5 เหตุผลที่แฟน ๆ รุ่นเก่าถึงอยากให้ Final Fantasy กลับไปเป็น Turn-based เสมอ
ไม่ว่าจะออกมากี่ภาค แฟนเกมเก่าก็ยังถามหาแต่ Turn-based

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกท่าน หากพูดถึงเกม Final Fantasy เราก็พอจะนึกออกว่ามันเป็นเกมที่จะต้องมี Chocobo, มีมนต์อสูร, มีเรือเหาะ, มีคริสตัล และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ในด้านของเกมเพลย์กลับพูดได้ไม่เต็มปากว่าตอนนี้ Final Fantasy เป็นเกมแนวอะไรกันแน่ แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะเริ่มจาก Turn-based แต่ปัจจุบันก็มีทั้งเกม Action, Open World, Gacha และอื่น ๆ อีกมาก กลายเป็นว่าอะไรคือจุดยืนของซีรีส์นี้กันแน่ แล้วทำไมแฟน ๆ รุ่นเก๋าถึงอยากจะรีเควสต์ให้เกมนี้กลับมาเป็นแนว Turn-based อีกครั้งเสมอมา เราไปชมกันดีกว่าครับ
1. Final Fantasy เริ่มต้นจาก Turn-based และแฟน ๆ ก็เริ่มต้นแบบนั้น

ถ้าย้อนกลับไปในอดีต Final Fantasy ภาคแรกเริ่มต้นจากการเป็นเกมแนว Turn-based ยาวต่อเนื่องกันมาจนถึงภาค 10 ถึงแม้รายละเอียดด้านเกมเพลย์จะมีพลิกแพลงบ้างตามยุคสมัย แต่มันก็ยังจัดเป็นเกม Turn-based อยู่ดี และแฟนเกมหลายคนก็เริ่มต้นเล่นเกมและรู้จักเกมนี้มาจากภาค 1-10 นี่แหละ แต่พอภาคหลัง ๆ ตัวเกมเริ่มมีการตามยุคตามสมัยมากยิ่งขึ้น มีทั้งแนว Action, แนว Soulslike, แนว Gacha และอื่น ๆ อีกมาก จนทำให้คนที่ชอบ Final Fantasy จากจุดแรกเริ่มนั้นไม่มีโอกาสได้ Nostalgia หรือได้รับความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนสมัยก่อนนั่นเองครับ
2. Turn-based คือแนวเกมที่โฟกัสเนื้อเรื่องมากกว่าเกมเพลย์

แรกเริ่มเดิมที เกมแนว Turn-based นั้นเป็นแนวเกมที่สร้างขึ้นมาเพราะว่าความจุของแผ่นเกมนั้นไม่เพียงพอต่อกราฟิกและเนื้อเรื่องที่อัดแน่นจนล้นแผ่น การเลือกทำแนว Turn-based จึงเหมือนเป็นการประหยัดเนื้อที่ในแผ่นเกม ตัดความจุด้านเกมเพลย์ออกไป และเน้นเล่าเรื่องได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในปัจจุบันเราไม่ได้มีปัญหาด้านนี้แล้วและคนก็หันไปเล่นแนว Action มากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น Final Fantasy ที่เป็นเกมแนว Action กลับไม่สามารถตอบโจทย์ด้านเนื้อเรื่องให้กับผู้เล่นได้ ไม่ว่าจะภาค 15 ที่เน้น Open World จนต้องออก DLC มาขายเพิ่ม หรือว่าภาค 16 ที่เหมือนเนื้อเรื่องจะเยอะนะ แต่ก็เป็นอะไรที่จำเจและซ้ำกับภาคเก่าอยู่หลายส่วน พอเน้นเกมเพลย์มาก ๆ เนื้อเรื่องก็จืดลงตามไปด้วยครับ
3. เกมแนวอื่นของ Final Fantasy ทำออกมาไม่ค่อยเวิร์ค

Final Fantasy นั้น นอกจาก Turn-based แล้วก็ไม่ได้มีแค่เกมแนว Action หรือ Open World อย่างเดียวเท่านั้น ซีรีส์นี้ยังเคยมีแนวเกม Puzzle, เกม Rhythm, เกมแนว Battle Royale, แนว Card Game และอื่น ๆ อีกมาก แต่ไม่ว่าซีรีส์นี้จะไปทำเกมแนวไหนก็ต้องพูดกันตามตรงว่าไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ นอกจากแนว MMORPG ที่เน้นเฉพาะภาค 14 กับเกม Gacha หลายเกมที่เปิดมาแล้วก็ปิดไป ทำให้แฟนเกมรุ่นเก่าที่เริ่มเล่นเกมนี้มาตั้งแต่ยุค Turn-based ต่างก็โหยหาเกมแนวเดิมอยู่เสมอครับ
4. เกมอื่น ๆ ทำให้เห็นว่าเกม Turn-based ดี ๆ มันเป็นยังไง

ผู้บริหารของ Square Enix เคยออกมาพูดเองว่า “เกม Turn-based กำลังจะตาย” และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเกม Final Fantasy ถึงพยายามทำเป็นเกมแนวอื่นที่ไม่ใช่ Turn-based แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังสามารถพบเห็นเกมแนว Turn-based ดี ๆ ที่ออกมาวางจำหน่ายและประสบความสำเร็จไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น Persona 5, Metaphor: ReFantazio หรือ Clair Obscur: Expedition 33 เกมเหล่านี้ล้วนเป็นเกมแนว Turn-based ฟอร์มยักษ์พอ ๆ กับ Final Fantasy แทบทั้งสิ้น แต่พวกเขาสามารถประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายได้ แฟนเกม FF จึงอยากจะบอกว่าเกมพวกนี้ทำได้ FF ก็ต้องทำได้เหมือนกัน
5. Turn-based คือจุดยืนของ Final Fantasy ที่เคยเสียไป

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าเจ็บปวดใจก็คือทีมพัฒนา Final Fantasy มองว่าจุดเด่นของเกมอยู่ที่สิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเกม แต่ไม่ได้โฟกัสด้านระบบเกมเพลย์ที่เป็น Turn-based, เนื้อเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์เด่น หรือบรรยากาศกับความรู้สึกที่ Final Fantasy เคยทำได้ และในปัจจุบันมันแทบไม่เหลืออยู่แล้ว ความรู้สึกที่ได้ออกผจญภัย ความตื่นเต้นที่ได้พบเจอสิ่งใหม่ ๆ ที่จินตนาการของเรายังไม่รู้จัก แฟนเกมรู้เก่ายังเชื่อมั่นว่า FF สามารถสร้างประสบการณ์แบบนั้นได้อยู่ และควรกลับไปเป็นแนว Turn-based ด้วยเพื่อให้การเล่าเรื่องมันสดใหม่มากขึ้น ลดต้นทุนด้านการผลิตเกม Action ลงอีกนิด และเพิ่มงบด้านเนื้อเรื่องเข้าไปอีกหน่อย มันน่าจะเป็นเกมที่ตื่นเต้นน่าดูครับ
มาถึงตรงนี้ แฟนเกมรุ่นเก่าก็น่าจะรู้กันดีครับว่า Final Fantasy เป็นเกมที่น่าจะกลับมาเป็น Turn-based ยาก อย่างเก่งคงรอการ Remake ของภาคเก่า ๆ สักภาคหนึ่ง ก็คงจะพอได้เล่นกันบ้าง แต่ถ้าภาคหลักภาคใหม่เลยนั้นก็คงจะยาก ยังไงก็ต้องลุ้นกันต่อไปครับสำหรับแฟนเกมที่อยากจะได้ Turn-based ในเกมนี้ ผมเองก็เป็นคนนึงที่ตั้งตารอ และหวังว่าวันนั้นจะมาถึง 🙂