ถ้าจะให้อธิบายความหมายของคำว่า Spin-off ในโลกวิดีโอเกมแบบง่ายๆ ก็คือการนำเกมๆ หนึ่งมาทำการเปลี่ยงแปลงใหม่ ตั้งแต่การเพิ่มระบบใหม่ที่ไม่เคยมีในตัวเกมหลัก, การเปลี่ยนเนื้อหาไปในทิศทางใหม่ ไปจนถึงการเปลี่ยนทุกอย่างในเกมต้นฉบับชนิดที่เรียกว่า ถ้าไม่เอาชื่อเกมเดิมมาก็แทบจะจำไม่ได้ว่านี่คือเกม Spin-off จากเกมนั้นๆ และในวันนี้ผมเลยอยากจะแนะนำ 8 เกม Spin-off ภาคแยกสุดเจ๋ง ที่เรียกได้ว่าแหวกแนวไปจากเกมต้นฉบับของตนเองออกไปอย่างสิ้นเชิง แถมทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย จะมีเกมอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยดีกว่าครับ
1. Plants vs. Zombies : Garden Warfare
มาเริ่มกันที่อันดับแรกกับ Plants vs. Zombies : Garden Warfare เกมยิงภาพกราฟิกสุดน่ารักที่เป็นภาค Spin-off ของเกมแนวป้องกันฐาน Tower Defense ภาคหลักที่เราคุ้นเคยอย่าง Plants vs. Zombie ให้กลายเป็นเกมเดินหน้ายิงมุมมองบุคคลที่ 3 โดยภายในตัวเกมจะมีการแบ่งสายตัวละคร ทั้งของฝั่งพืชและฝั่งซอมบี้ก็จะมีตัวละครเฉพาะ ที่แต่ละตัวจะมีรูปแบบในการเล่นและจุดเด่นไม่เหมือนกัน ให้อารมณ์คล้ายกับเกมสไตล์ Class Based Shooter อย่างพวก Team Fortress อะไรประมาณนั้นเลยครับ แถมตัวเกมเพลย์ก็สนุกและดูเข้าท่าอย่างน่าเหลือเชื่ออีกต่างหาก พูดได้เลยว่าแหวกแนวเกมเดิมของตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือ ก่อนย่างก้าวเดินสู่ทิศทางใหม่ของตัวเองได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว (ตอนนี้มีภาค 2 แล้วนะ)
2. Mega Man X / Rock Man X Series
ซีรีส์เกมแห่งความทรงจำของเกมเมอร์ในยุค 90 กับเกมตระกูล Rock Man X ที่ดูเท่และเข้มข้นกว่า Rock Man ภาคปกติ โดยเกมในภาค X นี้ นอกจากจะคงความท้าทายเดิมของเกมไว้ ยังได้มีการเพิ่มระบบต่างๆ เข้าไปเพื่อสปีดการเล่นให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Rock Man สามารถสไลด์ไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มความเร็ว หรือกระโดดชิ่งกำแพงได้อย่างนินจา บอกเลยว่าเกมเพลย์ในภาค X มันจะเร้าใจและเล่นสนุกกว่าเดิม นอกจากนั้นเรายังสามารถอัปเกรดชุดเกราะของ X ผ่านการใช้แคปซูลที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในฉากได้อีกด้วย ถือเป็นการท้าทายความรู้สึกอยากสำรวจเพิ่มยิ่งขึ้น แถมตัวเกมภาค X ยังเป็นซี่รี่ส์เกมที่เปิดตัวตัวละครที่ใครหลายคนชื่นชอบอย่าง Zero อีกด้วยนะเออ
3. Metal Gear Rising: Revengeance
หากซีรีส์เกมลอบเร้นชื่อดังอย่าง Metal Gear Solid มีการเปลี่ยนทีมผู้พัฒนาเดิมจาก Kojima Productions มาเป็น Platinum Games จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ? มันก็กลายเป็นเกม Metal Gear Rising : Revengance ยังไงล่ะครับท่านผู้ชม! ซึ่งเกม Metal Gear ในภาคนี้เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแนวเกมของตนเองไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมแนวลอบเร้น กลายมาเป็นเกมเดินหน้าฟันแหลกแบบ High Speed ตามแบบฉบับของทีมงาน Platinum Games ซึ่งสาเหตุที่ตัวเกมยังใช้ชื่อ Metal Gear อยู่ น่าจะเป็นเพราะการนำตัวละครอย่าง Raiden มาเล่าในมุมมองใหม่ และมีการกล่าวถึงเหตุการณ์ในภาค 4 อยู่ไม่มากนัก ส่วนที่เหลือเรียกได้ว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ถึงอย่างนั้นตัวเกมกลับดูดีและสนุกมากอย่างไม่น่าเชื่อ
