สกู๊ปพิเศษ

8 แนวเกมที่ค่ายเกมยักษ์ใหญ่ไม่นิยมสร้างในยุคปัจจุบัน

เหลือแต่เพียงเกมจากผู้พัฒนาเล็กๆ ที่รอวันสานต่อ

วิดีโอเกมก็ไม่ต่างอะไรกับสื่อประเภทอื่น ทั้งภาพยนต์หรือการ์ตูนที่ในแต่ละยุคสมัยจะมีการเปลี่ยนแนวของตัวเองอยู่ตลอดเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับอะไรที่สดใหม่และน่าสนใจอยู่เสมอ ฟังดูดีใช่ไหมล่ะครับ แต่ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมแลกมาด้วยความสูญเสียเสมอ วงการเกมก็เช่นกันที่เมื่อเวลาผ่านไป ความนิยมของแนวเกมก็แปรผันไปตามกาลเวลา เป็นผลให้ทีมพัฒนาเกมเจ้าใหญ่หลายค่ายเริ่มที่จะหยุดทำเกมแนวที่เราชอบไป หรือถ้ามีก็อาจจะออกมาให้เราเล่นได้น้อยลง ทำให้เกมบางเกมนั้นเป็นได้เพียงความทรงจำในอดีต และเหล่าเกมเมอร์ก็ได้ทำได้แค่หวังลึกๆ ว่าสักวัน แนวเกมเหล่านั้นจะได้รับการสานต่อจากทีมผู้พัฒนาอื่นๆ  ซึ่งในวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปพบกับ 8 แนวเกมที่ค่ายเกมยักษ์ใหญ่ไม่นิยมสร้างในยุคปัจจุบัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

1. Real-Time Strategy

image 5537


มาเริ่มกันที่เกมแนววางแผนแบบเรียลไทม์หรือที่เรารู้จักในชื่อของ RTS ซึ่งครั้งหนึ่งเกมแนวนี้เคยเป็นที่นิยมของเด็กร้านคอมสมัยก่อนเป็นอย่างมาก (และก็รวมไปถึงเด็กแอบเล่นเกมในวิชาคอม) ผมเชื่อว่าถ้าพูดถึงชื่อเกมเหล่านี้ขึ้นมาต้องมีเกมเมอร์หลายท่านต้องรู้จักอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นเกม Command & Conquer Red Alert 2 Yuri’s Revenge หรือจะเป็น Battle Realm อีกหนึ่งเกมวางแผนยอดดวงใจของใครหลายๆ คน แต่ในปัจจุบันแนวเกม RTS ก็แทบไม่มีเกมชื่อใหญ่ๆ ออกมาให้เราเห็นเป็นเวลานานมากแล้วตั้งแต่ปี 2010 ที่ทาง EA ได้ทำการปล่อยเกม Command & Conquer 4: Tiberian Twilight ออกมาสู่สายตาชาวเกมเมอร์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่แนวเกมนี้จะเงียบหายและกลายเป็นเพียงอดีตไปอย่างน่าเสียดาย

2. Point and Click Adventures

image 5532


หากคุณเคยได้สัมผัสเกมจากค่าย Telltales ทั้งเกมตระกูล Walking Dead หรือ Batman: The Telltale Series คงจะพอทราบกันดีว่าแนวเกมดังกล่าวนั้น จะเน้นการเล่าเรื่องเหมือนเรากำลังรับชมภาพยนตร์เป็นหลัก แต่ก็มีการใส่องค์ประกอบต่างๆ ที่ให้ผู้เล่นสามารถมีปฏิสัมพันธ์ภายในตัวเกมได้ตั้งแต่การเดินสำรวจฉาก ไปจนถึงการเลือกช้อยส์ที่อาจจะส่งผลถึงฉากจบซึ่งนับว่าเป็นจุดเด่นของเกมนี้

โดยช่วงที่แนวเกม Point and Click นั้นได้รับความนิยมสูงสุดก็ต้องย้อนไปในยุค 90 ที่มีเกมชื่อดัง (ในอดีต) อย่าง Monkey Island เป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่ช่วยทำให้เกมแนวนี้กลายเป็นที่นิยมของชาว PC ณ ตอนนั้น แต่ก็น่าเสียดายที่ในยุคปัจจุบัน เกมแนวนี้ก็มีให้เราเห็นน้อยลงทุกวันตั้งแต่ Walking Dead ของ Telltales ได้จบลงไป

