6 สิ่งที่ผู้เล่น JRPG จะต้องชอบ Arisen Force: Vonimir

สวัสดีเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบเกม JRPG และเกม Pixel Art ทุกท่านนะครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงเกม Arisen Force: Vonimir ซึ่งเพิ่งจะเปิดให้เล่น DEMO ไปหมาด ๆ ใน STEAM และผมก็ได้มีโอกาสไปลองเล่นมาแล้ว และได้พบสิ่งที่น่าสนใจภายในเกมนี้มากมาย ซึ่งผมเองก็เป็นผู้เล่นสาย JRPG เช่นกัน พอมาเล่นเกมนี้แล้วรู้สึกว่ามันโอเคใช้ได้เลยนะ แถมให้ความรู้สึกแปลกใหม่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย เราไปดูกันดีกว่าครับว่าอะไรที่ทำให้คน JRPG จะชอบเกมนี้บ้าง

1. ภาพกราฟิกแบบ 2D Pixel Art แต่สวยมาก

เรื่องกราฟิกจะเป็นสิ่งแรกที่นำเข้ามาก่อนเลย เพราะภาพเป็นสิ่งแรกที่เรามองเห็นได้จากเกม ผู้เล่น JRPG ส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับภาพกราฟิกแบบ 2D Pixel Art และเกมยุคเก่ามากกว่า ซึ่งเกมสมัยนี้เริ่มมีเกม 3D มากยิ่งขึ้น ทำให้ความโหยหาเสน่ห์ของ 2D ลดน้อยลง แต่เกมนี้ยังคงคอนเซ็ปต์นี้เอาไว้ได้ แถมยังทำออกมาได้โดดเด่นและสวยมาก เรียกได้ว่าไม่แพ้กับ Octopath Traveler ที่เป็นเกม Turn-based ภาพ 2D Pixel Art ที่ขึ้นหิ้งไปแล้วในยุคปัจจุบัน เรื่ององค์ประกอบแสง ความละเอียดของพิกเซล และการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ถือว่าทำออกมาได้ดีและมีเสน่ห์ดึงดูดมาก ๆ ครับ แน่นอนว่ามันอาจจะไม่สู้พวกเกม 3D อลังการใหญ่ ๆ แต่ในแง่ของความเป็น 2D Pixel Art แล้ว เกมนี้จัดว่าสุดยอดมากครับ

2. เหมือนเกม Octopath Traveler แต่เป็น Action

อย่างข้อที่ 1 ผมได้ยกตัวอย่างชื่อเกม Octopath Traveler กันไปแล้วในแง่ของกราฟิก และใช่ครับ เกมนี้กราฟิกนั้นจัดว่าทำออกมาได้สูสีกับ Octopath Traveler อย่างมาก เพียงแค่ว่าเกมเพลย์หลักจะไม่ได้เป็น Turn-based แต่สำหรับ Arisen Force: Vonimir จะเป็นเกม Action แทน เราจะได้บังคับตัวละครแบบ 2D Pixel Art เดินเคลื่อนไหวอยู่ในเกม ไม่ว่าจะเป็นเมือง หมู่บ้าน World Map ดันเจี้ยน หรือแม้แต่ในพื้นที่แคบ ๆ เราจะได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระ ถ้าเข้า Battle ก็สามารถกระโดด โจมตี ใช้สกิล หลบ ได้อย่างคล่องแคล่ว และถ้าไม่ได้อยู่ในการต่อสู้ เราก็สามารถพูดคุยหรือซื้อขายไอเทมกับชาวบ้าน รวมถึงรับเควสต์ต่าง ๆ มาทำได้ เหมือนใช้ชีวิตอยู่ในโลกแฟนตาซีเลยครับ บรรยากาศจัดว่าดีงามมาก

3. บริหารไอเทม จัดการอุปกรณ์สวมใส่

เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นแนว JRPG ก็คงจะหนีไม่พ้นการฟาร์มไอเทมหรือการเก็บเลเวลไม่ได้ แน่นอนครับ ถึงแม้ว่าเกมนี้จะเป็นเกม Action แต่คุณก็ยังต้องเข้า ๆ ออก ๆ ดันเจี้ยนเพื่อทำเควสต์ เก็บเลเวล หรือฟาร์มไอเทมเพื่อดรอปของจากมอนสเตอร์ หรือหีบสมบัติเพื่อเอาอุปกรณ์เหล่านั้นมาสวมใส่ พัฒนา หรือสับเปลี่ยนกับ NPC ตัวอื่น เพื่อหาผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มันคือความสนุกอย่างหนึ่งของ JRPG การตระเวณหาสถานที่ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยไป เจอมอนสเตอร์ใหม่ ๆ บอสใหม่ ๆ ห้องสมบัติที่ยังไม่มีใครถูกเปิดแล้วรับรางวัลมาครอง ยิ่งออกผจญภัยคุณก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เมื่อเข้าสู่เนื้อเรื่องและคุณพร้อม บอสตัวไหนก็ขวางทางคุณไว้ไม่อยู่ นอกจากของใส่แล้วยังมีไอเทมแบบกดใช้เพื่อเพิ่มพลังได้ด้วยนะ

