8 เกมเทพที่เราอาจไม่มีวันได้สัมผัส
เป็นได้เพียงแค่วิดีโอตัวอย่างที่ออกมาขายฝันให้น้ำตาตกไปตามๆ กัน
การยกเลิกการพัฒนาเกมในวงการเกมถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เราสามารถเห็นได้อยู่ทั่วไป ซึ่งเหตุผลก็อาจจะมีตั้งแต่ เรื่องงบประมาณบานปลาย, ความไม่พร้อมของบุคลากรในองค์กร ไปจนถึงปัญหาแตกร้าวภายในบริษัทที่อาจไม่ได้มีการเปิดเผยออกมา แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม สุดท้ายคนที่ได้รับผลกระทบก็คงไม่พ้นเกมเมอร์อย่างเรา ที่บางครั้งเกมที่เราตั้งหน้าตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อกลับโดนยกเลิกไปอย่างเสียดาย และในวันนี้ผมขอถือโอกาสหยิบยก 8 เกมเทพที่เราไม่อาจมีวันได้สัมผัสมาให้ทุกคนได้รับรู้รับทราบกันว่ามีจะเกมอะไรบ้าง ซึ่งแต่ละเกมเพื่อนๆ ก็น่าจะคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
1. Silent Hills
สำหรับ Silent Hills ภาคที่ผมหยิบยกขึ้นมานี้คือภาคใหม่ที่กำกับโดย Hideo Kojima ที่ร่วมมือกับ Guillermo del Toro และได้ Norman Reedus มารับบทเป็นตัวละครหลัก โดยตัวเกมในภาคนี้จะเป็นการรีบูทแฟรนไชส์แบบยกเครื่องทั้งหมด และยังได้มีการปล่อย Playable Teaser หรือที่เรามักเรียกสั้นๆ ว่า P. T. ออกมาให้แฟนๆ ได้ชมกันด้วย ถึงแม้มันจะเป็นเพียงแค่ตัวอย่างเกมที่ไม่ได้มีการเปิดเผยเนื้อหาอะไรมากนัก แต่ก็สามารถสร้างกระแสจนกลายเป็นที่ฮือฮาในหมู่เกมเมอร์ได้อยู่พักหนึ่ง (เรียกได้ว่าเป็น P.T. Fever เลยทีเดียว) เพราะด้วยเกมเพลย์ที่มีความน่าสนใจ และบรรยากาศที่ชวนขนลุกขนพอง เลยทำให้ Silent Hills P.T. ถูกจับตามองในฐานะเกมสยองขวัญเกมแรกของ Hideo Kojima แต่น่าเสียดายที่ Konami กลับยกเลิกการพัฒนาหลังจากที่ Kojima แยกทางกับ Konami ไป
2. Star Wars : 1313
ถ้าใครเป็นแฟนซี่รี่ส์ Star Wars ผมเชื่อว่าคงมีไม่น้อยเลยที่ชื่นชอบตัวละคร Boba Fett เป็นพิเศษ และถ้าผมบอกว่าครั้งหนึ่งเคยมีเกมที่เปิดโอกาสให้เรารับบทเป็น Boba Fett ตอนหนุ่มๆ ที่เพิ่งได้เริ่มออกผจญภัยในฐานะนักล่าค่าหัวเป็นครั้งแรกล่ะ? เกมนั้นมันคงน่าเล่นไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมล่ะครับ ซึ่งเกมที่ผมว่ามานั้นก็คือ Star Wars : 1313 นั่นเอง
โดยตัวเกมจะเป็นเกมแนวเดินยิงมุมมองบุคคลที่ 3 (TPS) และบวกกับการใส่จังหวะเท่ๆ หรือความเป็น Cinematic ให้อารมณ์คล้ายคลึงกับเกมตระกูล Uncharted ที่เราคุ้นเคย ซึ่งหลังจากที่ตัวอย่างเกมเพลย์ของ Star Wars : 1313 ถูกปล่อยออกมาได้ไม่นาน มันก็สามารถเรียกกระแสความ Hype ของชาวเกมเมอร์ได้อย่างไม่ยากเย็น ทำให้ทุกคนในเวลานั้นต่างตั้งหน้าตั้งตารอซื้อเกมนี้กันแถม แต่ทุกคนกลับต้องใจสลาย เมื่อมีข่าวประกาศยกเลิกเกม Star Wars : 1313 ไปในที่สุด และมีการเปิดเผยในภายหลังว่าเป็นผลพวงมาจากการสั่งปิด Lucas Arts (ทีมพัฒนาเกมของ Lucas Film) จากทาง Disney นั่นเอง
