6 เหตุผลทางจิตวิทยาทำไมเราถึงชอบเล่นเกมแนวเดียวซ้ำ ๆ
ใจบอกอยากเล่นเกมใหม่ แต่สุดท้ายก็เลือกแนวเดิมหรือเข้าเกมเดิม เพราะอะไรนะ
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกท่าน เพื่อน ๆ เคยเป็นกันบ้างไหมครับเวลาที่เราเล่นเกมใดเกมหนึ่งเบื่อ ๆ เนี่ย เราก็มักจะมีความรู้สึกว่า “ฉันอยากเล่นเกมใหม่” ซึ่งมันต้องเป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม เพื่อมาเติมเต็มความต้องการของเรา แต่พอเวลาเลือกเกมจริง ๆ แล้วต่อให้เป็นชื่อเกมใหม่แต่สุดท้ายก็ยังเป็นแนวเกมแนวเดิมที่เราเคยเล่น ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น เกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่ เรามาดูเหตุผลกันครับว่าทำไมเราถึงเลือกเล่นเกมแนวเก่าซ้ำ ๆ
Table of Contents
1. ความคุ้นเคยทำให้รู้สึกสบายใจ
ธรรมชาติของมนุษย์ต้องการความสบายใจในการกระทำสิ่งต่าง ๆ เหมือนกับการที่เราทำงานเสร็จก็ต้องกลับบ้าน หรือวันหยุดเคยมีงานอดิเรกอะไรก็ทำสิ่งนั้นต่อมาเรื่อย ๆ การเล่นเกมแนวเดิมก็เช่นเดียวกัน มันเปรียบเสมือนเซฟโซนทางจิตใจที่หากเรามาเล่นเกมแนวที่เรารู้สึกคุ้นเคยจะทำให้เราเหมือนได้กลับบ้าน เพราะแนวเกมที่เล่นนี้จะมีรูปแบบการเล่นคล้าย ๆ เดิม เรารู้จักอยู่แล้ว ปุ่มบังคับก็คล้าย ๆ กัน เกมเพลย์ พื้นฐานการเล่น แนวคิดในการเล่น ต่างก็เป็นอะไรที่เราเข้าใจมันอยู่แล้ว แทบจะไม่ต้องทำความเข้าใจใหม่เลย ความคุ้นเคยจะทำให้เรารู้สึกสบายใจและกลับมาหามันอยู่บ่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว แถมยังใช้พลังงานในการเล่นน้อย ทำให้เราเล่นได้นาน ไม่รู้สึกเหนื่อยล้ากับมันเท่าไหร่นัก
2. รู้สึกว่าได้เก่งขึ้นทุกครั้งที่เล่น
มนุษย์ทุกคนต้องการที่จะเป็นคนเก่ง เป็นที่พึ่งของใครสักคน มีความสำคัญต่อทีมหรือกิจกรรมที่ทำอยู่ และคนเราชอบการพัฒนาครับ ถ้าเราเล่นเกมแนวอื่นทุกครั้งที่เปลี่ยนเกม เราก็จะได้เล่นแต่เกมที่เราไม่เก่งอยู่ตลอดเวลา กลับกัน ถ้าเราเล่นเกมแนวเดิมซ้ำ ๆ ประสบการณ์จะสะสมทำให้เราพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เรากลายเป็นผู้เล่นเกมแนวนั้นได้อย่างชำนาญ พอเล่นชนะก็จะมีความสุข พอมีความสำคัญต่อผู้อื่นเราก็จะรู้สึกภูมิใจ ไม่มีมนุษย์คนไหนอยากรู้สึกไร้ค่า และการพัฒนาฝีมือการเล่นภายในเกมก็ช่วยกลบปัญหาตรงนั้นได้นั่นเองครับ
3. แนวเกมที่เล่นสะท้อนลักษณะนิสัย
เกมคือกระจกสะท้อนบุคลิก หากพูดแบบนั้นก็คงจะไม่ผิด เพราะแนวเกมที่เพื่อน ๆ เลือกเล่นมักจะเป็นเกมที่สะท้อนบุคลิกของผู้เล่นด้วยเช่นกัน เช่น คนที่ชอบอาวุธประเภทปืนก็มักจะเล่นเกมแนว FPS, คนที่ชอบคิดชอบวางแผนก็มักจะเล่นเกมแนว Strategy, หรือคนที่ชอบเรื่องลี้ลับก็จะชอบเล่นเกมผี เป็นต้น จะเห็นได้ว่าการเลือกแนวเกมก็จะสะท้อนบุคลิกของผู้เล่นไปในตัวด้วย สะท้อนทั้งความคิด งานอดิเรก รสนิยม ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรู้จักคน ๆ หนึ่งได้ทั้งหมดผ่านแนวเกมเพียงอย่างเดียว แต่มันก็ทำให้รู้จักคน ๆ นั้นได้ประมาณนึงเลยครับ
4. ประหยัดเวลาในการเรียนรู้
มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ให้ความสำคัญเรื่องเวลา เพราะชีวิตของเรามีระบบระเบียบที่ต้องทำตาม มีการดำเนินชีวิตที่ถูกฟิกซ์โดยเวลาอยู่ตลอด ดังนั้นตอนที่เราใช้เวลาในการเรียนรู้นานเกินไป เราจะรู้สึกว่าเปลืองเวลาครับ สังเกตได้เลยว่าผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะรู้สึกหงุดหงิดกับระบบฝึกสอนหรือ Tutorial บางคนชอบเวลาที่ SKIP ได้ หรือเกมแนวเนื้อเรื่องที่ต้องปูบทในช่วย Intro นานมาก ๆ เราก็จะรู้สึกอึดอัดว่า “นานจัง เมื่อไหร่จะได้เล่น” นี่คือความรู้สึกที่มักจะเกิดขึ้นกับการเรียนรู้เกมแนวใหม่ แต่กลับกันถ้าเป็นแนวเกมเซฟโซนของเราอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้มากนักก็เล่นได้ทันที นอกจากจะเป็นการประหยัดเวลาแล้ว เรายังรู้สึกว่าตัวเองเก่งอีกด้วย
5. อัลกอริธึมและสื่อพาให้เราติดแนวเดิม
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม และถ้าสังคมกำลังนิยมสิ่งใด เราจะรู้สึกว่าเราเองก็ต้องมีส่วนร่วมกับสิ่ง ๆ นั้นด้วยเช่นกัน เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุ และยิ่งสมัยนี้โซเชียลมีเดียยังมีระบบอัลกอริธึมที่จะดึงดูดคนที่มีความชอบเหมือน ๆ กันมาโคจรรอบกันโดยที่คุณไม่ทันสังเกต เมื่อเราเห็นว่าคนรอบตัวก็เล่นเกมนี้เหมือนกันกับเรา เราก็จะรู้สึกอยากเล่นต่อ และการเล่นของเราก็จะดึงดูดคนที่ชอบเหมือนกันกับเราเข้ามาหากันอีกทีหนึ่ง มันเลยกลายเป็นผู้คนที่ชื่นชอบสิ่งเดียวกันนั้นดึงดูดซึ่งกันและกันผ่านระบบอัลกอริธึมของโซเชียลมีเดียนั่นเอง
6. เพราะ ‘แนวเกม’ คือโลกที่เราหนีไปซ้ำ ๆ
ชีวิตของแต่ละคนมักจะมีปัญหาไม่เหมือนกัน แต่แนวเกมที่เราเล่นก็เปรียบเสมือนโลกอีกใบที่เราหนีไปหลบในนั้นซ้ำ ๆ เวลาที่เรารู้สึกด้อยค่าตัวเองในโลกจริง เราสามารถกลายเป็นวีรบุรุษได้ในโลกของเกม หรือนอกจอเกมเราอาจจะรู้สึกว่าไม่มีใครต้องการเรา แต่ภายในเกมเรากลับเป็นบุคคลที่พวกเขาขาดไปไม่ได้ เกมมีบทบาททางใจหลายอย่างที่แต่ละคนได้รับไม่เหมือนกัน เช่น ความท้าทาย ความอบอุ่น ความบังเทิง ความสำคัญหรือการมีพลังพิเศษ เกมมอบสิ่งที่เราไม่มีในชีวิตจริงให้กับเราอยู่เสมอ และถ้าเป็นอย่างนั้นแนวเกมที่เราเล่นประจำก็กลายเป็นโลกอีกใบของเราไปซะแล้ว
และนี่คือ “6 เหตุผลทางจิตวิทยาว่าทำไมเราถึงชอบเล่นเกมแนวเดียวซ้ำ ๆ” เป็นยังไงบ้างครับ ตรงกับสิ่งที่เพื่อน ๆ คิดหรือกำลังเป็นกันอยู่บ้างไหมครับ ผมเองก็เป็นเหมือนกันครับ ปากบอกอยากลองเล่นเกมแนวใหม่ แต่พอเวลาจะซื้อเกมเล่นทั้งทีก็ดันเลือกซื้อแต่แนวเดิมโดยไม่รู้ตัว เพราะพอเป็นเกมแนวเดิมเราจึงให้ค่ามันสูงกว่าเกมที่เราไม่ได้เล่นครับ แล้วเพื่อน ๆ ชอบเกมแนวอะไรกันบ้าง คอมเมนต์บอกกันให้รู้หน่อยนะครับ 🙂
