8 การตายสุดหัวร้อนในเกม

ไม่ว่าจะเป็นเกมเมอร์สายแคชชวลเล่นสบายๆ หรือจะเป็นชาวฮาร์ดคอร์จริงจังเกมเมอร์ อาการหัวร้อนมักจะมาคู่กับการเล่นเกมอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะถึงแม้ว่าเราจะเล่นเกมเพื่อความบันเทิง แต่มีบางครั้งคราวที่จะต้องพบเจอกับอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจและผิดหูผิดตาอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการเจอเพื่อนร่วมทีมแปลกๆ ที่ทำให้เกมหมดสนุก, การเจอฉากสุดโหดที่ยากจะผ่านไป หรือแม้กระทั่งการที่เกมมันเล่นไม่แฟร์กับเราและทำให้เราตายอย่างน่าเศร้า ซึ่งนี่ก็เป็นหัวข้อในวันนี้ครับกับ 8 การตายสุดหัวร้อนในเกม จะมีอะไรบ้างเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

1. โดนผลักตกตายก่อนถึงเส้นชัย

ณ เวลานี้ผู้เล่น Fall Guys ทุกท่านคงจะคุ้นเคยกับการโดนผลักตกเป็นอย่างดี (และอาจจะเคยโดนมากับตัว) เพราะภายในเกมนี้จะมีปุ่มในการกดจับผู้เล่นคนอื่นที่นอกจากจะใช้ในการกวนอารมณ์ผู้เล่นคนอื่นๆ แล้วมันก็ยังสามารถใช้ในการตัดจังหวะสำคัญๆ ได้และยังสามารถนำมาใช้ในการทำให้คนอื่นๆ ตกฉากได้อีกด้วย โดยด่านที่เรียกได้ว่าทำให้การโดนผลักตกตายกลายเป็นมีมที่หลายคนรู้จักในวันนี้ก็คือ Slime Climb ฉากที่เล่นยากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อบวกกับการก่อกวนจากผู้เล่นคนอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเป็นการเดิมเชื้อเพลิงให้หัวเราอุ่นจนชวนปะทุจริงๆ 

2. เรา Miss แต่ศัตรู Crit จนตัวแตก

เหตุการณ์ดังกล่าวมักจะพบเจอได้ในเกมแนวTurn-based strategy บางซี่รี่ส์ที่มีระบบเปอร์เซ็นต์มาใช้คำนวณความแม่นยำการโจมตีของยูนิตในเกม อาทิเช่นเกมซี่รีส์โหดหินอย่าง Xcom ที่จะทำให้คุณหลอนคำว่า 99% Miss ได้แบบสุดๆ เพราะในเกมๆ นี้การคำนวณหรือ RNG จะมีความดิบเถื่อน (และกวนอารมณ์) แบบเกินบรรยายขนาดที่ต่อให้คุณเอาปืนจ่อหัวศัตรูระยะเผาขนก็อาจจะมีโอกาสยิงโดนแค่ 80% ขึ้นไปเท่านั้น (และมันก็ Miss ได้…) และหากยิ่งเราเล่นในระดับความยาก Commander หรือ Veteran นอกจากโอกาสในการ Miss ของเราจะเพิ่มขึ้นเหล่าศัตรูมันก็ยังมีโอกาสยิงเราจนติด Crit ตายได้แม้ว่าเราจะหลบดีแค่ไหนก็ตาม (แม้กระทั่งยิงทะลุกำแพงก็มี) เพราะฉะนั้นระหว่างเล่นเกมซี่รี่ส์นี้ก็ทำใจร่มๆ ไว้ให้มากนะครับ