3. Agent
ลองจินตนาการดูว่าถ้าวันหนึ่ง Rockstar ได้ทำเกมแนว Open World ที่ไม่ใช่เกมตระกูล GTA ขึ้นมา เกมของพวกเขาจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันนะ? ซึ่งคำตอบที่ว่านี้ก็ดูเหมือนจะเป็นเกม Agent อีกหนึ่งโปรเจคยักษ์ใหญ่จากทาง Rockstar ที่จะเปลี่ยนบทบาทของผู้เล่น จากเหล่าอาชญากรป่วนเมือง มาเป็นสายลับในยุคสงครามเย็น และตัวเกมจะเน้นการเล่นแบบลอบเร้นหรือ Stealth อีกด้วย แค่ฟังดูก็เจ๋งแล้วใช่ไหมล่ะครับ? แต่นอกเหนือจากคอนซ็ปต์ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ทาง Rockstar ได้แต่เปิดเผยภาพ Screenshot และภาพ Concept Arts ของ Agent ออกมาให้เราได้ชมเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง (ไม่มีแม้กระทั่ง Teaser ของเกมเลย) และในเวลาต่อมาตัวเกมดังกล่าว ก็ไม่ได้ถูกกล่าวถึงอีกเลยเป็นเวลาหลายปี จนทำให้แฟนๆ ที่รอคอยเกมนี้รับรู้ได้ว่าเกมถูกยกเลิกไปแล้วอย่างเงียบๆ แต่ถึงอย่างนั้นทาง Rockstar ก็ได้มีการต่ออายุชื่อ Agent อยู่ประมาณสองครั้งด้วยกัน ซึ่งมันอาจจะเป็นสิ่งบ่งชี้ได้ว่า Agent กำลังติดอยู่ในวังวนของการพัฒนาอยู่ก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม มันก็ยังน่าเสียดายอยู่ดีที่เกมเมอร์อย่างเราอาจจะไม่ได้สัมผัสกับอีกหนึ่งผลงานที่คาดว่าจะเป็นเกมเทพจาก Rockstar
4. Starcraft : Ghost
สำหรับใครที่ติดตามข่าวจากทางค่าย Blizzard มาโดยตลอด หรือเป็นแฟนเกมตระกูล Starcraft ผมเชื่อว่าจะต้องคุ้นหูคุ้นตา Starcraft : Ghost อย่างแน่นอน โดย Starcraft ภาคนี้ได้แหวกรูปแบบเดิมของเกมไปอย่างสิ้นเชิง จากเกมวางแผนแบบ Real-time (RTS) มาเป็นเกมลอบเร้นเต็มรูปแบบ ถือเป็นแนวทางใหม่ที่ที่เสี่ยงมากๆ เพราะการจะเปลี่ยนแนวเกมของตนเองแบบยกเครื่องใหม่ทั้งดุ้นเช่นนี้ ถ้ามันไม่ปังก็อาจถึงขั้นพังได้เลย แต่หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยตัวอย่างเกมเพลย์ออกมาเป็นระยะ มันก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีใช้ได้จากแฟนๆ เกม แต่ถึงอย่างไรก็ตามตัวเกมกลับถูกพัฒนาช้าไปหน่อย เพราะช่วงที่เกมนี้เริ่มกระบวนการสร้าง มันคือช่วงรอยต่อของเครื่องคอนโซลเจ็นเก่าและใหม่พอดี ทำให้องค์ประกอบของเกม ทั้งภาพและเกมเพลย์ดูตกยุคไป เป็นเหตุให้ตัวเกมอาจติดอยู่ในวังวนการพัฒนาหรือ Devlopement Hell และต่อมาในปี 2014 ทาง Blizzard ก็ได้มีการออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าตัวเกมได้ถูกยกเลิกแล้ว (หรือ12 ปีหลังจากที่เกมประกาศครั้งแรกนั่นเอง)
