5 เหตุผลที่ทำให้ Resident Evil 9 อาจเป็นภาคสุดท้ายที่ใช้เลขภาค

หลายคนอาจจะได้ยินเกี่ยวกับข่าวลือของ Resident Evil 9 ภาคหลักภาคถัดไปที่ Capcom กำลังจะทำให้กับเกมซีรีส์ผีชีวะนี้ หลังจากที่ได้เว้นวรรคหันไปทำภาค 4 Remake ไปช่วงเวลาหนึ่ง ตอนนี้ข่าวลือก็ค่อย ๆ ทยอยออกมาให้ได้ยินเรื่อย ๆ แต่หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจก็คือข่าวลือที่ว่า RE9 อาจเป็นภาคสุดท้ายที่ใช้ตัวเลขเป็นชื่อภาค ซึ่งในอนาคตอาจถูกเปลี่ยนเป็นการตั้งชื่อภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะไปเลย ถามว่ามีความเป็นไปได้สูงแค่ไหน บอกเลยว่ามันค่อนข้างที่จะเมคเซนต์ครับ เรามาลองวิเคราะห์กันเล่น ๆ ดูว่า ทำไม Capcom ถึงอาจจะตัดสินใจแบบนั้น

1. ตัวละครหลักเริ่มแก่ลงไปทุกที

เป็นเรื่องที่น่าเศร้า เมื่อจุดเด่นของเกมกลายมาเป็นดาบสองคมที่เฉือนเนื้อตัวเองลึกลงไปเรื่อย ๆ เพราะเกมนี้ใช้ระบบเวลาแบบ Realtime ตรงกับชีวิตจริง ยิ่งเวลาในโลกจริงผ่านพ้นไปเท่าไหร่ ตัวละครในเกมก็จะยิ่งแก่ลงไปเท่านั้น ข้อดีก็คือใครที่รู้จัก Resident Evil ตั้งแต่ภาคแรก ๆ ก็คงจะรู้สึกผูกพัน และเติบโตไปพร้อม ๆ กับตัวละครเกมในภาคต่อ ๆ ไป แต่ในทางกลับกัน เกมแนว Suvival Horror ที่เนื้อเรื่องในเกมเน้นความเป็น Action ค่อนข้างมาก การที่ตัวละครแก่ตัวลงจนอายุจะ 50 หรือ 60 ปีในบางตัวละคร สังขารเริ่มที่จะถือปืนยิงซอมบี้ วิ่งหนีระเบิดแทบไม่ไหว ถ้าไม่รีบหาทางลงให้กับตัวละครสุดเก๋าเหล่านี้แล้วทิ้งไปเฉย ๆ คงไม่ดีแน่ ภาค 9 จึงอาจจะเป็นภาคที่ปลดประจำการเหล่าตัวละครหลัก และยกเลิกระบบความแก่ของตัวละครนี้ไปโฟกัสอย่างอื่นแทนครับ เวลาเกิดภาคใหม่ ๆ จะได้ไม่ต้องห่วงว่าตัวนี้จะแก่ตายหรือยัง

2. ความเก่งกาจของตัวละคร ทำให้เกม Horror น้อยลง

แน่นอนว่าตัวละครเหล่าในปัจจุบันกลายเป็น Super Hero กันหมดแล้ว ทั้งประสบการณ์ ความสามารถ ทักษะ ไหวพริบ รวมไปถึงบางคนยังได้รับพลังจากไวรัสเสริมเข้าไปอีกด้วย ถ้าคุณยังให้ Chris, Leon, Jill, Ada บุกเข้าไปในเมืองที่มีแต่ซอมบี้หรือสัตว์ประหลาด ก็เห็นกันอยู่ว่าผลลัพธ์มันเป็นยังไง ตัวละครเหล่านี้มันเก่งจนไม่มีไวรัสไหนบนโลกสู้ได้แล้วมั้ง ในขณะที่ตัวละครใหม่อย่าง Ethan ในภาค 7 ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย บุกเข้าไปในบ้าน Baker มันดูสมกับความเป็น Suvival Horror มากขึ้นทีเดียว และคนไม่มีประสบการณ์ก็มักจะเป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างเนื้อเรื่องให้ดูหลอน ดูอันตราย แต่กลับกันถ้าคนที่บุกเข้าไปบ้านนั้นในช่วงต้นของเกมเป็น Chris หรือ Leon ความกดดันและความไม่รู้ที่บ้าน Baker สร้างให้ จะไม่หนักหนาแบบนี้แน่ ถ้า Capcom เล็งเห็นว่า Resident Evil ต้องกลับสู่ความเป็น Suvival Horror ให้ได้ การใช้ตัวละครเก่าในภาคใหม่อาจเป็นอะไรที่ไปไม่สุดครับ