4. เปลี่ยนสกิลตามสายที่ต้องการได้

เกมนี้ก็ยังมีส่วนที่เป็น JRPG ที่โดดเด่นอยู่ คือการบริหารค่าสเตตัส เปลี่ยนของใส่ และที่สำคัญกว่านั้นคือสามารถเปลี่ยนสกิลได้อีกด้วย คือในเกมนี้จะมีสายอาชีพและค่าสเตตัสเฉพาะทางประจำอาชีพอยู่ แถมแต่ละอาชีพยังใส่ของได้แตกต่างกันอีกด้วย หนึ่งในความสนุกคือมอนสเตอร์แต่ละตัวจะมีโอกาสดรอปสกิลที่แตกต่างกันไป ตัวละครหนึ่งตัวจะสามารถใส่ Slot Skill ได้ 4 อย่าง ไม่ว่าคุณจะเล่นสายอาชีพอะไรก็สามารถใส่สกิลที่ดรอปมาได้ คุณจะเอาตัวเวทย์ไปใส่สกิลล่อมอนสเตอร์ก็ได้ หรือคุณจะเอานักดาบใส่สกิลตีไกลก็ได้ แล้วแต่สไตล์ที่คุณจะดีไซน์ไว้ และบอกเลยว่ามันสนุกมากที่จะทำให้ตัวละครหลักและ NPC ในทีมคุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ

5. เอา NPC มาเข้าเป็นพวกได้

ในเมืองต่าง ๆ ที่ผจญภัยไปถึงจะมี NPC ชาวบ้านอยู่เต็มไปหมด ส่วนใหญ่จะเอาไว้คุยอ่านเนื้อเรื่อง ซื้อขายไอเทม หรือไม่ก็รับเควสต์เป็นหลัก แต่จะมี NPC อยู่บางคนที่สามารถคุยเพื่อชักชวนเข้าปาร์ตี้ได้ แล้ว NPC ตัวนั้นก็จะมาเป็นตัวให้เราเล่นได้เลย เราสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์สวมใส่ของพวกเขาได้ หรือเปลี่ยนสกิลก็ได้ แถมยังเปลี่ยนตัวละครมาบังคับเล่นพวกเขาได้อีกด้วย ส่วนใหญ่จะใช้เติมเต็มช่องว่างในปาร์ตี้ เช่น ทีมเราเป็นตัวระยะประชิดหลายตัว ถ้าเราเจอนักธนูสักตัวก็จะเพิ่มศักยภาพในปาร์ตี้ได้ เป็นต้น ซึ่งเราสามารถจัดทีมต่อสู้ได้พร้อมกันถึง 3 ตัว และเก็บตัวละครในปาร์ตี้ไว้สับเปลี่ยนอีก 4 ตัว สามารถจัดปาร์ตี้ได้ตามถนัดเลย

6. เนื้อเรื่องแฟนตาซี มีเสน่ห์น่าติดตาม

ด้านเนื้อเรื่องก็ค่อนข้างมีเสน่ห์ดึงดูดให้น่าสนใจพอสมควรเลย โดยเนื้อเรื่องจะกล่าวถึงดินแดนทางใต้ที่ถูกกองกำลังของปีศาจรุกราน ทำให้เหล่าชาวบ้านในระแวกนั้นต้องเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน และก็มีผู้กล้าคนหนึ่งลุกขึ้นมานำผู้คนต่อสู้กับปีศาจร้ายจนขับไล่พวกมันกลับไปทางใต้ได้สำเร็จ จากนั้นผู้กล้าก็ได้สร้างกำแพงยักษ์ทางใต้ขึ้นมาเพื่อกั้นเขตแดนระหว่างมนุษย์กับปีศาจ และอยู่เฝ้ากำแพงมาหลายยุคหลายสมัย อำนาจในการดูแลป้อมปราการยักษ์ก็ถูกส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งถึงยุคของ Aurelia ตัวเอกของเรื่อง เราจะต้องรับบทเป็นผู้ดูแลกำแพงยักษ์แห่งนี้ เพื่อรักษาดินแดนของมนุษย์ไม่ให้พวกปีศาจเข้ามารุกรานได้ และช่วยเหลือชาวเมืองจากปัญหาต่าง ๆ ครับ

นี่คือ “6 สิ่งที่ผู้เล่น JRPG จะต้องชอบ Arisen Force: Vonimir” หวังว่าจะทำให้เพื่อน ๆ สนใจเกมนี้มากยิ่งขึ้นนะครับ อย่างที่กล่าวไปว่าเกมนี้เพิ่งจะอยู่ในช่วง DEMO ถ้าเกิดว่ามีอะไรใหม่ ๆ เข้ามามากกว่านี้ตอนวางจำหน่ายจริงก็คงจะน่าสนใจกว่านี้อีก มารอชมไปพร้อม ๆ กันนะครับ ผมคนหนึ่งล่ะไม่พลาดแน่นอน