5. Scalebound
Scalebound น่าจะเป็นเกมที่เกมเมอร์หลายๆ คน (รวมถึงผมด้วย) รู้สึกเสียดายมากที่สุดก็เป็นได้ เพราะถ้าเทียบกับทุกเกมที่อยู่ในนี้ เรียกได้ว่าเป็นเกมที่มีความพร้อมมากที่สุด มันเป็นเกมที่เกือบจะเสร็จสมบูรณ์ทุกองค์ประกอบและพร้อมจะวางจำหน่ายในเร็ววันแล้ว โดย Scalebound เป็นเกมจาก Platinum Games ทีมพัฒนาที่มีผลงานเป็นเกมเทพสุดมันส์ตั้งแต่ Beyonetta, NieR:Automata, Metal Gears Rising นั่นเองครับ
ในตอนแรกนั้น Scalebound ถูกประกาศให้เป็นเกม Exclusive ให้กับเครื่องเกม Xbox One ของ Microsoft ทำให้ในเวลานั้น เกมเมอร์หลายคนที่เฝ้ารอเกม Scalebound ต่างพากันหยิบเงินในกระเป๋ามาจับจองเครื่อง Xbox One กับเป็นแถบๆ เพราะด้วยตัวอย่างเกมเพลย์ที่มีการเปิดเผยออกมา เรียกได้ว่ามีความน่าเล่นที่สูงมากๆ ทั้งระบบการต่อสู้ที่ลื่นไหล, ระบบการต่อสู้ร่วมกับมังกรคู่ใจของเรา บวกกับงานภาพที่จัดอยู่ในระดับอลังการมากๆ แต่ก็น่าเสียดายที่ดันถูกยกเลิกกลางคันเนื่องจากการยกเลิกการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจระหว่าง Microsoft และ Platinum Games ทำให้เกมเมอร์หลายคนที่ซื้อ Xbox One มา ต่างพากันหลังหักจนแทบลงไปนอนเลยทีเดียว (จากที่ผมได้ยินมา ตัวเกมอเสร็จไป 80% แล้วด้วย)
6. Prey 2
ขออนุญาตเท้าความก่อนนะครับว่าเกม Prey (2017) กับเกม Prey 2 ที่ผมหยิบยกขึ้นมา เป็นคนละเกมกัน สำหรับ Prey (2017) เป็นเกมภาครีบูทและ Prey 2 เป็นภาคต่อจากตัวเกมต้นฉบับที่ออกในปี 2006 นั่นเอง โดย Prey 2 จะเป็นสานต่อความสำเร็จจากเกมภาคแรก และตัวเกมก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างของเกมออกมาให้เราได้รับชม ยอมรับเลยว่าในเวลานั้น มันเป็นอะไรที่ค่อนข้าง Wow ใช้ได้เลยล่ะครับ แต่หลังจากที่ตัวเกมเปิดตัวได้ไม่นานนัก มันก็โดนพิษร้ายจากวังวนการพัฒนาเล่นงาน เนื่องจากการเปลี่ยนมือผู้ถือสิทธิ์จาก 3D Realms มาเป็น ZeniMax Media เป็นผลให้นอกจากทีมงานจะเปลี่ยนแล้ว วิสัยทัศน์ในการพัฒนาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ทำให้ในเวลาต่อมาไม่นาน Prey 2 ก็ถูกยกเลิกไปเนื่องจากคุณภาพเกมเวอร์ชั่น Prototype ที่ไม่ตรงตามเป้าในท้ายที่สุด
7. MEGA MAN UNIVERSE