3. เกมขับรถสไตล์ Arcade

image 5536


ในยุคปัจจุบันเกมแข่งรถหลายเกม (ยกเว้น Mario Kart) ได้เปลี่ยนแปลงให้มีความสมจริงและมีความเป็น Simulation มากขึ้นเพื่อเป็นจุดขายสำคัญของตัวเกม ตั้งแต่เกมชื่อใหญ่อย่าง Forza, Gran Tursimo หรือเกมตระกูล F1 ที่ขายความสมจริงแทบทั้งสิ้น

แต่เชื่อหรือไม่ว่าครั้งหนึ่งเกมแข่งรถสไตล์ Arcade นั้นเคยก็เป็นที่นิยมอย่างมาก และเกมที่ผมกำลังจะกล่าวถึงนั้น เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น Burnout, Flatout, Blur, Need for Speed (ภาคเก่าๆ) , Midnight Club, Hydro Thunder หรือ Road Rash ที่ล้วนแล้วเป็นเกมแนวแข่งรถสไตล์ Arcade ที่เน้นความมันส์ในการชนรถคู่แข่งให้เละได้อย่างอิสระ แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้เกมแนวแข่งรถแบบ Arcade ก็มีให้เราเห็นน้อยลง

4. เกมเพลง Rhythm

image 5531

มาต่อกันที่เกมสายดนตรีกดตามจังหวะ หรือที่เรารู้ในชื่อของ Rhythm Based โดยเกมแนวนี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ ตัวเกมเป็นแนวกดปุ่มตามจังหวะเสียงเพลงที่อาจจะดูง่าย แต่พอเราล่นไปนานๆ ระดับความยากจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (ยากถึงขั้นตาลายกันเลยทีเดียว)

โดยเกมแนวนี้กลายเป็นที่นิยมสูงสุดในช่วงปี 2000 ที่ไม่ว่าไปทางไหนเราจะเห็นเกมแนวนี้อยู่ทุกหนแห่ง ตั้งแต่เกม Rock Band, Guitar Hero หรือจะเป็นเกมขึ้นหิ้งจากทางฝั่ง PS1 อย่าง PaRappa แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กระแสความนิยมของเกมแนวนี้จะลดน้อยลงไป เนื่องจากมีเกมหลากหลายแนวให้เราเลือกเล่นมากขึ้น แต่เกมแนวนี้ก็ยังคงมีให้เห็นกันอยู่บนแพลตฟอร์มมือถือและตู้อาเขตตามห้างสรรพสินค้าอยู่ครับ

5. Arcade FPS

image 5538

ถ้าพูดถึงเกมแนวเดินหน้ายิงตะลุยฉากด้วยความเร็วแบบเต็มสปีด, มีอาวุธสุดพิสดาร, ศัตรูที่เป็นภูตผีปีศาจ หรืออะไรก็ตามที่มันไม่ใช่คน และยังไม่เน้นการเล่นแบบหลายคน เพื่อนๆ คงจะคิดถึงเกม Doom ใช่ไหมล่ะครับ และในยุคปัจจุบันนี้ นอกจากเกม Doom ก็แทบจะไม่เหลือเกมแนวนี้ให้เห็นแล้ว ที่พอนึกออกก็มี Wolfenstein (เพิ่งมีเกมภาคใหม่ออกมาคือ Youngblood) แต่กลับมีการนำระบบที่คล้ายๆ กับ RPG เข้ามาในเกม มันเลยแลดูจะเป็น Looter-Shooter เสียมากกว่า ทำให้ ณ ตอนนี้เกมที่มีความใกล้เคียงกับ Arcade FPS มากที่สุดคงเหลือเพียงแค่ Doom เท่านั้นเอง

