เปิดบทสัมภาษณ์สุด Exclusive กับผู้พัฒนาเกม EVILBANE
มาติดตามข้อมูลของเกมแอ็กชันในโลกดาร์กแฟนตาซีอันกว้างใหญ่ที่น่าสนใจกันได้เลย

สำหรับคอเกมแอ็กชันที่กำลังตั้งตารอการผจญภัยในโลกดาร์กแฟนตาซีอันกว้างใหญ่ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะล่าสุดทีมงาน This Is Game Thailand ได้รับโอกาสพิเศษในการเปิดบทสัมภาษณ์สุด Exclusive กับ Kim Sang-hun ผู้ที่เป็น Lead Director ของเกม EVILBANE ซึ่งเขาก็ถือว่าเป็นผู้มากประสบการณ์คนหนึ่งใน Netmarble Monster ที่ในตอนนี้กำลังนำทีมพัฒนาเกมแอ็กชันฟอร์มยักษ์เกมนี้
คุณ Kim สั่งสมประสบการณ์ในวงการเกมมานานกว่าสองทศวรรษ โดยเคยเป็นผู้นำในการพัฒนาเกมแอ็กชันที่ได้รับรางวัลมากมายทั้งบน PC และมือถือมาก่อน และหลังจากเข้าร่วม Netmarble Monster ในปี 2022 เขาก็รับผิดชอบในการกำหนดทิศทางหลักและการพัฒนาเกม EVILBANE บทความนี้จะพาคุณไปติดตามข้อมูลเชิงลึกและมุมมองที่น่าสนใจจากผู้พัฒนาโดยตรงเกี่ยวกับเกมแอ็กชันที่จะมาเขย่าวงการเกมมือถืออย่างแน่นอน!
เปิดบทสัมภาษณ์ผู้พัฒนาเกม EVILBANE

ทีมงาน TIG: เหตุใดทีมงานจึงเลือกที่จะดึงแรงบันดาลใจจากจักรวาล Raven สำหรับโปรเจ็กต์ใหม่นี้?
EVILBANE เป็นเกมแอ็กชันใหม่ที่เกิดขึ้นในจักรวาล Raven แม้จะสืบทอดโทนดาร์กแฟนตาซีแบบฉบับ Raven แต่โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่แตกต่างอย่างชัดเจน เรื่องราวจะเกิดขึ้นในยุคสมัยที่แตกต่างในโลกเดียวกัน รายละเอียดฉากในเรื่องบางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงตลอดการพัฒนา
ทีมงาน TIG: มีบทเรียนใด ๆ ที่ได้เรียนรู้จากการพัฒนา Raven แล้วนำมาใช้หรือพัฒนาใน EVILBANE ไหม?
เรากำลังดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพงานภาพและการถ่ายทอดงานศิลป์อย่างละเอียด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีใน Raven2 แม้ว่าแนวเกมเพลย์จะแตกต่างกัน แต่เราเน้นที่การนำเสนอแอ็กชันที่ถ่ายทอดบรรยากาศโลกดาร์กแฟนตาซีอย่างเต็มที่

ทีมงาน TIG: เนื่องจาก EVILBANE เป็นการผสมผสานระหว่างเกมแนวแอ็กชันและแนวกลยุทธ์ ทีมงานรับมือกับความท้าทายในการผสมผสานสองแนวนี้เข้าด้วยกันอย่างไรบ้าง?
EVILBANE โดดเด่นในแนวเกมแอ็กชัน Co-op ด้วยรากฐานจากโลกแฟนตาซีที่สมจริง ผู้เล่นจะได้ใช้อาวุธทั้งระยะไกลและระยะประชิด และเราออกแบบการเผชิญหน้าอย่างพิถีพิถันเพื่อให้จุดแข็งของอาวุธแต่ละประเภทแสดงออกมาอย่างชัดเจนในระหว่างภารกิจและการต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ การประสานความสามารถอันทรงพลังและการเอาชนะบอสเป็นทีมถือเป็นหัวใจสำคัญของประสบการณ์ และเราเชื่อว่าเกมนี้จะมอบประสบการณ์ที่น่าดึงดูดใจเป็นพิเศษให้กับผู้เล่น
ทีมงาน TIG: แรงบันดาลใจของแนวคิดระบบภารกิจที่ให้ผู้เล่นสามารถเข้าสู่การต่อสู้ในแบบของตนเองคืออะไร?
เราต้องการให้ผู้เล่นมีเป้าหมายทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยแต่ละเป้าหมายก็มอบความสนุกสนานที่แตกต่างกันไป สำหรับระยะสั้น การทำภารกิจให้สำเร็จจะปลดล็อกและอัปเกรดอุปกรณ์ ช่วยให้ผู้เล่นมีตัวเลือกในการต่อสู้ที่หลากหลายยิ่งขึ้น ในระยะกลาง ผู้เล่นจะได้พัฒนากลยุทธ์เพื่อยึดครองพื้นที่เป้าหมายผ่านการเลือกอุปกรณ์และการประสานงานของทีม ท้ายที่สุด เป้าหมายในระยะยาวคือการที่ผู้เล่นต้องร่วมมือกันเพื่อปลดปล่อยดินแดนทั้งหมด
ความท้าทายที่สำคัญของเราคือการทำให้ประสบการณ์การเล่นยังคงน่าสนใจ เพื่อให้ผู้เล่นไม่รู้สึกเหนื่อยล้ากับการเล่นซ้ำ ๆ และยังรู้สึกมีแรงจูงใจเมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ เอง

ทีมงาน TIG: ทีมต้องการให้ผู้เล่นรู้สึกอย่างไรเวลาใช้ระบบ Cinematic Skill?
เราต้องการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ผู้เล่นต้องเล่นรูปแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ในระหว่างการเล่นเกม แม้แต่ในภารกิจเดียว เรากำลังออกแบบการเผชิญหน้าที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ใช้กลยุทธ์และประสบการณ์การเล่นที่หลากหลาย อีกทั้งเรายังได้วางแผนที่จะเพิ่มประเภทภารกิจที่หลากหลายในอนาคตเพื่อให้เกมมีความสดใหม่อยู่เสมอ
ทีมงาน TIG: อยากให้พูดถึงระบบเฮฟเวนสโตน (Heaven Stone) สักหน่อยครับ
ระบบเฮฟเวนสโตนถือเป็นหนึ่งในกลไกหลักของเกม EVILBANE และเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งเสริมความร่วมมือ ในภารกิจระดับสูงที่ต้องใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ทีมจำเป็นต้องใช้สกิลเฮฟเวนสโตนที่หลากหลายเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ เนื่องจากมีการจำกัดจำนวนที่สามารถติดตั้งได้พร้อมกัน ผู้เล่นอาจจะมีการพูดคุยและวางแผนชุดอุปกรณ์ร่วมกันก่อนเริ่มภารกิจเพื่อให้การฝ่าอุปสรรคเป็นไปได้ราบรื่นขึ้น
EVILBANE ดำเนินเรื่องในโลกดาร์กแฟนตาซีอันกว้างใหญ่ ติดตามเรื่องราวของทีมที่ต้องต่อสู้กับกองทัพปีศาจ, จอมทัพ, และฝ่ายกลุ่มฉวยโอกาสเพื่อความอยู่รอดและฟื้นฟูมนุษยชาติ ผู้เล่นสามารถรวมกำลังทีมได้สูงสุดสี่คนและแทรกซึมเข้าไปในดินแดนของศัตรู พร้อมทำภารกิจให้สำเร็จเพื่อปลดล็อกความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่า







