7 ประเภทผู้เล่นที่คุณจะได้เจอในเกมเศรษฐี 2: Meta World

แข่งกับใครก็ต้องเจอแบบนี้ บางคนก็โอเค บางคนก็ไม่อยากเจอ

Jou Thunder24 April 2023

8 ภายใน 1 นาที

เกมเศรษฐี 2: Meta World เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปแล้วเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2023 ที่ผ่านมา นอกจากเกมเพลย์ที่สนุกสนานแล้ว ยังมาพร้อมกับระบบ Meta World ที่จะจำลองโลกเสมือนให้เพื่อน ๆ ได้จับจองซื้อที่ดินและฝึกเป็นนักลงทุนในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ แถมยังแลกเปลี่ยนเป็นเงิน NFT เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้อีกด้วยครับ แต่ก่อนที่จะไปถึงตรงนั้นได้เราก็จะมาเล่นเกมในโหมดเกมกระดานเสียก่อน ในเกมเพลย์จะต้องเจอผู้เล่นหลากหลายแบบสุ่ม พอเกมเปลี่ยนจากเกมเน้นดวงเป็นเน้นกลยุทธ์ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผู้เล่นและพฤติกรรมของพวกเขาก็เปลี่ยนไปตามสไตล์ของตัวเอง มาดูกันครับว่ามีคนแบบไหนแฝงตัวในเกมนี้กันบ้าง

1. เลือกไพ่เริ่มเกม ต้องรอให้คนอื่นเลือกก่อน

แค่เริ่มเกมก็ตึงแล้วครับ เพราะว่าตอนต้นเกมเราจะต้องทำการเปิดไพ่ 1 ใบ จาก 5 ใบ บนจอ เพื่อหาว่าเกมนี้ใครจะได้เป็นผู้เริ่มเล่นก่อน โดยไพ่ทั้งหมด 5 ใบที่ปรากฎอยู่บนจอนี้ก็จะเป็นการสุ่มตัวเลขนั่นแหละ ไม่ได้มีกลยุทธ์หรือชั้นเชิงอะไรหรอก แต่ว่าเรากับคู่แข่งจะต้องใช้กองไพ่ทั้ง 5 ใบนี้ร่วมกันครับ แล้วมันจะมีผู้เล่นอยู่ประเภทหนึ่งที่ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมเปิดไพ่ก่อนเด็ดขาด เพราะถ้าให้เราเปิดก่อน ตัวเลือกของเขาก็จะเหลือ 4 ใบ ถ้าเราได้เลขต่ำ ๆ ก็จะเป็นการตัดใบแย่ ๆ ออกไป 1 ใบ (อะไรจะขนาดนั้น!) แต่เอาจริง ๆ ส่วนตัวคิดว่ายังไงมันก็คือดวง ถ้าจะจ้องเอาจริงเอาจังตั้งแต่เปิดไพ่ช่วงต้นของเกมก็แอบตึงอยู่เหมือนกันนะครับเนี่ย

2. สุลต่านสายเติม แค่เห็นการ์ดก็ท้อแล้ว

การจะรู้ว่าคู่แข่งของเรานั้นเก่งไม่เก่งหรือเติมไม่เติมเนี่ย เราสามารถเอะใจได้ตั้งแต่หน้าจับคู่ผู้เล่นแล้วล่ะครับ เพราะว่าการจับคู่จะมีแต้มถ้วยรางวัลสีทองเป็นสัญลักษณ์ว่าคน ๆ นี้ชนะต่อเนื่องมากี่ครั้งแล้ว และถ้าถ้วยรางวัลนี้มันเยอะกว่าเรามาก ๆ ก็จะเตรียมใจแล้วว่าเจอของแข็งแน่นอน แล้วยิ่งเปิดร่างตัวละครให้เห็นในเกมก็จะเก็ตเลยว่า “โห…เสื้อผ้าจัดเต็มมาก!” คือไม่มีชุดที่ใส่ฟรีเลยสักชิ้นเดียว แต่งแฟชั่นที่ใช้เพชรซื้อแบบแพง ๆ เต็มตัว แถมการ์ดที่ปรากฎอยู่ด้านบนหน้าจอก็คือไม่สีม่วงก็สีทอง คือผู้เล่นสายฟรีทั่วไปแค่มีม่วงสักใบคือเก่งแล้ว ปกติจะถือการ์ดสีฟ้าไม่ก็สีเขียวกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเอาชนะพวกเขาไม่ได้นะครับ อยู่ที่การวางแผนและการเล่นจริงภายในเกม ถ้าวางแผนมาดีก็เอาชนะได้เหมือนกันครับ