ถ้าคุณลองนำระบบการสร้างฉากแบบอิสระของเกม Mario Maker มาผสมกับระบบการเล่นของเกมตระกูล Mega Man มันคงจะเป็นอะไรที่น่าสนุกไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมล่ะครับ ซึ่งคอนเซ็ปต์ที่ผมกล่าวมาข้างต้น มันก็เคยเกือบจะเกิดขึ้นจริงในเกม MEGA MAN UNIVERSE อีกหนึ่งโปรเจคเกมในตระกูล Mega Man ที่ถูกยกเลิกระหว่างการพัฒนาไม่ต่างกับ Mega Man Legends 3, Rockman Online และ Maverick Hunter และยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงในการยกเลิกเกมเหล่านี้ แต่จากแหล่งข่าวได้มีการคาดเดากันว่า อาจเป็นผลมาจากการแยกตัวของผู้สร้างเกมตระกูล Mega Man อย่าง Keiji Inafune กับ Capcom ซึ่งก็เป็นเวลาที่ใกล้เคียงกับวันที่ทาง Capcom ออกมาประกาศยกเลิกเกม MEGA MAN UNIVERSE นั่นเอง
8. THE AVENGERS
มาปิดท้ายกับเกมที่เรียกได้ว่าน่าเสียดายมากๆ อีกหนึ่งเกมอย่าง THE AVENGERS จากทางทีมผู้พัฒนา THQ โดย THE AVENGERS จะเป็นเกมแนวสวมบทบาท (RPG) มาผสมเกมแนวมุมมองบุคคลที่ 1 (FPS) ที่สามารถเล่นได้พร้อมกันสูงสุด 4 คน ซึ่งตัวละครที่เราสามารถเลือกมาเล่นได้ ก็จะเป็นตัวละครหลักที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างดีในจักรวาลของ Marvel ตั้งแต่ Captain America, Hulk, Ironman, Thor ไปจนถึงทีม Fantastic 4 และ X-men แต่นอกเหนือจากตัวละครที่มีให้เราเล่นอยู่มากมายแล้วนั้น มันมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกมนี้มันน่าเสียดายมากๆ ก็คือการที่ตัวเกมได้รับการเขียนบทโดย Brian Michael Bendis ที่เคยฝากผลงานไว้กับ Secret Invasion (แฟนๆ Marvel จะต้องคุ้นเคย)
ถึงแม้ว่า THE AVENGERS จะใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่กลับถูกยกเลิกไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยเหตุผลที่ว่า “ตัวเกมใช้งบในการพัฒนาเยอะเกินไป” แต่ถึงอย่างนั้นทางช่อง DidYouKnowGaming ได้ออกมาเปิดเผยว่าทางผู้เขียนบท Brian Michael Bendis มีแผ่นเกมเวอร์ชั่นเต็มอยู่ในการครอบครอง ทำให้เกมเมอร์อย่างเราอดสงสัยไม่ได้ว่าถ้า THE AVENGERS ได้ออกมาวางจำหน่ายจริง มันจะยอดเยี่ยมแค่ไหนกันนะ?
อ่านมาถึงตรงนี้ผมเชื่อว่าหลายคนต้องรู้สึกเสียดายไม่น้อยเลยที่เกมเหล่านี้ไม่ถูกออกมาให้เล่นจริง เพราะหลายเกมมันทั้งน่าเล่นและน่าสนใจเอามากๆ อย่างเช่น Scalebound นั้น ผมยอมรับเลยว่าหลังจากที่เห็นตัวอย่างเกมแล้วนี่แทบจะรอคอยวันที่จะได้เล่นกันเลยทีเดียว หรือจะเป็น MEGA MAN UNIVERSE ที่ถ้าออกมาวางจำหน่ายจริง แฟนเกม Rockman ก็คงฟินไปตามๆ กัน รวมถึง THE AVENGERS ที่อาจจะกลายเป็นเกมยอดเยี่ยมขวัญใจแฟนๆ Marvel เลยก็ได้ ซึ่งสุดท้ายเกมเมอร์ตาดำๆ อย่างพวกเราก็ทำได้เพียงแค่รู้สึกเสียดายกับเกมเหล่านี้ที่มันคงไม่มีโอกาสออกมาสร้างความบันเทิงกับเราได้ในท้ายที่สุด