากตัว หรือท่าพิเศษแทบจะทุกท่าในเกม Mortal Kombat ที่คือโดนเข้าไปก็ตายแน่ๆ
แต่ถึงยังไงทุกท่าที่ผมพูดถึงเนี่ย ตัวละครของเราต่อให้โดนโจมตีด้วยท่าเหล่านี้ไปเท่าไหร่ ถ้าหลอดเลือดยังไม่หมดตัวละครเราก็ยังสามารถลุกขึ้นมาสู้ต่อได้อีก แถมไม่ดูมีท่าที่จะรู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย ( บอกได้เลยว่าตัวละครในเกมต่อสู้นี่มันคนเหล็กดีๆ นี่เอง ) ซึ่งตรรกะดังกล่าวก็มีผลมาจากเกมเพลย์อีกเช่นกันครับ ที่ต้องทำให้การต่อสู้มันลื่นไหลไม่ติดขัด พูดง่ายๆ ก็คือถ้ามันไม่เว่อร์มันก็ไม่สนุกนั่นแหละครับ ( การที่เห็นตัวละครเราโดนดาบแทงทะลุตัวแต่สามารถสู้ต่อได้ มันก็ดูเป็นภาพที่แปลกๆ ดีเนอะครับ )
8. ศัตรูขี้ลืมในเกมแนวลอบเร้นหลายๆ เกม
คือนอกจากเกมแนวลอบเร้นแล้วเนี่ย เกมแอคชั่นหลายๆเกมที่มี Stealth section ก็มักจะประสบปัญหาตรงนี้เหมือนกันนั่นก็คือความ “ ขี้ลืม “ ของศัตรูนั่นเอง โดยเจ้าความขี้ลืมเนี่ยมันมีตั้งแต่ลืมว่ามันเห็นเราครั้งสุดท้ายตรงไหนทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันหมาดๆ, ไล่ยิงกันมาแต่พอหนีจนพ้นสายตาไปก็ลืมเสียแล้วว่ากำลังไล่เราอยู่แล้วศัตรูพวกนี้มันก็ Rage quit เลิกไล่เราดื้อๆ ไปซะอย่างนั้น ( แบบหลบในพุ่มแป๊บเดียวก็ “ Oh he’s gone “ คือพี่ช่วยตั้งใจหาหน่อยได้ไหม ) หรือจะเป็นเคสหนักๆ อย่างการที่ศัตรูมันลืมว่าเพื่อนของมันเพิ่งถูกเราฆ่าทั้งๆ ที่มันเพิ่งยืนคุยกันเมื่อกี้ คือเฮ้ย บางทีมันก็มากไปนะ เพื่อนโดนยิงตายต่อหน้าแต่ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงก็ลืมแล้ว คือถามจริงพวกพี่ๆ ขี้ลืมอะไรขนาดนั้น ( คือถ้าผมเป็นหัวหน้าตัวร้ายก็คงไม่จ้างคนพวกนี้แน่นอน )
ซึ่งไอ้ความขี้ลืมของศัตรูพวกนี้เนี่ยหลายๆ เกมก็มีวิธีแก้แตกต่างกันไป ( อย่างเช่นใน Splinter Cell: Chaos Theory ก็จะมีระบบ Alarm system ที่จะอยู่ถาวรจนกว่าผู้เล่นจะจบด่านทำให้การเล่นต่อยากขึ้น หรือจะเป็นระบบ Caution ใน Metal Gear ที่จะคอยบอกว่าตอนนี้ศัตรูกำลังตื่นตัวอยู่มากน้อยแค่ไหน ) แต่ไม่ว่าจะมีวิธีแก้มากแค่ไหนก็ไม่วายที่ผู้เล่นจะต้องกับพบอาการขี้หลงขี้ลืมของศัตรูพวกนี้จนได้ไม่ว่าจะเป็นเกมไหนก็ตาม
9. กระเป๋าเก็บของ 4 มิติใน Resident Evil,Fallout,The Witcher และอื่นๆ
ผมว่าเกมในปัจจุบันเนี่ย การที่ตัวละครเอกจะมีกระเป๋า 4 มิติมันคงไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไรมากจนเกินไปซะด้วยซ้ำ แถมยังเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แสนจะจำเป็นอีกด้วย ไม่ว่าเกมนั้นจะเป็นเกมแนวไหนก็ตามแต่ โดยผมก็ขอยกตัวอย่างจากเกมแนว RPG มาอาทิเช่น Fallout ที่เราสามารถพกของได้เป็นร้อยๆ อย่าง ทั้งๆ ที่ตัวละครเราไม่มีแม้กระทั่งเป้สะพายหลัง พอจะหยิบใช้ของตัวละครเรา มันก็จะเอามือมาที่หลังกางเกงแล้วก็หยิบออกมา แถมตอนเก็บก็แค่เอาของที่ถือมาใส่กระเป๋าหลัง ไม่ว่าจะเป็นปืนกระบอกเล็กๆ ยัน Bazooka แค่กดเก็บของเท่านั้น ตัวละครของเราก็จะเอามันใส่กระเป๋าหลังได้อย่างไม่มีปัญหา ( กระเป๋าที่ว่านี่ก็กระเป๋ากางเกงนี่ล่ะที่เห็น ) หรือจะเป็นหีบเก็บของทะลุมิติของเกม RE 2 Remake ที่เราวางของไว้ในหีบ ต่อให้เราไปเปิดที่อื่น ของเดิมที่เราใส่ไว้ในหีบก่อนหน้ามันก็จะตามมาด้วย ( แต่ถ้าเป็นภาคเก่าๆ เล่นระดับยากจะไม่มีแบบนี้ ) ซึ่งระบบต่างๆ ที่ผมยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ ในปัจจุบันมันก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเกมในยุคนี้ ไม่ว่ามันจะเป็นแนว Rpg ( โดยเฉพาะแนวนี้ ) หรือ แนวผจญภัยก็ตามแต่ ตัวละครเอกของเราก็มักจะมาพร้อมกับกระเป๋า 4 มิติอย่างขาดไม่ได้
10. สิ่งกีดขวางสุดทนทานใน GTA, God of War, Watchdog, PUBG และอื่นๆ
มากันที่ข้อสุดท้าย ไม่ว่าคุณจะเล่นเกมแนวไหน ยังไงก็หลีกเลี่ยงข้อนี้ไปไม่ได้กับ สิ่งกีดขวางสุดทนทานที่ไม่ว่าตัวละครเอกของคุณจะสตรองแค่ไหนก็ไม่สามารถผ่านสิ่งกีดขวางนี้ไปได้ ตัวอย่างเช่น รั้วไม้ในเกม PUBG ที่ถึงแม้คุณจะขับรถใหญ่มาด้วยความเร็วสูง แต่พอชนเข้ากับราวกลายเป็นรถเราระเบิดแทน ( ฟาร์มของมาดิบดี แต่ดันมาตายเพราะรั้วไม้ ), ต้นไม้เหล็กกล้าในตระกูลเกม GTA / Watchdog ที่ไม่ว่าเราจะเอายานพาหนะชนิดไหนมาชนก็ตาม สิ่งที่ตามมาก็ไม่พ้นการระเบิดของรถที่ผู้เล่นขับมา ( แถมตัวละครอาจจะตายด้วย ) แต่ต้นไม้ที่ถูกชนจังๆ เนี่ยดูจะไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิด, ประตูในเกม God of War ที่เราไม่สามารถเปิดออกได้ต้องหาคีย์ไอเทมมาเปิดเท่านั้นถึงจะได้ไปต่อ แต่เดี๋ยวก่อน ตัวที่เราเล่นมัน Kratos เลยนะเว้ย ทำไมเราต้องมาเสียเวลาหาของไร้สาระแบบนี้ ถีบประตูให้พังมันจะไม่ง่ายกว่าเหรอ หรือจะเป็นเคสแปลกๆ ที่เรามักจะเจอในเกม Pokemon ที่เราไม่สามารถเดินผ่านต้นไม้ได้จนกว่าจะมี Skill Cut เพื่อเคลียร์ทางหรือ เจอเจ้าคาบิก้อนนอนขวางทางอยู่แล้วก็ไปต่อไม่ได้ ( คือจริงๆ เดินอ้อม มันคงง่ายกว่าอ่ะนะ ) ซึ่งที่ว่ามานี้มันก็เป็นตรรกะแปลกๆ ที่ผมว่าทุกคนต้องเคยเจอมันมาบ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ ( แถมน่าจะเป็นตรรกะที่ชวนให้เราหัวร้อนมากที่สุดอีกต่างหาก )
———————
ก็จบกันไปแล้วนะครับ กับ 10 ตรรกะชวนงงที่เราพบเจอในโลกวิดีโอเกม เป็นยังไงกันบ้างมีข้อไหนที่คุณผู้อ่านเคยเจอกับตัวมาบ้างรึเปล่า หลังจากทำการจัดอันดับนี้เสร็จตัวผมก็รับรู้ว่ามันมีอีกหลายตรรกะที่โคตรจะชวนมึน อีกเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น ประตูไม้ที่ล๊อคอยู่แทนที่เราจะพังมันเข้าไปกลับต้องมาหากุญแจไข หรือการที่ตัวละครเอกของเราในหลายเกมเขาไม่เคยเข้าห้องน้ำกันเลย ( ถ้าไม่นับเกมสายเอาตัวรอดพวก ARK นะครับ ) ซึ่งสุดท้ายบทสรุปที่ผมพอจะคิดได้ก็คงเป็นผลพวงมาจากเกมเพลย์ล้วนๆ เลย ที่มันสามารถทำให้ตรรกะแปลกๆ เหล่านี้มีความสมเหตุสมผลในตัวของมันเองได้ และที่สำคัญมันก็ทำให้เกมเล่นสนุกขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นสุดท้ายแล้วเกมมันก็คือเกมแหละครับ ถ้ามันสมจริงเกินพอดีมันก็คงไม่สนุกใช่ไหมล่ะ