3. โดนศัตรูตบตายในครั้งเดียว

การโดนตบตายในครั้งเดียวหรือที่เรามักเรียกกันว่าการโดน One Shot Kill มักจะเป็นสิ่งเราพบเจอได้ในหลายๆ เกม ตั้งแต่ในซี่รี่ส์ SoulsBourne ที่เรียกได้ว่ามีกันให้เห็นจนเป็นเรื่องปกติหรือจะเป็นเกมแนวคล้ายๆ กันอย่าง Nioh ที่ศัตรูหลายตัวสามารถ One Shot เราได้ตั้งแต่มอนระดับล่างๆ อย่างพวกมนุษย์โครงกระดูกหรือพวกผีดิบยันศัตรูจำพวก Yokai ที่นอกจากจะจำนวน HP ที่มากกว่าศัตรูทั่วไปแถมมันก็ยังมีท่าโจมตีแรงๆ ที่พร้อมจะส่งเรากลับจุดเกิดได้ในทันทีซึ่งหากเราโดนเข้าบ่อยๆ จากที่แรกๆ อาจยังพอทนแต่พอหลายครั้งเข้ามันก็ชวนให้เรากำหมัดจนจอยแตกได้เลย

4. อีกนิดก็ชนะแล้ว!

เพื่อนๆ เคยเจอไหมครับ อีกนิดเดียวเราก็จะชนะแล้วแต่ดันพลาดท่าตายเสียก่อน ไม่ว่าจะมาจากการโดนผู้เล่นคนอื่นขัดขวางหรือโดนบอสที่กำลังประมืออยู่โจมตีจนตายทั้งๆ ที่เลือดของมันก็เหลือเพียงหยิบมือ ซึ่งเหตุการณ์ที่ผมว่ามา ถ้าให้เห็นภาพกันแบบชัดๆ ก็คงไม่พ้นเกมยากชวนพังจอยอย่าง Cuphead ที่เต็มไปด้วยบอสโหดยากจะต่อกรตั้งแต่แพทเทิร์นการโจมตีที่ชวนปวดหัวลายตาและจำนวนร่างของบอสที่มากกว่าหนึ่ง แถมความดิบของมันก็ไม่หยุดแค่นั้น เพราะในการต่อสู้แต่ละครั้งตัวเกมจะไม่มีหลอด HP ของบอสให้เราเห็น แต่มันจะขึ้นโชว์ให้ดูตอนเราตายเป็นการซ้ำเติม ชนิดที่ว่าเลือดอีกนิดเดียวก็ชนะอยู่แล้วเชียว

5. การเจอพวกยอดมนุษย์ (หรือ Hacker นั่นเอง)

ขอเพียงแค่คุณเป็นเกมเมอร์ฝั่ง PC เหล่า Hacker ก็เป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมาที่อยู่คู่กับเรามาอย่างช้านานไม่ว่าจะเป็นเกมไหนขอแค่มันลง PC และเป็นเกมแนว Multiplayer เราก็มักจะพบเจอพวกผู้เล่นยอดมนุษย์เหล่านี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ตั้งแต่การระบาดของเหล่า Hacker ชาวจีนใน PUBG (เวอร์ชั่น Steam) , การใช้โปรแกรมโกงคาสตรีมของชาวไทยใน Valorant หรือจะเป็นเกมยอดฮิตอย่าง Fall Guys ที่ไม่น่าจะมีคนโกงแต่จนแล้วจนรอดมันก็ยังมีคนใช้โปรอยู่วันยังค่ำ ทั้งๆ ที่การชนะภายในเกมก็ไม่ได้อะไรมากมายนอกจากแต้มไปปลดของตกแต่งแค่นั้น ซึ่งมันก็คงเป็นเรื่องที่ชวนหัวร้อนสุดๆ หากเราโดนคนเหล่านี้เอาชนะหรือฆ่าอย่างไม่แฟร์ในเกมที่เราเล่น 

6. โดนเซอร์ไพรส์จากเหล่านักตั้งแคมป์

การแคมป์หรือ Camping ในที่นี้จะหมายถึงสไตล์การเล่นในเกมยิงที่ผู้เล่นคนหนึ่งจะเน้นการดักรอผู้เล่นอื่นๆ เป็นเวลานานมากๆ ในจุดเดิมเพื่อรอ Kill เสมือนตั้งรกรากอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน โดยการเล่นแบบนี้ก็มักจะมีให้เราเห็นในเกมยิงชื่อดังหลายๆ เจ้าอย่างเช่นใน Call of Duty ที่การ Camping เป็นเหมือนของที่มาคู่กันกับเหล่าผู้เล่นอย่างขาดไม่ได้หรือจะเป็นเกมแนว Battle Royale อย่าง PUBG หรือ Fortnite ที่ยกระดับความโหดในการแคมป์ขึ้นไปอีกขั้นเพราะเงื่อนไขในการชนะเกมแนวนี้ก็คือการอยู่รอดเป็นคนสุดท้ายในแมตช์นั้น ทำให้การใช้วิธีดังกล่าวได้ผลอยู่พอตัวแต่ในทางกลับกัน หากเราเป็นคนโดนดักแคมป์เองมันก็คงจะเป็นเรื่องที่ฮาไม่ออกเลยล่ะครับ

7. พลาดตายแต่ Checkpoint ก็ดันไกลแสนไกล

เกมในยุคปัจจุบันก็มักจะมีระบบ Checkpoint ที่จะคอยช่วยเหลือให้ผู้เล่นอย่างเราเล่นเกมได้สะดวกและลื่นไหล ไม่ติดขัดเมื่อเทียบกับสมัยก่อน แต่ก็ใช่ว่าทุกๆ เกมจะมีระบบ Checkpoint ที่เอื้ออำนวยมากขนาดนั้น เพราะมันอาจจะทำให้เกมง่ายจนเกินไปใช่ครับผมกำลังพูดถึงเกมตำนานจากฝั่ง FromSoftware นั่นก็คือ Dark Souls ภาคแรกที่เรียกได้ว่าเป็นภาคที่น่าจะเล่นได้ลำบากมากที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับเกมภาคหลังๆ ตั้งแต่จุด Bonfire ที่กว่าจะเจอก็เดินกันจนขาลาก, ระบบ Fast Travel ที่กว่าจะได้ใช้ก็ช่วงกลางเกือบท้ายเกมและที่สำคัญจุด Bonfire กับห้องบอสที่บางตัวก็ห่างกันสุดๆ เรียกได้ว่าถ้าพลาดตายทีนึงก็ต้องเดินฝ่ากลับไปหาบอสใหม่ก็อาจจะยากกว่าการล้มบอสตัวนั้นด้วยซ้ำ

8. ตายไม่พอยังโดนเย้ยซ้ำอีก

ถ้าเพื่อนๆ เป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นเกม Competitive Multiplayer ที่ต้องมีการสู้กันระหว่างผู้เล่นการเจอพวกคนประเภทปากไม่ดีหรือนักเลงคีย์บอร์ดก็แทบจะเป็นเรื่องปกติที่เราพบได้ทั่วไปไม่ต่างจาก Hacker (ดีไม่ดีอาจจะบ่อยกว่าอีก) โดยตัวอย่างที่จะเห็นได้ชัดก็คงไม่พ้นในเกม MOBA คอมมูนิตี้สุดอบอุ่น (ประชด) อย่าง Dota 2 ที่ในแถบบ้านเราที่การโดนก่นด่าหรือถูกเยาะเย้ยก็แทบจะมีให้เห็นอยู่เกือบทุกแมชและคำด่าทอเหล่านี้ก็มีให้เห็นอยู่หลายภาษาซึ่งผมเชื่อว่าชาว DOTA คงคุ้นเคยกันอย่างดี แถมความปากดีของผู้เล่นเหล่านี้ที่น่ารำคาญเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแม้อยู่ฝั่งเดียวกันแต่ถ้ามันเป็นผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามความระอุในเกมก็คงพุ่งสูงจนพร้อมระเบิดเลยทีเดียว (และอาจจะพุ่งขึ้นสูงสุดตอนมันได้ Kill เราเนี่ยแหละ!)

ก็จบกันไปกับอีกหนึ่งหัวข้อในวันนี้หวังว่าเพื่อนๆ หลายคนที่ได้เข้ามาอ่านจะได้รับความบันเทิงและความสนุกสนานกลับไปไม่มากก็น้อยนะครับ และสุดท้ายนี้ก่อนจะจากกันผมก็เชื่อว่าเพื่อนๆ ชาวเกมเมอร์คงจะมีประสบการณ์ชวนหัวหัวร้อนมากกว่านี้อีกเพราะฉะนั้นก็อย่ารอช้าและมาแชร์ในคอมเมนต์กันเยอะๆ นะครับ