3. มนุษย์ Double เล่นเทิร์นละ 3 รอบ

การ Double เป็นกรณีที่เราทอยเต๋าเป็นเลขคู่ แล้วหน้าเต๋าออกเลขเดียวกัน เช่น 1-1, 2-2, 3-3 เป็นต้น กรณีของ Double จะทำให้เราได้เล่นเทิร์นต่อโดยที่ฝ่ายตรงข้ามต้องรออย่างเดียวเท่านั้น แต่การ Double จะทำได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ถ้า Double ครั้งที่ 3 จะติดเกาะร้างทันที แต่แน่นอนว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ก็จะเดินปกติในรอบที่ 3 แทน ซึ่งมันก็อยู่ที่ดวงส่วนหนึ่งแต่ก็พอจะควบคุมได้บ้าง เช่น การเลือกการ์ดที่ช่วยในการออกเลขคู่เยอะ ๆ ก็จะช่วยได้ หรือถ้าดวงดีจริง ๆ เต๋า Double อาจขึ้นมือต่อกัน 2-3 ใบ และมนุษย์ Double แบบนี้เราแทบจะไม่อยากเจอครับ เพราะเราเล่นได้แค่ 1 ตา แต่พวกเขาจะเล่นทีละ 2-3 ตา มันเสียเปรียบมาก ๆ ถ้าเจอคือแทบจะวางมือถือเลยครับ

4. เล่น ๆ อยู่แล้วหลุด ปล่อยบอทเล่นให้ซะงั้น

อาจจะเป็นเพราะสาเหตุอะไรสักอย่างหนึ่งกับตัวผู้เล่น หรือเน็ตของผู้เล่นก็ตาม จะมีผู้เล่นอยู่ประมาณหนึ่งที่เล่น ๆ อยู่แล้วจะเกิดอาการหลุด และตัวเกมจะเปลี่ยนมาให้บอทเป็นคนเล่นแทน ซึ่งสำหรับมนุษย์อย่างเราก็พอจะจับผิดได้ว่านิสัยการเล่นมันเปลี่ยนไป จากปกติค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ เดิน ดูเป็นคนระวังตัว มีการกั๊กการ์ด กลายเป็นว่าพอบอทเล่นคือวิ่งตรงอย่างเดียว มีการ์ดอะไรก็กด ๆ ใช้ไปให้ครบ กลายเป็นว่าทำให้เราเดาทางง่ายขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ก็ทำให้เรารู้ว่า “อ๋อ…คนนี้เขาหลุดนี่เอง” ซึ่งแน่นอนว่ามันก็เกิดขึ้นกับตัวเราได้เช่นกันครับ

5. ไม่หลุด แต่คิดนาน เอาคุ้มทุกวินาที

คนอีกประเภทหนึ่งที่น่าอึดอัดใจไม่แพ้กันก็คือมนุษย์นักคิด นักวางกลุยทธ์ คือฉันไม่ได้หลุดออกจากเกมหรอก แต่ฉันแค่คิดนาน อยากเน้นชัวร์หรือเป็นคนกลัวพลาดก็ไม่รู้ แต่เก็บทุกวินาทีไม่ขาดตกบกพร่อง เวลาซื้อของก็คิดนานว่าจะเอาอะไรดี เวลาอยู่ที่รถไฟก็จะคิดว่าไปที่ไหนดี ถ้าดวงซวยต้องไปเหยียบเมืองศัตรูที่ไหนสักแห่ง จะต้องเปิดตัวเลขดูให้ชัด ๆ ว่าตกช่องไหนเสียเงินเท่าไหร่ แล้วหาช่องที่ปลอดภัยที่สุด คือเป็นสายเพลย์เซฟอย่างแท้จริง ข้อดีของคนกลุ่มนี้คือรอบคอบและเป็นคู่แข่งที่ตึงมือมาก แต่ข้อเสียก็คือคนอื่นเขารอนานโว้ย! จะคิดอะไรขนาดนั้น

6. สาย Take Over เหยียบทุกเมืองแย่งทุกช่อง

ผู้เล่นสายนี้จะเป็นสายที่เล่นด้วยแล้วรู้สึกกดดันมาก แต่กลับกันคนกลุ่มนี้จะเล่นด้วยสนุก มันเป็นเหมือนกับการเล่นที่แลกหมัดกันไปมา ไม่กลัวเสียตังค์ ใจถึง ถ้าเลือกเต๋าลงช่องเมืองศัตรูได้คือเหยียบทุกเมืองยับ ๆ แล้ว Take Over แย่งซื้อเมืองมาเป็นของตัวเองรัว ๆ เงินหมดไม่กลัว เน้นชนะด้วยพอยท์แลนด์มาร์ค ถ้าเจอคนกลุ่มนี้อาจจะได้รู้สึกกดดันตั้งแต่ต้นเกม เพราะการแย่งเมืองตั้งแต่ช่วงแรกจะทำให้คะแนนห่างกันมาก ๆ ประมาณ 5-0 หรือ 7-0 ได้ง่าย ๆ ถ้าช่วงกลางเกมไม่ใช้ความได้เปรียบจากจำนวนเงินที่เยอะกว่ามาแก้ เราจะโดนกดดันจนแพ้ในที่สุดครับ แต่ถ้าเราเล่นสายนี้เองต้องมีสตินิดนึง เพราะถ้าเงินหมดตัวก็แพ้เหมือนกัน

7. มีการ์ดแต่ไม่ใช้ ดองไว้ให้เสียวเล่นท้ายเกม

มันจะมีผู้เล่นประเภทหนึ่งครับที่ชอบดองการ์ดคีย์บางอย่างไว้ใช้ท้ายเกม ซึ่งการ์ดเหล่านี้จะมีผลใหญ่ ๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพอยท์ที่ใช้ตัดสินแพ้ชนะได้ทันทีที่กดใช้ ซึ่งพอเรามองเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่กดใช้เลยนี่หว่า เราก็จะตั้งการ์ดแล้วว่ามันจะตัดสินใจใช้ตอนไหน เพราะบางครั้งเราได้เปรียบอยู่ดี ๆ แล้วเจอคอมโบ Double เล่นต่อเนื่องสัก 3 เทิร์น พร้อมใช้การ์ดดี ๆ สัก 2-3 ใบ คือพลิกคะแนนได้ 3-4 พอยท์เลยนะครับ เพราะงั้นถ้าแต้มไม่ได้ห่างขาดนี่ไม่ควรวางใจเด็ดขาด ควรดองการ์ดไว้แก้เกมบ้างสักใบสองใบ อย่าใช้หมด เพราะถ้าเจอผู้เล่นสายนี้ขึ้นมาท้ายเกมจะลำบาก

และนี่ก็คือ “7 ประเภทผู้เล่นที่คุณจะได้เจอในเกมเศรษฐี 2: Meta World” เป็นยังไงกันบ้างครับ ตรงกับประสบการณ์ที่เพื่อน ๆ เคยเจอกันมาบ้างหรือเปล่า หรือว่าเพื่อน ๆ เป็นประเภทไหนจากที่กล่าวมาก็สามารถคอมเมนต์พูดคุยกันได้นะครับ จากที่เล่ามาคืออยู่ในแชนแนลไม่เกินโปร 2 นะครับ ก็ไม่แน่ใจว่าพอระดับมันสูงขึ้นกว่านี้ ไปเอ็กซ์เพิร์ตหรือแชมเปี้ยนจะเจอผู้เล่นที่คิดกลยุทธ์ได้ลึกซึ้งกว่านี้หรือเปล่า ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนที่ไปถึงจุดนั้นแล้วก็แชร์ประสบการณ์ให้ฟังด้วยนะครับ