4. Donkey Kong Country Series
สำหรับเกมซี่รี่ส์ Donkey Kong Country นั้น ในตอนแรกมีการ Spin-off มาจากเกมอาเขตสุดคลาสสิคอย่าง Donkey Kong ในปี 1981 ซึ่งในเวลาต่อมา ตัวเอกที่เป็นช่างประปาอย่าง Mario ก็ได้มีเกมเป็นของตัวเอง แต่เจ้าคิงคองตัวร้ายอย่าง Donkey Kong ก็ไม่น้อยหน้า มีเกมเป็นของตัวเองเช่นกันชื่อว่า Donkey Kong Country โดยเกมตระกูลนี้จะเป็นเกมสไตล์ 2D Platformer ที่ใส่กิมมิคต่างๆ ทำให้แตกต่างจาก Mario ตั้งแต่การให้ผู้เล่นสามารถขี่สัตว์นานาชนิด, การสับเปลี่ยนตัวละครที่มีให้เล่นมากมาย และความท้าทายของเกมการเล่นที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ทำให้มีความลื่นไหลและติดพัน จนวางจอยไม่ลงกันเลยทีเดียว
5. The Sims Series
หลายคนอาจจะสงสัยว่า The Sims มันเป็นเกม Spin-off จากเกมอะไร คำตอบก็คือซีรีส์เกมสร้างเมืองอย่าง SimCity ยังไงล่ะครับ โดยเกม The Sims เรียกได้ว่าเป็นเหมือนการย่อขนาดจากเกมต้นฉบับอย่าง SimCity จากที่เราต้องบริหารเมืองทั้งเมือง ก็ลดลงมาเหลือเพียงแค่การบริหารครอบครัวเดียว
สำหรับ The Sims เป็นเกมแนว Life Simulator หรือเกมจำลองการใช้ชีวิตที่เราสามารถสร้างตัวละครของเรา และบังคับให้เขาทำกิจวัตรประจำวันตามที่คุณต้องการ ตั้งแต่ กิน, นอน, เข้าห้องน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคอนเซ็ปง่ายๆ ดูไม่มีอะไร แต่ยอดขายของภาคแรกกลับทะลุเป้าเกินความคาดหมายของ EA มากๆ ส่งผลให้ในเวลาต่อมา EA จึงได้เข็นเกมตระกูลนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการขาย DLC ที่รวมๆ กันแล้วแพงกว่าเกมตัวเต็มเสียอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า The Sims เป็นอีกหนึ่งเกม Spin-Off ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเกมหนึ่งเลยทีเดียวครับ
6. World Of Warcraft
ในปัจจุบันชื่อของ Warcraft ต้องเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในหมู่เกมเมอร์อย่างแน่นอน เพราะในตอนนี้ World of Warcraft ก็ยังคงเป็นเกม MMORPG ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลกอีกหนึ่งเกม แต่ก่อนที่ Warcraft จะกลายมาเป็นเกม MMORPG ชื่อดังดั่งเช่นในทุกวันนี้ ต้นกำเนิดของมันก็เริ่มมาจากการเป็นซี่รี่ส์เกมวางแผนแบบเรียลไทม์หรือ RTS ที่ออกมาให้ชาว PC ได้เล่นกัน แต่ในเวลาต่อมาทาง Blizzard Entertainment ก็ได้นำเกมตระกูลนี้ มาดัดแปลงไปในทิศทางใหม่ จากเดิมที่เคยเป็นเกมวางแผน มาเป็นเกม MMORPG ออนไลน์ อย่างเต็มรูปแบบ ถึงแม้ตัวเกมจะเปลี่ยนแนวไป แต่ World Of Warcraft ก็ยังคงดำเนินเรื่องอยู่ในจักรวาลเดียวกันกับเกมต้นฉบับ และได้ทำการขยายสเกลเนื้อเรื่องให้ใหญ่ขึ้นอีก ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่เปลี่ยนทิศทางของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม และไม่ปล่อยให้เกมของตัวเองล้มหายไปตามกาลเวลานั่นเองครับ
7. Mario Kart Series
เริ่มต้นในฐานะเกม Spin-off จากเกมตระกูล Mario แต่ในเวลานี้ เกมตระกูล Mario Kart ก็มีจุดยืนอย่างชัดเจนสำหรับเกมแข่งรถแนวอาเขตที่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นทั่วโลก โดย Mario Kart ภาคแรกออกมาในปี 1992 โดยใช้ชื่อเดียวกัน และเปลี่ยนจากเกมเดินข้าง 2D Platformer กลายมาเป็นเกมแข่งรถ Kart แต่เกมมีความพิเศษตรงที่ การใช้ไอเทมขัดขวางไม่ให้คู่แข่งไปถึงเส้นชัยได้ง่ายๆ อีกทั้ง Mario Kart ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ภาค ทำให้ตัวเกมมีความสดใหม่และน่าเล่นอยู่เสมอ ซึ่งด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวแบบนี้เอง ทำให้เกมตระกูล Mario Kart เป็นเกมแข่งรถสไตล์อาเขตที่ผู้เล่นทั่วโลกต่างหลงรัก ไม่แพ้กับเกมต้นฉบับเลยแม้แต่น้อยครับ
8. Luigi’s Mansion
ลองจินตนาการกันดูว่า ถ้านำเกมแนว Horror สยองขวัญมาผสมรวมเข้ากับเกม Mario มันคงจะแปลกน่าดูเลยไหมล่ะครับ แต่ในเวลานี้แฟนๆ เกม Nintendo คงจะทราบกันดีว่า พอเอาเข้าจริงๆ ส่วนประกอบดังกล่าว มันกลับลงตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ เห็นได้ชัดจาก Luigi’s Mansion เกม Spin-off สุดแหวกแนว ที่เปลี่ยนเกมน่ารักๆ อย่าง Mario ให้กลายเป็นเกมผจญภัยที่มีกลิ่นอายความน่ากลัวของเกม Survival Horror อย่างลงตัว แต่ถึงกระนั้น ตัวเกมก็ไม่ได้มีความน่ากลัวหรือเล่นยากจนเกินไป เหมาะสำหรับผู้เล่นที่อยากลองเกมแนว Survival Horror แต่ไม่กล้าเล่นเกมน่ากลัว ก็สามารถมาหัดเล่นกับเกม Luigi’s Mansion ได้ แถมตัวเกม Luigi’s Mansion ก็กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นหลายๆ คน ในฐานะเกม Spin-off น้ำดีอีกหนึ่งเกมจากเกมซีรีส์ Mario ครับ
*แถม: Dissidia Final Fantasy Series
ส่วนตัวผมเชื่อว่าคนที่มีเครื่อง PSP ทุกคนจะต้องมี Dissidia Final Fantasy เกมแนวต่อสู้ที่มาความเป็น RPG อยู่ในครอบครองกันอย่างแน่นอน โดยตัวเกมภาคแรกนั้นออกมาในปี 2008 เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีของเกมตระกูล Final Fantasy สำหรับภาคแรกมีการนำตัวละครมาให้เราได้เล่นถึง 20 ตัว โดยจะมีการแบ่งตัวละครออกเป็นฝั่งของตัวดี และตัวร้ายให้เราเล่นอย่างครบครัน ถ้าใครชอบเกม Final Fantasy เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมกล้าพูดได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับเกมตระกูลนี้อย่างแน่นอน
เป็นยังไงกันบ้างครับ มีเกม Spin-off เกมไหนที่คุณชอบ นอกเหนือจาก 9 เกมนี้บ้างหรือเปล่า? ถ้ามีก็คอนเมนต์เข้ามาพูดคุยกันได้นะครับ เพราะเอาเข้าจริงๆ เกม Spin-off เจ๋งๆ ที่ผมยังไม่ได้กล่าวถึงอยู่หลายเกม ตั้งแต่ Final Fantasy Tactic, Resident Evil: Revelations และอื่นๆ อีกมากมาย ขอบคุณสำหรับการอ่าน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