เกมที่เปิดโอกาสให้เหล่าผู้เล่นสามารถเข้าไปปรับแต่งสิ่งต่างๆ ภายในเกมได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการที่ทีมผู้พัฒนาเปิดให้มีการสนับสนุน Mod เอง หรือแม้กระทั่งการใส่ฟังก์ชั่น Custom Map ภายในเกม ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่ได้สำคัญอะไร แต่เชื่อไหมครับว่าการเปิดโอกาสของทีมผู้พัฒนานี้เอง กลายเป็นตัวจุดประกาย ทำให้ผู้เล่นเกิดความคิดสร้างสรรค์สามารถนำเกมที่มีอยู่เดิมมาสร้างเกมใหม่ได้ และอาจจะสนุกกว่าด้วยซ้ำไป และในวันนี้ผมก็ได้รวบรวม 8 เกมที่มีต้นกำเนิดจาก Mod มาฝากเพื่อนๆ กัน ไปดูกันเลยดีกว่าครับ
1. Chivalry : Medieval Warfare
มาเรื่มกันที่เกมอันดับแรกกับ Chivalry : Medieval Warfare เกม FPS สุดแหวกแนว ที่ให้ผู้เล่นได้สวมบทบาทเป็นอัศวินยุคกลาง พร้อมดาบคู่ใจไล่ฟันเหล่าศัตรูให้ขาดสะบั้น ตัวเกม Chivalry แต่เดิมเคยเป็น Mod ให้กับเกม Half-Life 2 โดยในตอนนั้นมีชื่อว่า Age of Chivalry (ปี 2007) และหลังจากที่ Mod ตัวนี้ถูกปล่อยออกมาได้ไม่นาน มันก็ได้ความนิยมมากในระดับหนึ่ง เนื่องจากตัวเกมเดิมอย่าง Half-Life 2 เป็นเกมแนวเดินยิงมุมมองบุคคลที่ 1 ที่มีอาวุธหลักเป็นอาวุธปรเะภทปืน แต่พอเปลี่ยนมาเป็นการเล่น Age of Chivalry ก็อาจจะพูดได้ว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศเกมไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เรายิงศัตรูด้วยปืน ก็กลายมาเป็นไล่ฟันด้วยดาบแทน แถมตัว Mod ดังกล่าวก็มีให้เราเล่นตั้งแต่โหมดเนื้อเรื่องแบบเล่นคนเดียว และโหมด Pvp กับผู้เล่นอื่นๆ และต่อมาจากตัว Mod ดังกล่าวก็ได้กลายออกมาเป็นเกม Chivalry : Medieval Warfare ที่เราเห็นในปัจจุบันนั่นเองครับ
2. The Stanley Parable
สำหรับ The Stanley Parable คงจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่หาคำอธิบายได้ยากว่าจริงๆ แล้วเกมนี้มันเป็นเกมแนวอะไรกันแน่นะ? แต่ก่อนอื่น ผมขอเล่าเท้าความก่อนว่า ก่อนที่ The Stanley Parable จะออกวางจำหน่ายเป็นเกมเต็มของตัวเอง จุดเริ่มต้นของมันก็คือการเป็น Mod ให้กับเกม Half-Life 2 โดยเนื้อหาในตัว Mod นั้นคือการให้เราสวมบทบาทเป็นตัวละครชื่อ Stanley ที่ต้องคอยทำสิ่งต่างๆ ตามเสียงผู้บรรยายหรือ Narrator ภายในเกม และตอนเราที่กำลังบังคับตัว Stanley มันจะมีคนคอยบรรยายการกระทำของเราตลอด แต่ตัวผู้เล่นเองก็มีทางเลือกที่จะไม่เชื่อฟังผู้บรรยายได้เช่นกัน ทำให้ตัวเกมมีตอนจบที่หลากหลาย นอกจากนั้นบทพูดของผู้บรรยายมันก็ Break the Fourth Wall มากๆ (เหมือนผู้บรรยายในเกมกำลังคุยกับเราจริงๆ) ซึ่งด้วยความแปลกและเป็นเอกลักษณ์นี้เองเลยทำให้ตัว Mod ถูกดาวน์โหลดถึง 90,000 ครั้ง และได้มีการปล่อยตัวเกม Standalone ในชื่อเดียวกันออกมาในปี 2013 ครับ
3. Killing Floor