3. Capcom พิสูจน์แล้วว่าตัวละครใหม่ก็ขายได้

จริง ๆ แล้ว Capcom เล็งเห็นปัญหานี้มาสักพักใหญ่แล้ว และพวกเขาก็ได้ทำการลองตลาดด้วยการปล่อย RE7 ที่เปลี่ยนทั้งแนวเกม และเปลี่ยนทั้งการเล่าเรื่อง ทำให้ RE7 กลายมาเป็น Suvival Horror อย่างที่มันควรจะเป็นอีกครั้ง หลังจากบู๊แหลกตั้งแต่ภาค 4 5 6 ถึงแม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างมากจากแฟนเกมที่อยากเห็นตัวละครเก่าแต่ต้องผิดหวังเพราะเจอกับ Ethan แทน มันมีคนที่ชอบและไม่ชอบไปในเวลาเดียวกัน แต่คนที่ไม่ชอบนั้นพวกเขาแค่คิดถึงตัวละครที่เขาคาดหวังว่าจะได้พบ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบแนวเกม จากยอดขายของภาค 7 ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับภาค All Stars อย่าง RE6 แต่จะแพ้ก็ไม่แปลก เพราะภาคนั้นมันมีตัวท็อปอยู่มากมาย แต่ถ้า Capcom สามารถปั้นตัวละครใหม่ให้น่าสนใจแต่แนวเกมก็ยังมีคนชอบอยู่ ก็อาจจะทำให้ซีรีส์นี้ไปต่อได้ไกลขึ้นนั่นเอง

4. ลดความคาดหวังและความกดดันจากคำว่า “ภาคหลัก”

คำว่า “ภาคหลัก” เป็นอะไรที่ค่อนข้างกดดันสำหรับผู้พัฒนาอย่าง Capcom เวลาที่เราพูดถึง Resident Evil เมื่อมีตัวเลขกำกับท้ายชื่อ ผู้เล่นอย่างเราก็จะคาดหวังไว้เต็ม ๆ ว่าทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้น จะต้องเห็น Chris เห็น Leon เห็น Ada Wong และการต่อสู้กับอาวุธชีวภาพชนิดใหม่ ๆ ที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แมคคานิคใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสุดท้ายไอเดียมันก็จะตัน เพราะนอกจากตัวละครเก่าจะแก่ลงแล้ว ไวรัสยังทำได้แค่เปลี่ยนชื่อเป็น A B C แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคล้าย ๆ เดิม หากตัดตัวเลขภาคออกไปก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมากดดันตรงส่วนนี้มากนัก ไม่ต้องหาเรื่องให้ Ada Wong โผล่มาให้ได้ เพราะเดี๋ยวจะไม่ถูกใจแฟนเกม ถ้าเป็นชื่อภาคใหม่ ตัวละครใหม่ เนื้อเรื่องใหม่ แต่ยังหลอนได้เหมือนเดิม มันก็น่าจะโอเคกว่าในการลดความคาดหวัง และถ้า Capcom สามารถทำออกมาได้ดีอย่าง Outbreak จริง ๆ คนก็ชอบและพอใจกับมันต่อให้จะไม่มี Chris หรือ Leon ครับ

5. มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแนวเกม

แน่นอนว่าเกม Resident Evil กำเนิดจากความเป็น Suvival Horror แต่ถามว่าเกมนี้เปลี่ยนแนวได้ไหม บอกเลยว่าเป็นไปได้ ไม่ว่าจะด้วยค่านิยมในเวลานั้น หรือจะเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีของเครื่องเกม ลองไล่มาตั้งแต่ภาคแรกกัน ไตรภาค 1-3 เราจะเรียกว่าเกม Suvival Horror ในมุมมองแบบกล้องวงจรปิด พอเข้าสู่ภาค 4-6 ตัวเกมเปลี่ยนเป็นแนว Action ที่มีมุมมองบุคคลที่สามผ่านหัวไหล่ตัวละคร เลื่อนขึ้นมาในภาคที่ 7-8 ตัวเกมเปลี่ยนมาเป็น FPS เพื่อให้มีความ Horror มากขึ้น และในภาค 9 ข่าวลือบอกว่าเป็นภาคสุดท้ายที่ใช้ตัวเลข มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็น FPS ตามไตรภาคเดียวกัน แต่ภาคต่อไปจะไม่ใช่ไตรภาคของ FPS แล้ว มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนเป็นแนวอื่นเมื่อครบ 3 ภาคแล้วจะเปลี่ยนแนวเหมือนในอดีต ซึ่งอาจจะเป็น Open World เหมือนเกมเกรด AAA เกมอื่นที่ฮิต ๆ กัน หรืออาจจะเปลี่ยนเป็น Action RPG ก็ได้เช่นกัน อันนี้ก็ได้แค่เพียงคาดเดาเท่านั้นครับ

และนี่ก็คือ “5 เหตุผลที่ทำให้ Resident Evil 9 อาจเป็นภาคสุดท้ายที่ใช้เลขภาค” เป็นยังไงกันบ้างครับ อันนี้เป็นสิ่งที่ผมลองวิเคราะห์ดูจากความเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้าเกิดเพื่อน ๆ มีความคิดเห็นอื่น ๆ ก็สามารถคอมเมนต์บอกเล่าสิ่งที่ตัวเองคิดได้เช่นกัน เพราะสุดท้ายตอนนี้ข้อมูลทุกอย่างก็เป็นแค่เพียงข่าวลือ ยังไม่ได้รับการยืนยันจาก Capcom แต่อย่างใด ไม่แน่ว่าภาคต่อไปอาจจะเป็น 10 11 12 เหมือนเดิมก็ได้ใครจะรู้ 🙂