6 เหตุผลที่คนรักเกม Turn-based จะต้องชอบ Brown Dust II

เพื่อน ๆ คงจะได้ยินการมาเยือนของเกม Brown Dust II กันแล้วใช่ไหมครับ เกมนี้คือเกมมือถือสาย Turn-based RPG ที่มีความสนุกด้านเกมเพลย์ค่อนข้างมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแนววางกลยุทธ์ แม้ว่าตัวเกมอาจจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้เล่นสายชิลสักเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่ชอบวางแผน คิดอะไรลึกซึ้ง ทำคอมโบเจ๋ง ๆ ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว เกมนี้จะสร้างความสนุกตื่นเต้นให้กับคุณอย่างมาก เราไปชมกันดีกว่าครับว่า Brown Dust II มีอะไรให้คนรัก Turn-based สายกลยุทธ์หันมาชอบบ้าง

1. เกมเพลย์เน้นให้คุณหยุดคิดมากกว่ารีบทำเวลา

ผมเชื่อว่าผู้เล่นที่เคยเล่นเกม Turn-based มาแล้วมากมายหลายแนว มักจะมีความเห็นตรงกันว่าหลาย ๆ ครั้งมันน่าเบื่อหน่ายและจำเจ เนื่องจากว่าเกม Turn-based เป็นแนวเกมที่ไม่แมส ดังนั้นผู้พัฒนาหลาย ๆ เกมจึงชอบใส่ความง่ายลงไปใน Turn-based ซึ่งหลายครั้งมันทำให้เสียอรรถรสในการเล่น ความซับซ้อนที่ควรจะได้คิดนั้นกลับหายไป แลกมากับการผ่านด่านแบบง่าย ๆ เปิด Auto ให้ผ่านได้ฉลุย จากนั้นคุณก็จะเปิด Auto ทุกด่าน กลายเป็นว่าเสน่ห์ของการวางแผนมันเลือนหายไป แต่สำหรับ Brown Dust II ไม่ใช่แบบนั้น เกมนี้ไม่ใช่ Turn-based แบบผลัดกันตีทีละตัว แต่จะผลัดกันตีทีละทีม คุณต้องหยุดคิด วางแผนตั้งแต่ต้นจนจบก่อนตัดสินใจออกรอบ และตัวละครจะรัน Action ตามที่คุณวางไว้ ถ้าคุณคิดไม่ถี่ถ้วนคุณก็จะพลาด ถ้าคุณลืมคำนวณ Action ของฝ่ายศัตรูคุณก็จะแพ้ Brown Dust II จะบังคับให้คุณเป็นคนละเอียดรอบคอบตลอดเวลา ยกเว้นตอนฟาร์มกับมอนสเตอร์ที่ไม่เก่ง อันนี้สามารถเปิด Auto ได้ แต่ถ้าคุณกำลังผ่านด่านเนื้อเรื่องหรือเจอบอส คุณควรตั้งใจคิดครับ ทั้งเพื่อการผ่านด่านของคุณและความสนุกของเกม Turn-based กลยุทธ์ด้วย

2. สามารถจัดวางลำดับ Action ของฝ่ายเราได้ตามใจนึก

การเล่นเกม Turn-based สายกลยุทธ์นั้นเพื่อน ๆ มักจะเจอระบบของเกมเพลย์ที่คล้าย ๆ กันหมด ก็คือการที่ Action Turn ของตัวละคร มักจะถูกกำหนดโดยค่า SPEED หรือความเร็วของตัวละคร (รวมถึงศัตรูด้วย) มันเลยทำให้การเล่นเกม Turn-based แบบนั้นถูกฟิกซ์ว่าตัวละครที่เร็วคือตัวละครที่เก่ง และทำให้อิสระในการออกแบบการเล่นนั้นแคบลงไป แต่สำหรับ Brown Dust II คุณสามารถลืมเรื่องความเร็วตัวละครไปได้เลย เพราะคุณสามารถจัดลำดับตัวละครให้ตัวไหนออกก่อนออกหลังก็ได้ทั้งนั้น เพื่อที่คุณจะได้ปูทางสู่คอมโบสกิลที่หลากหลาย ถึงแม้ว่าจะใช้ตัวละครที่คุณจัดมาเพียงแค่ 5 ตัวนี้ก็ตาม การจัดลำดับการออก Action ได้ดั่งใจนั้นทำให้เกิดอิสระทางความคิดมากขึ้นพอสมควร และคุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่า “ถ้าตัวละคร B โจมตีก่อนตัวละคร A ได้นะ มันจะเจ๋งมาก” เพราะคุณสามารถจับ B ไปตีก่อน A ได้แบบชิล ๆ แถมเทิร์นถัดไปคุณจะหยิบ A กลับมาตีก่อน หรือจะหยิบ C มาออกคนแรกก็ยังได้ อยู่ที่คุณดีไซน์ครับ

 3. เปลี่ยนตำแหน่งการวางตัวละครได้ทุกเทิร์น

ในเกมเพลย์ส่วนของ Battle ของเกม Brown Dust II นั้น ตัวละครฝั่งเราและฝั่งศัตรูจะถูกจับมาวางลงในตำแหน่งพื้นที่รูปตารางสี่เหลี่ยมแบบ 3×4 ช่อง หรือรวมทั้งหมด 12 ช่องนั่นเอง การโจมตีของเราและศัตรูจะถูกกำหนดพื้นฐานให้โจมตีตัวละครที่อยู่ในเลนเดียวกันที่อยู่หน้าสุดเสมอ แต่เกมนี้ผู้เล่นจะใส่ตัวละครลงทีมสูงสุดได้ 5 ตัวละคร นั่นหมายความว่าคุณจะเหลือช่องว่างให้เลือกเล่นได้อีก 7 ช่องฟรี และทุกเทิร์นก่อนออก Action นอกจากคุณจะสามารถจัดลำดับไดจากข้อที่ 2 แล้ว คุณยังสามารถจับตัวละครของคุณเปลี่ยนที่ไปตำแหน่งไหนก็ได้ภายใน 12 ช่องนี้ ทำให้คุณคิดหลบการโจมตีของศัตรูที่จะเข้ามาโจมตีคุณได้ หรือสามารถคิดแผนเอาตัวหนามารับดาเมจแทนตัวที่บางได้ หรืออาจจะสลับตำแหน่งเพื่อโจมตีศัตรูที่หมายตาไว้ก็ได้เช่นกัน ทำให้การคิดแผนในช่องเล็ก ๆ 12 ช่องนี้ มีความเป็นไปได้เยอะมากและเล่นได้ลึกมากครับ

4. สนุกกับการคิด Combo และการเล่นกับพื้นที่

อย่างที่กล่าวไปในข้อ 2 และข้อ 3 ว่าเกมนี้คุณสามารถกำหนดลำดับการออก Action ของตัวละคร และสับเปลี่ยนตำแหน่งการยืนได้ทุกเทิร์นที่เล่น ทำให้การต่อสู้ของคุณมีความเป็นไปได้กว้างมาก และคุณสามารถสนุกกับการคิดคอมโบที่อาจเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ได้ เพราะเกมนี้คุณสามารถบังคับเปลี่ยนตำแหน่งของศัตรูได้ด้วยสกิลบางชนิด เช่น Knockback ให้ศัตรูถอยหลัง 1 ช่อง ในขณะเดียวกันยังมีสกิลที่โจมตีเป็นพื้นที่แปลก ๆ เช่น โจมตีหน้ากระดาน 3 ช่อง หรือโจมตีทะลุแถวหลัง หรืออาจจะเล่นกับพื้นที่ของศัตรูด้วย เพราะบางด่านหรือการสู้กับบอสบางตัว ฝ่ายศัตรูจะมี Unit พิเศษเข้ามาช่วยสนับสนุนการเล่นของเราด้วย เช่น ระเบิด ถ้าเราสามารถโจมตีระเบิดให้ตายได้ ระเบิดจะบึ้มและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างกับพื้นที่ของศัตรู ทำให้เราสามารถคิดกลยุทธ์ได้ว่าจะดันศัตรูให้ถอยหลังไปชนกับระเบิด แล้วจุดชนวนให้โดนเยอะ ๆ ก็ได้นั่นเอง

5. ศัตรูถูกออกแบบมาให้มีมิติ ต้องคิดนิดนึงถึงจะผ่าน

แม้ว่าเกมเพลย์หลักของเกมนี้จะมีข้อได้เปรียบอยู่อย่างหนึ่งคือฝ่ายเรามักจะเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อนเสมอ ถ้าคุณสามารถคิดคอมโบได้ดีก็อาจจะสามารถปิดเกมได้ด้วยการออก Action แค่ 1 เทิร์นเท่านั้น แต่อยากจะบอกว่าเกมนี้ค่อนข้างออกแบบศัตรูมาแฟร์พอสมควร กล่าวคือต่อให้คุณจะมีสิทธิ์ได้โจมตีก่อน แต่ถ้าคุณโจมตีพวกมันไม่ตายก็โดนสวนกลับได้เหมือนกัน ในขณะที่ศัตรูประเภทบอสจะมีเลือดที่สูงผิดปกติจนตอนที่คุณเห็นครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่า แล้วเราจะไปชนะได้ยังไง แต่มันชนะได้ครับ เพียงแค่ว่าต้องคิดและวางแผนนิดหน่อยเท่านั้นเอง บอสทุกตัวจะไม่สามารถเอาชนะได้แบบตรง ๆ เพราะค่าสเตตัสมันจะต่างกับคุณประมาณนึง แต่ถ้าคุณลองมองพื้นที่และ Unit เสริมอื่น ๆ แล้วคิดคอมโบในการต่อสู้สักหน่อย คุณจะเก็ตเลยว่าสามารถเอาชนะได้ด้วยวิธีแบบไหนบ้าง มันเป็นการต่อสู้ที่เอาชนะได้แต่จะตึง ๆ กำลังดีครับ

6. Unit แต่ละตัวมีหน้าที่ของมัน แต่คุณออกแบบกลยุทธ์ได้อิสระ

ตัวละครแต่ละตัวภายในเกมนี้จะมีหน้าที่ของมันชัดเจน บางตัวฮีลได้ บางตัวโจมตีแถวหน้า บางตัวโจมตีเป็น AOE ลึกไปจนถึงแถวหลัง บางตัวทำหน้าที่ Knockback ศัตรู แต่ละตัวจะถูกออกแบบมาให้ร่วมมือกันต่อสู้ถึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด สลับกันออกเทิร์นบ้าง รับดาเมจแทนกันบ้าง ถ้าคุณมองเห็นหน้าที่ที่ชัดเจนของตัวละครแต่ละตัวในทีมก็จะทำให้คุณออกแบบกลุยทธ์ในการเล่นได้อย่างอิสระ เช่น บางตัวอาจจะใช้งานยากหน่อยเพราะรัศมีการโจมตีมันเป็นแนวเฉียงไปด้านหลัง แต่บางครั้งการโจมตีแนวเฉียงก็ทำให้ทะลุไปโดนตัวแผงหลังที่สำคัญของศัตรูได้เหมือนกัน อยู่ที่ว่าตำแหน่งการยืนของศัตรูมันเอื้ออำนวยต่อการใช้สกิลนั้นไหม ถ้าไม่เราควรจะเอาตัวละครตัวไหนมาช่วยจัดพื้นที่ดี เกมจะไม่มีกลยุทธ์ตายตัวว่าทำแบบไหนถึงจะชนะ เพราะเกมนี้ออกแบบกลุยทธ์ได้กว้างมากครับ

และนี่ก็คือ “6 เหตุผลที่คนรักเกม Turn-based จะต้องชอบ Brown Dust II” โดยส่วนตัวแล้วผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเกมแนว Turn-based กลยุทธ์มาก ๆ และรู้สึกว่าเกมนี้ทำความลึกซึ้งของการวางแผนเกมเพลย์ออกมาได้ค่อนข้างดี เพื่อน ๆ ลองโหลดมาเล่นกันดูนะครับ

ดาวน์โหลดเกม