มาต่อกับอีกหนึ่งเกมยิง Co-op สุดมันส์อย่างเกมตระกูล Killing Floor ที่ในตอนนี้ได้มีออกมาแล้ว 2 ภาคด้วยกัน แต่รู้หรือไม่ว่าในตอนแรกนั้น Killing Floor เริ่มจากการเป็น Mod ให้กับเกม Unreal Tournament 2004 ซึ่งรูปแบบการเล่นของ Mod ดังกล่าวได้เปลี่ยนจากเกมยิงสู้กันระหว่างผู้เล่น มาเป็นการร่วมมือ Co-op กันเพื่อเอาตัวรอดจากฝูงสัตว์ประหลาดที่ถาโถมมาเป็นระลอก (ให้อารมณ์เหมือน Horde mode) พร้อมกับเพิ่มระบบการนำแผ่นไม้มากั้นประตูเพื่อชะลอศัตรู (การ Barricade นั่นเอง) รวมไปถึงการนำระบบอัปเกรดปืนและระบบ Perk เฉพาะตัวของ Mod ดังกล่าว ซึ่งคอนเซ็ปต์ที่ถูกนำเสนอ ณ เวลานั้นถือว่าเป็นอะไรแปลกใหม่ใช้ได้ (ตัว Mod ออกมาให้เล่นในปี 2005) และอีก 4 ปีต่อมา Killing Floor ภาคแรกก็ได้ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในฐานะตัวเกมเต็ม
4. Garry’s Mod
Garry’s Mod เกมแนว Sandbox ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้ตามใจนึก บอกได้เลยว่าตัวเกมเหมาะกับผู้เล่นทุกคนที่ต้องการเริ่มต้นเรียนรู้ Mod เพราะภายในตัวเกมมีทั้งอุปกรณ์, สิ่งของต่างๆ รวมไปถึงตัวละครเกมที่มาจาก Source Engine ทำให้ผู้เล่นสามารถรังสรรค์ผลงานของตนเองได้ตามจินตนาการ ตั้งแต่แผนที่ใหม่ ไปจนถึงเกมโหมดใหม่ๆ อาทิเช่น Trouble in Terrorist Town หรือ Prop Hunt เป็นต้น โดยตัวเกม Garry’s Mod ในตอนแรกก็เคยเป็น Mod ให้กับเกม Half-Life 2 มาก่อนอีกเช่นกัน (แหม่เกมนี้ Mod เยอะมากๆ) และด้วยความนิยมของมันทำให้ในเวลาต่อมาจาก Mod ในเกม ก็ได้มีการแยกตัวออกมาเป็นตัวเกมเต็มในชื่อ Garry’s Mod ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในปัจจุบัน
5. Auto Chess Mobile
อีกหนึ่งปรากฏการณ์แห่งวงการเกมที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ กับการถือกำเนิดเกมแนวใหม่อย่างแนวเกมหมากรุกอัตโนมัติ (Auto Battler) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อของ Auto Chess นั่นเองครับ โดยต้นกำเนิดของ Auto Chess เริ่มมาจากการเป็น Custom Map ในเกมยอดนิยมอย่าง Dota 2 ที่เปลี่ยนรูปแบบการเล่นของเกมเดิม จากแนว MOBA มาเป็นแนวหมากรุกและแทนตัวหมากต่างๆ ด้วยตัวละครจากเกม Dota 2 โดยตัว Custom Map นี้ได้ถูกปล่อยออกมาในเดือนมกราคมปี 2019 และต่อมาในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน จำนวนยอดผู้เล่น Auto Chess ได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 8 ล้านคนทั่วโลก ทำให้ในเวลาต่อมาเกมแนว Auto Chess ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ และได้มีเกมแนวนี้ออกมาให้เราได้เล่นจากหลายทีมผู้พัฒนาไม่ว่าจะเป็น Auto Chess ของ Drodo Studio, Dota Underlords จาก Valve หรือโหมด Teamfight Tactics ในเกม League of Legends เป็นต้น
6. Team Fortress Classic และ Team Fortress 2
มากันต่อที่เกม Team Fortress เกมแนวClass-based FPS ที่อยู่เคียงคู่กับเกมเมอร์มาอย่างยาวนานอีกหนึ่งเกม แต่ก่อนที่มันจะกลายมาเป็นเกมตัวเต็มให้เราได้เล่นกันจนถึงทุกวันนี้เนี่ย Team Fortress เคยเป็น Mod ให้กับเกม Quake 1996 มาก่อน ซึ่งตัว Mod ก็ได้ทำการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นชนิดที่ว่า ยกเครื่องใหม่ทั้งดุ้น จนเรียกได้ว่าเป็นคนละเกมกับ Quake เลยก็ว่าได้ เพราะตัว Mod Team Fortress ได้นำระบบ Class เข้ามาปรับใช้ในเกม โดยแต่ละตัวละครในทีมมีหน้าที่ที่ชัดเจนและแนวทางในการเล่นที่แตกต่างกัน ซึ่งแนวคิดดังกล่าว ณ เวลานั้นก็เป็นอะไรที่สดใหม่สำหรับผู้เล่นที่ได้ลองสัมผัส และด้วยความนิยมของตัว Mod ดังกล่าวนี้ก็เตะตาทีมงานจาก Valve ที่ในเวลาต่อมาก็ได้ทำการจ้างทีมงานเบื้องหลัง Mod มาพัฒนาเกม Standalone ของตัวเองภายใต้สังกัด Valve จนออกมาเป็น Team Fortress Classic (ภาคแรก) และ Team Fortress 2 ที่ในเวลานี้ก็ยังเปิดให้บริการอยู่