6. Side-Scrolling Beat ‘Em Ups หรือเกมตะลุยมุมมองด้านข้าง

image 5533

อีกหนึ่งแนวเกมที่เคยได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต (ราวๆ 10-20 ปีก่อน) นั่นก็คือเกมเดินตะลุยมุมมองด้านข้างหรือ 2D Beat ‘Em Ups ถ้าไปลองค้นเกมเก่าๆ ในยุคของเครื่อง SNES หรือ Famicom ดูแล้วเนี่ย ผมบอกได้เลยว่าคุณจะเจอกับเกมแนวนี้เยอะมาก ตั้งแต่เกม Final Fight หรือ Teenage Mutant Ninja Turtles: Turtles in Time ที่ถือว่าค่อนข้างโด่งดังในยุคนั้น และสาเหตุที่เกมแนวนี้ได้รับความนิยมก็คงเป็นเพราะว่าเกมแนวนี้ที่เล่นง่าย, เข้าใจง่าย แถมเล่นได้พร้อมกันหลายคนนั่นเอง แต่หนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกมแนวนี้หายไป ผมเชื่อว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับ Hardware ในปัจจุบันที่มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นแลรองรับลูกเล่นในรูปแบบ 3D ที่สมัยก่อนไม่สามารถทำได้ เป็นผลให้เกมแนว 2D Beat’ Em Ups หลงเหลือน้อยอยู่เต็มทีแล้วในยุคนี้ มีแต่เพียงเกมจากทีมพัฒนาเล็กๆเท่านั้น

7. Extreme Sports

image 5534


ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องเคยได้สัมผัสกับเกมแนวกีฬาสาย Extreme ในยุค PS1 หรือ PS2 อยู่บ้างไม่มากก็น้อย อย่างเช่น เกมตระกูล Tony Hawk’s ที่ให้เราได้สวมบทบาทเป็นนักกีฬา Extreme บนสเก็ตบอร์ดหรือจักรยาน BMX ที่นอกจากจะเท่แล้ว ตัวเกมยังใส่ระบบที่สามารถออกท่าทาง โชว์ลวดลายความพริ้วของเราได้อีกต่างหาก

ซึ่งในช่วงที่เกมแนวนี้ได้รับความนิยมถึงขีดสุดนั้น มันช่างพอเหมาะพอเจาะกับช่วงที่กีฬา Extreme กำลังเป็นที่นิยมอยู่ ชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็เห็นแต่สเก็ตบอร์ดและจักรยาน BMX เต็มไปหมด แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยไป บวกกับความนิยมของกีฬา Extreme ที่ลดลง ทำให้แนวเกมนี้หายไปจากสารบบอย่างไม่ต้องสงสัย

8. 3D Platformers

image 5535

ถ้าพูดถึงเกมแนวนี้ ผมเชื่อว่าเกมเมอร์หลายท่านต้องคิดถึงเกมตระกูล Mario อย่างแน่นอน เพราะเกมแนวนี้ที่ออกมาให้เราได้เห็นและได้สัมผัสหลักๆ มันก็มีเพียงแค่เกมมตระกูล Mario เท่านั้น

แต่รู้หรือไม่ว่าในอดีตเกมแนว 3D Platformers เกมอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Crash Bandicoot, Donkey Kong 64, Gex, Spyro, Banjo-Tooie หรือ Ratchet & Clank (ไล่มาขนาดนี้ต้องมีคุ้นๆ บ้างล่ะ) บอกเลยว่าเกมแนวนี้เคยเป็นที่นิยมมากๆ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปตามความต้องการของผู้เล่นในยุคปัจจุบัน ทำให้เราแทบไม่เห็นเกมแนวนี้จากค่ายใหญ่ๆ เลย (ที่เคยเห็นก็น่าเป็น Hat in time)

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว มีแนวไหนบ้างที่คุณคิดถึงและเคยเป็นแฟนตัวยง แต่นอกเหนือจากในบทความนี้ยังมีอีกหนึ่งแนวอย่าง Stealth ที่เริ่มจะเห็นน้อยลงไปเช่นกัน รวมถึงแนวยิงสายสมจริงแบบ Tactical ที่หาเล่นได้ยากกว่าแต่ก่อนมาก ( ส่วนใหญ่ก็กลายเป็นเกมเฉพาะกลุ่มไปแล้วด้วย ) ทำให้ผมกลับมาคิดได้ว่าสมัยก่อนเกมที่เราเล่นนั้น ถึงแม้คอนเซ็ปต์ต่างๆ ของเกมมันจะดูตกยุคเมื่อเทียบกับเกมในทุกวันนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เกมในสมัยนี้เทียบไม่ได้นั่นก็คือเสน่ห์และกลิ่นอายความหอมหวานในวันวานนั่นเอง

Via
mandatory
ที่มา
whatculture
Back to top button