สกู๊ปพิเศษ

6 สิ่งที่แฟนเกม Turn-based ประทับใจใน Clair Obscur: Expedition 33

แฟน ๆ Turn-based ตื่นตาตื่นใจ เกมยุคใหม่ต้องได้อย่างนี้

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกคนทุกท่าน โดยเฉพาะเกมเมอร์สาย Turn-based RPG ที่กำลังรอเกมแบบ Clair Obscur: Expedition 33 มานานแสนนาน ซึ่งต้องบอกว่าวงการเกม Turn-based นั้นจากยุครุ่งโรจน์ที่เคยแมสสุด ๆ ในแถวยุค 90 จาก Dragon Quest หรือ Final Fantasy ทุกวันนี้กลายเป็นเพียงแนวเกมหนึ่งที่เฉพาะกลุ่ม และมีเกมดี ๆ อยู่ไม่กี่เกม เนื่องจากมันทำง่ายและถูกใช้เป็นแนวเกมที่สื่อสารด้านอื่นมากกว่าระบบเกม จนทำให้มีเกม Turn-based ที่ว้าวออกมาน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็น 2D จาก RPG Maker เพราะถ้าทำ 3D จริงจังก็คงไม่คุ้มทุนเหมือนกัน

และวันนี้เรามีเกมใหม่ปรากฎตัวแล้ว นั่นคือ Clair Obscur: Expedition 33 จากสตูดิโอเกมสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Sandfall Interactive ที่ปล่อยเกมนี้มาพลิกวงการเกม Turn-based อีกครั้งครับ กับความยิ่งใหญ่อลังการที่แฟนเกม Turn-based จะต้องรู้สึกว้าวและเพิ่มโอกาสให้ฐานแฟนเกมอื่น ๆ มาเล่นเกมนี้อีกด้วย มีอะไรที่น่าประทับใจบ้าง ไปชมกันครับ

6 สิ่งที่แฟนเกม Turn-based ประทับใจใน Clair Obscur: Expedition 33

1. ฉากต่อสู้สุดมันส์แม้จะเป็น Turn-based

01 15


หากเราย้อนกลับไปถึงจุดกำเนิดของเกมแนว Turn-based หรือบ้านเราจะเรียกว่าเกมภาษาในยุค 90 นั้น เหตุผลที่เขาต้องทำเกมมาเป็นแนวนี้เพราะคอนเทนต์และเนื้อเรื่องภายในเกมมันเยอะเกินที่ความจุแผ่นเกมในยุคนั้นจะสามารถยัดลงมาได้หมด ดังนั้นการลดเกมเพลย์ลงเหลือแค่คำสั่งโจมตีง่าย ๆ มันจะได้ไม่เปลืองทรัพยากร แต่พอผ่านมายุค 2000 ยุค 2010 ยุค 2020 กลายเป็นว่าระบบเกมเพลย์อย่าง Turn-based ที่มีแต่การสั่งตีเพียงอย่างเดียวมันไม่สนุกอีกต่อไปแล้ว แต่ Clair Obscur: Expedition 33 นั้นทำฉากต่อสู้ภายในเกมแนว Turn-based ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม มันสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ เพราะการสั่งโจมตีตัวละครจะออกไปทำคอมโบต่อหน้าเราและมีการเปลี่ยนมุมกล้องตามคำสั่งที่เราใช้ วิธีการเล่นแบบนี้ทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนกำลังเล่นเกม Action เกมหนึ่งอยู่ เพียงแค่เปลี่ยนจากการบังคับตัวละครให้เดิน เป็นกดคำสั่ง Command เท่านั้นครับ

2. มี Quick Time Event มาให้กดตอนสั่งโจมตี

02 15


เกม Turn-based ทั่วไปมักจะทำคำสั่งง่าย ๆ เช่น ถ้าสั่งโจมตีตัวละครก็จะออกไปโจมตี หรือใช้สกิล หรือใช้ไอเทม ซึ่งมันจะทำแค่นั้นแล้วก็จบ ซึ่งเป็น Pain Point ใหญ่ของเกมแนว Turn-based ที่บ่งบอกว่าจุดนี้มันไม่มันส์เท่าเกม Action ทั้ง ๆ ที่ย้อนกลับมาช่วงยุค 1999 เรามีเกมยุค PS1 อย่าง The Legend of Dragoon ที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่า Turn-based ก็มันส์ได้ด้วย Quick Time Event และในเกม Clair Obscur: Expedition 33 ความสมันส์แบบนั้นก็กลับมาอีกครั้ง โดยคำสั่งโจมที่เราสั่งออกไป ตัวละครในเกมจะไม่ใช่แค่การวิ่งเข้าไปโจมตีเฉย ๆ มันจะมีปุ่มปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอให้คุณกดให้ทันเพื่อสร้างคอมโบและดาเมจให้สูงที่สุด ทำให้การเล่นของเรามันส์ขึ้นไปอีกระดับและไม่น่าเบื่อครับ

3. ต่อให้เป็น Turn-based ก็ Parry และ Counter ได้

03 16


Pain Point อีกจุดหนึ่งของเกมแนว Turn-based เลยก็คือ เวลาที่ศัตรูโจมตีมาหาเรานั้นเราจะต้องรับการโจมตีกันไปแบบทำอะไรไม่ได้ อย่างมากก็มีการคำนวณสเตตัสว่าความเร็วของเรามีมากกว่าค่าความแม่นยำศัตรูหรือไม่ ถ้าเร็วมากกว่าก็อาจจะมีโอกาสหลบการโจมตีนั้นได้ แต่ในแง่ของเกมเพลย์ผู้เล่นอย่างเราก็กดอะไรไม่ได้อยู่ดี ซึ่ง Clair Obscur: Expedition 33 นั้นสามารถกด Parry และ Counter ได้ครับ แม้ว่าในวิดีโอ Trailer นั้นจะยังไม่รู้แน่ชัดว่าทำยังไงหรือทำได้ทุกตัวละครหรือเปล่า แต่เราจะเห็นว่ามอนสเตอร์เข้ามาโจมตีแล้วตัวละครตั้งการ์ดขึ้นมาให้ตรงจังหวะ จากนั้นตัวละครของเราก็ปัดการโจมตีได้และโจมตีสวนศัตรู ถ้าทำได้เป็นปกตินี่บอกเลยว่ามันส์แน่ครับเกมนี้ เพราะผู้เล่นจะปล่อยเบลอไม่ได้ ต้องตั้งสติตลอดเวลาครับ

4. ปัดป้องการโจมตีด้วย Gradient / Parry / Dodge / Jump

04 15


นอกจากการโจมตีที่ต้องกด Quick Time Event แล้ว การป้องกันของเกมนี้ยังสามารถทำได้ 4 วิธี จากการดูวิดีโอ Trailer จะเห็นว่า มุมซ้ายล่างของจอในฉากต่อสู้ จะมีเมนูขึ้นมาให้กด 4 ปุ่ม คือ Gradient เป็นการ Counter Attack ใส่ศัตรู, Parry คือการป้องกันการโจมตี, Dodge คือการหลบการโจมตี และ Jump คือการกระโดดหลบการโจมตี เท่าที่ดูก็น่าจะพอเดาได้ว่า ที่ตัวเกมให้ระบบป้องกันมาถึง 4 แบบนั้นแสดงว่ามอนสเตอร์แต่ละตัวต้องมีเอกลักษณ์เด่นอะไรสักอย่างที่จำเป็นต้องใช้วิธีป้องกันอย่างใดอย่างหนึ่ง เปรียบเสมือนระบบเป่ายิ้งฉุบที่เราต้องเดาและเรียนรู้ศัตรูไปด้วย ก็สมกับเป็นเกม Turn-based ดีครับ แต่มีทางเลือกเยอะแบบนี้ก็น่าจะมันส์ขึ้นแน่นอน

5. กราฟิกอลังการงานสร้างระดับ AAA

05 15


ในด้านของกราฟิกนั้นถือว่าเป็นเกมเจนใหม่ที่จะถูกวางจำหน่ายในปี 2025 พัฒนาโดยใช้ Unreal Engine 5 ซึ่งจะลงบนเครื่องเจนใหม่อย่าง PS5, Xbox Series X/S และ PC จัดได้ว่าเป็นเกมระดับ AAA ที่กราฟิกค่อนข้างสมจริง มาในแนวฝรั่งตะวันตกหน่อย ถ้าใครชอบสายญี่ปุ่นหรือเอเชียจ๋า ๆ ก็อาจจะไม่ถูกใจนัก บรรยากาศและซาวด์ประกอบคือจัดเต็มและถูกใจสาย Fantasy สุด ๆ ในด้าน Concept Art นั้นผู้พัฒนาได้รับแรงบันดาลใจมากจากศิลปะฝรั่งเศสยุคสวยงาม (Belle Époque) ที่ตัวเกมจะมีความอาร์ต เป็นแฟนตาซียุคกลาง มีธรรมชาติ มีเวทมนตร์ ถือว่าเป็นการผสมผสานได้อย่างลงตัวครับ

6. เนื้อเรื่องเข้ม ๆ บีบหัวใจตั้งแต่ Trailer

06 13


ในด้านเนื้อเรื่องนั้นก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของเกมแนว Turn-based เพราะมันคือแนวเกมภาษาที่มีจุดเด่นด้านเนื้อเรื่องมาตั้งแต่รากเหง้า ถ้าเกม Turn-based เนื้อเรื่องไม่แข็งแรงก็มีโอกาสสูงมากที่เกมจะดับ และเกม Clair Obscur: Expedition 33 ก็รู้ตรงจุดนั้นดีครับ เนื้อเรื่องของเกมจะกล่าวถึงโลกที่ออกแบบมาจากประเทศฝรั่งเศสยุคเก่าที่มีสาวปริศนาที่เรียกว่า Paintress ไม่รู้ว่าเธอคือใครและมีจุดประสงค์เพื่ออะไร แต่ทุกครั้งที่เธอวาดตัวเลขลงบนแผ่นหิน ทุกคนบนโลกที่มีอายุเท่าตัวเลขนั้นจะแตกสลายกลายเป็นธุลี ทำให้ผู้คนสูญเสียเพื่อนฝูง คนรักและครอบครัวเป็นจำนวนมาก และตัวเลขที่เธอวาดนั้นลดลงทุกปี โดยปีนี้ก็เป็นปีที่ตัวเลขอยู่ที่ 33 ซึ่งตรงกับอายุของ Gustave ตัวเอกที่เราจะต้องเล่น เราจึงต้องร่วมมือกับทีม Expeditioners คนอื่น ๆ เพื่อออกเดินทางไปยังโลกสุดลึกลับ เพื่อหยุดการเขียนตัวเลขของ Paintress ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

เป็นยังไงบ้างครับกับตัวอย่างเกม Clair Obscur: Expedition 33 มีอะไรที่ประทับใจตรงไหนก็สามารถคอมเมนต์กันได้เลยนะครับ โดยส่วนตัวผมที่เป็นแฟนเกมแนว Turn-based ต้องบอกว่าประทับใจสุด ๆ ครับ เพราะผมค่อนข้างเบื่อกับ Turn-based แบบเดิม ๆ ที่สั่งตีเพียงอย่างเดียว หรือต้องรอเกม 2D ระบบเจ๋ง ๆ สักเกม ใจก็อยากเล่น Turn-based ที่เป็น 3D อลัง ๆ ระดับ AAA บ้าง เกมนี้ต้องถูกใจแฟนเกมหลายท่านแน่นอนครับ

ที่มา
Xbox

Jou Thunder

เร็ว แรง ติดคริ คือคติของผม โปรดติดตามช่อง youtube.com/@JouThunder
Back to top button