7. Dota 2
ถ้าจะพูดถึงแนวเกม MOBA ในยุคนี้ คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะมันก็เป็นอีกหนึ่งแนวเกมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และก็มีเกมจากหลายๆ ค่ายที่มีฐานแฟนอย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเป็น Dota 2, LoL หรือแม้กระทั่ง ROV
แต่ก่อนที่เกมแนว MOBA จะโด่งดังและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเหมือนทุกวันนี้ มันมีจุดเริ่มต้นมาจาก Custom Map ในเกม Warcraft 3 : Reign of Chaos ที่ชื่อว่า Defense of the Ancients หรือ Dota 1 นั่นเอง โดยตัว Custom Map ดังกล่าวถือว่าเป็นผู้บุกเบิกเกมแนว MOBA เป็นในยุคเริ่มแรกเลยก็ว่าได้ ด้วยการเปลี่ยนการบังคับ unit หลายๆ ตัวให้ลดลงเหลือตัวเดียว และมีการแบ่งทีมเป็นสองฝั่ง ฝั่งละ 5 คน นั่นเอง และด้วยความนิยมของตัว Dota นี้เอง ทำให้ในปี 2010 ทาง Valve ทำการสานต่อกระแสความนิยมด้วยการเปิดตัว Dota 2 ออกมาสู่สายตาชาวเกมเมอร์อย่างเป็นทางการ
8. Counter-Strike
มาถึงอันดับสุดท้ายกับ Counter-Strike เกมยิงสุดโด่งดังจาก Valve ที่เดิมทีก็มีจุดกำเนิดจากการเป็น Mod ให้กับเกม Half-Life โดยตัว Mod ดังกล่าวก็ได้ทำการพลิกโฉมของเกมยิงในเวลานั้นไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการนำอาวุธที่มีความสมจริงเข้าไปภายเกม พร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่ตายแล้วไม่เกิดใหม่จนกว่าจะจบรอบ แถมตัว mod ดังกล่าวก็ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้เล่นอยุ่เรื่อยๆ ทำให้มีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่การเป็น Mod ให้กับเกม Half-Life 2, Counter-Strike Source มาจนถึงตัวเกมเวอร์ชั่นในปัจจุบันอย่าง Counter-Strike Global Offensive ในปี 2012 และต่อมาชื่อของ Counter-Strike ก็ได้กลายมาเกมสาย E-sport ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอีกหนึ่งเกมในปัจจุบัน
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วผมเชื่อว่าผู้อ่านท่านคงจะทราบกันแล้วนะครับ ว่าการเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้เล่นได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำ Mod เกมนั้นมันสามารถส่งอิทธิพลต่อวงการเกมได้มากพอสมควร เพราะนอกจาก 8 เกมที่ผมยกมานี้ มันยังมีอีกมากมายหลากหลายที่ต้นกำเนิดของมันมาจากกลุ่มผู้เล่นที่ทุ่มเทแรงกายและใจให้กับการรังสรรค์ผลงานของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเกมแนว Battle Royale ที่มีต้นกำเนิดมาจาก Mod ของ Arma และ Minecraft Hunger Game หรือเกมแนวอื่นๆ อีกมากมายที่ผมอาจจะหยิบยกมาไม่หมดในวันนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณสำหรับการอ่าน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ
