การพอร์ตเกมจากแพลตฟอร์มหนึ่งไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ เป็นสิ่งที่เราสามารถเห็นได้อยู่ทั่วไปในวงการเกมยุคปัจจุบัน ที่เรามักจะเห็นอยู่เป็นประจำคือการนำเกมที่อยู่บนแพลตฟอร์มคอนโซลมาลงให้กับ PC โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นยอดขายและขยานฐานแฟนๆ ฝั่ง PC แต่อย่างไรก็ตามการพอร์ตจากแพลตฟอร์มหนึ่งมายังอีกแพลตฟอร์มอื่น มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและในบางครั้งก็ตามมาด้วยปัญหาของตัวเกม ตั้งแต่การกินทรัพยากรเครื่องที่มากเกินไป, เกมไม่สามารถเล่นบน PC ได้อย่างไหลลื่น หรือแม้กระทั่งตัวเกมอาจไม่รองรับการ์ดจอบางประเภทที่อยู่บน PC ทำให้ผลที่ตามมา จากเกมที่มันควรจะเล่นได้ตามปกติ มันก็ดันกลายเป็นเกมที่ไม่สมประกอบไปซะอย่างนั้น โดยในวันนี้ผมจะมานำเสนอ 6 เกมดังที่พังเพราะการพอร์ต จะมีเกมอะไรบ้างนั้นไปเริ่มกันเลยครับ
1. Batman: Arkham Knight
หากเกมเมอร์ท่านไหนที่เป็นแฟนเกมตระกูล Batman: Arkham หรือเป็นเกมเมอร์ชาว PC ที่ติดตามข่าวอยู่เป็นประจำ คงจะเคยได้ยินข่าวที่ Batman: Arkham Knight เกมภาคจบของไตรภาค Arkham ที่ถูกปลดออกจากร้านค้า Steam หลังจากวางจำหน่ายได้ไม่นาน โดยสาเหตุที่ตัวเกมถูกปลดออกนั้นก็มาจากปัญหาในการพอร์ตของเกมนี่แหละครับ
เพราะจากรีวิวของผู้เล่นหลายๆ คน มีการรายงานว่าตัวเกมเวอร์ชั่น PC นั้นมีปัญหาอยู่มากมายตั้งแต่ ปัญหาเกมเด้ง (Crash) , เฟรมเรตตก, เซฟเกมหาย รวมไปถึงบัคของภาพในเกมต่างๆ ที่มันชวนให้เหล่าเกมเมอร์ที่ซื้อเกมเวอร์ชั่น PC แทบจะสาปส่ง Rocksteady กันเลยทีเดียว และมันก็มีอีกหนึ่งเรื่องที่น่าโมโหจนชวนให้กำหมัดเลยก็คือ ทาง Rocksteady ใช้เวลาร่วม 4 เดือนถึงจะสามารถชี้แจงปัญหาในการพอร์ตของตัวเองได้ทั้งหมด! บอกเลยว่าใครที่ซื้อเกมเวอร์ชั่น PC เพื่อหวังการปรับกราฟิกแบบสุด และเล่นได้แบบลื่นๆ ก็ต้องรอกันพร้อมกับหัวที่อุ่นๆ เลยทีเดียว
2. Resident Evil 4
ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นเกมๆ นี้ไปอยู่บนทุกแพลตฟอร์มไม่ต่างจากเกม Doom เลยก็ได้นะครับ (ฮา) โดยการพอร์ตของเกม Resident Evil 4 ที่ผมจะหยิบยกมาในวันนี้จะเป็นตัวเกมเวอร์ชั่น PC นั่นเอง หากใครเป็นแฟนเกมตระกูล Resident Evil หรือ Biohazard มาเป็นเวลานาน คงทราบกันดีว่าตัวเกมภาค 4 เป็นเกมในตระกูลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกหนึ่งภาค และด้วยความนิยมของตัวเกมดังกล่าวนี้เอง
มันก็ทำให้ในช่วงต้นปี 2007 ทาง Capcom ก็ได้นำเกมภาคนี้มาพอร์ตให้กับแพลตฟอร์ม PC โดยตัวเกมในเวอร์ชั่นนี้ถูกจัดจำหน่ายโดย Ubisoft ที่ในเวลานั้น เป็นอีกหนึ่งผู้จัดจำหน่ายที่ทำการพอร์ตเกมลง PC ได้ค่อนข้างแย่มากๆ ซึ่งผลก็เป็นไปตามคาด Resident Evil 4 เวอร์ชั่น PC นั้นเต็มไปด้วยปัญหาทางเทคนิคต่างๆ ตั้งแต่ ปัญหาด้าน texture, การบังคับที่ทำออกมาได้แย่ ไปจนถึงการบังคับเม้าส์ที่ไม่ค่อยจะสมประกอบ และด้วยเหตุนี้เองทำให้ตัวเกมเวอร์ชั่น PC กลายเป็นจุดด่างพร้อยของซี่รี่ส์ไปเลย
3. Grand Theft Auto 4
มากันต่อกับอีกหนึ่งเกมฟอร์มยักษ์จากทาง Rockstar กับเกม Grand Theft Auto 4 หรือ GTA 4 ที่ลงให้กับเครื่องคอนโซล PS3 และ Xbox 360 ในปี 2008 ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวให้กับเครื่องคอนโซลทั้งสองได้ไม่นาน GTA 4 ก็ได้กระแสตอบรับในทางที่ดีมากๆ ทั้งเกมเพลย์ที่มีความสมจริงมากขึ้น, ภาพกราฟิกที่มีการพัฒนา และการนำเสนอเมือง Liberty City ในแบบ Next Gen และด้วยเหตุนี้เองเลยทำให้ผู้เล่นฝั่ง PC ต่างพากันรอคอยวันที่ Rockstar จะนำเกมนี้มาพอร์ตลง PC กันอย่างใจจดใจจ่อ
ซึ่งมันก็ใช้เวลาประมาณ 8 เดือนด้วยกันหลังจากที่เวอร์ชั่นคอนโซลออกวางจำหน่าย แต่แทนที่ตัวเกมมันจะถูกขัดเกลามาอย่างดี ผลลัพธ์มันกลับตรงกันข้าม GTA 4 บน PC นั้นกลับเป็นเกมเวอร์ชั่นที่แย่ที่สุด เพราะเต็มไปด้วยปัญหาที่สุดจะทนตั้งแต่ การ Optimize ที่ทำมาได้ห่วยมาก (เกมกินเครื่องโคตรๆ เลยครับ) ไปจนถึงปัญหาเฟรมเรตตกที่ทำให้การเล่นเกมไม่ลื่นไหลอย่างมาก และถึงแม้ว่าในเวลาต่อมาทาง Rockstar จะมีการออก Patch มาเรื่อยๆ ก็ตาม แต่ส่วนใหญ่แล้ว ก็เป็นผู้เล่นกันเองนี่แหละ ที่คอยออก Mod มาแก้ไขให้ตัวเกมมันเสถียรขึ้น
4. Dark Souls
ส่วนตัวผมคิดว่าเกม Souls ภาคนี้น่าจะเป็นภาคที่พอร์ตลง PC ได้นรกที่สุดแล้ว เพราะถ้าให้ผมพูดง่ายๆ เลยก็คือตัวเกม Dark Souls ถูกพอร์ตลงมาบน PC โดยไม่ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ที่เรามักเห็นในเกม PC อยู่เลย ตั้งแต่การปรับเฟรมเรต, การจัดปุ่มบังคับ และก็รวมไปถึงการบังคับด้วยเมาส์และคีบอร์ดที่จัดอยู่ในระดับที่ชวนให้เราปวดตับมากๆ ซึ่งจากที่ดูๆ แล้วตัวเกม Dark Souls 1 บน PC ก็เรียกได้ว่าเป็นการพอร์ตที่ค่อนข้างชุ่ยเลยก็ว่าได้
เพราะนอกจากมันจะมีปัญหาทางเทคนิคที่ผมกล่าวมาข้างต้นแล้ว ตัวเกมก็ยังประสบปัญหาในแบบเดียวกับที่ตัวเกมเวอร์ชั่นคอนโซลเจอ อาทิเช่น อาการเฟรมตกที่เป็นผลมาจากการออกท่าของศัตรู หรืออาการเกมกระตุกจากขนของเจ้าหมา Sif ซึ่งจริงๆ มันไม่ควรจะเกิดขึ้นกับตัวเกมเวอร์ชั่น PC เลย และแทนที่ทางผู้พัฒนาจะออกมาแก้ไขตัวเกมเวอร์ชั่นนี้อย่างจริงจัง คนที่แก้ปัญหาส่วนมากก็ดันกลายเป็นกลุ่มชาว Mod ของตัวเกมซะอย่างงั้น จะไม่ให้โมโหได้ยังไง จริงไหมล่ะครับ?
5. Dishonored 2
ตอนกำลังนั่งรวบรวมข้อมูลอยู่ ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าจะมีเกมนี้อยู่ด้วย ซึ่งปัญหาที่ผมได้ทราบมาก็มีอยู่ว่า Dishonored 2 นั้นมีปัญหาในด้านการกินทรัพยากรเครื่องที่สูงเอาเรื่อง ทำให้ PC สเปคต่ำจนถึงระดับกลางนั้นแทบจะเล่นเกมไม่ได้เลยทีเดียว และถ้าใครยังใจแข็งตัดสินใจที่จะซื้อเกมบน PC แต่คอมของคุณไม่ถึงขั้นแนะนำ คุณก็จะประสบปัญหาจากการเล่นตั้งแต่เฟรมเรตที่ไม่คงที่, การบังคับเกมที่ทำได้ลำบาก รวมไปถึงปัญหาด้านภาพกราฟิกในเกมอีกด้วย แถมปัญหาเหล่านี้ทาง Besthesda ก็ไม่ได้มีการออกมากล่าวถึงสาเหตุว่า ทำไมตัวเกมในภาคสองนี้ถึงได้มีปัญหาอีกต่างหาก
ซึ่งมันต่างจากเกมภาคแรกที่สามารถเล่นบน PC ได้ตามปกติ (และไม่กินเครื่อง) ซึ่งจากข้อมูลของแหล่งข่าวต่างๆ น่าจะพอคาดเดาได้ว่า อาจเป็นเพราะทางผู้จัดจำหน่ายมีความต้องการที่จะนำเกม Dishonored 2 ออกมาวางจำหน่ายบน PC ให้เร็วที่สุด เป็นผลให้ตัวเกมในเวอร์ชั่น PC ไม่มีเวลามากพอในการขัดเกลาให้ออกมาสมบูรณ์แบบ
6. Assassin’s Creed Unity
มาจบกันที่เกมสุดท้ายที่เกมเมอร์ชาว PC (และคอนโซล) หลายท่านต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอน กับเกม Assassin’s Creed Unity ซี่รี่ส์เกมเรือธงส่งตรงจากทาง Ubisoft โดยตัวเกมในภาคนี้จะเป็นเกมภาคแรกที่ได้ลงให้กับเครื่องคอนโซล Gen ใหม่ในเวลานั้น อย่าง Xbox One, PS4 รวมไปถึง PC แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าตัวเกมบนเวอร์ชั่น PC นั้นแทบจะเล่นไม่ได้เลย เมื่อเทียบกับตัวเกมเวอร์ชั่นอื่นๆ (ที่ก็มีปัญหา Performance เกมเหมือนกัน) ตั้งแต่ ปัญหาเรื่องการกินทรัพยากรเครื่องที่สูงลิ่ว และปัญหา Glitch ต่างๆ ภายในเกมที่มีตั้งแต่ฮาๆ ไปจนถึง Glitch หนักๆ ที่ทำให้เกมเล่นต่อไม่ได้
เรียกได้ว่าถ้าในช่วงปี 2014 ร้านค้า Steam มีระบบคืนเงินในเวลานั้น ก็คงมีเกมเมอร์ไม่น้อยที่จะพร้อมใจกันคืนเกมและของเงินคืนอย่างไม่ลังเล แต่ในกรณีของ Unity อาจจะดูดีกว่าเกมอื่นๆ เพราะทาง Ubisoft ไม่เพิกเฉยและมีการออก Patch มาแก้เกมอยู่ตลอดไม่ขาดสาย และสุดท้าย Ubisoft ก็สามารถแก้ตัวได้ในเกม Assasin’s Creed ภาคต่อๆ ไป แต่อย่างไรก็ตาม AC Unity มันก็ยังเป็นอีกหนึ่งเกมที่พอร์ตลงมาบน PC ได้ไม่สบอารมณ์แฟนๆ
