แม้ว่าแฟรนไชส์ Pokémon จะเป็นหนึ่งในสื่อบันเทิงที่ทำรายได้สูงสุดในโลก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เกมโปเกมอนได้รับเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับคุณภาพที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นไอเดียที่ดูซ้ำซาก เนื้อเรื่องที่ไม่น่าติดตาม หรือรูปแบบการเล่นที่ไม่น่าประทับใจ ทำให้แฟน ๆ หลายคนเริ่มกังวลเกี่ยวกับอนาคตของซีรีส์ที่พวกเขารัก
เพื่อรักษาชื่อเสียงและความนิยมของแฟรนไชส์สุดคิ้วท์นี้เอาไว้ Pokémon Company จำเป็นต้องสร้างสรรค์เกมต่อไปให้ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อสร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ และต่อยอดความสำเร็จของซีรีส์ต่อไปได้ในระยะยาว และในวันนี้เราได้รวบรวมสิ่งที่เกม Pokémon ควรพัฒนาในยุคถัดไปมาให้ทุกคนได้ติดตามกัน
3 สิ่งที่เกม Pokémon ควรพัฒนาเร่งด่วน
1. พัฒนาคุณภาพการเขียนบทของเกมโปเกมอน
ซีรีส์โปเกมอนมักจะเน้นความเรียบง่ายในการเล่าเรื่อง โดยในเกมเก่า ๆ จะไม่มีเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนมากนัก หรือบางเกมอย่าง Gold & Silver ก็แทบไม่มีเนื้อเรื่องเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อซีรีส์ดำเนินต่อไป ความซับซ้อนของเนื้อเรื่องก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และหลายคนยกให้โปเกมอนเจเนอเรชั่นที่ 5 เป็นเจเนอเรชั่นที่มีเนื้อเรื่องและการเขียนตัวละครลึกซึ้งที่สุด โดยมีช่วงเวลาสำคัญ ๆ ของเรื่องราวมากมาย ตัวละครอย่าง N มีมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับโลกของโปเกมอนมากกว่าที่เคยแสดงมาก่อน เช่น หลักการและปรัชญาส่วนตัวที่ไม่สอดคล้องกับผู้เล่น แต่ยังคงเป็นมุมมองที่สมเหตุสมผล
หลังจาก Black 2 & White 2 คุณภาพของการเขียนบทในแต่ละเกมเริ่มลดลง เนื่องจากระยะเวลาในการพัฒนาระหว่างเกมแต่ละเกมสั้นลง เนื่องจากแฟรนไชส์ยังคงเติบโตและมีเกมโปเกมอนใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ทำให้การเขียนบทแม้เป็นส่วนสำคัญของเกม แต่ก็ถูกลดทอนความสำคัญลงไป ทำให้เนื้อเรื่องในเกมหลายภาคหลัง ๆ นี้ค่อนข้างง่ายและคาดเดาได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้เล่นรุ่นเก่า ในขณะเดียวกัน หากมองข้ามผู้เล่นเก่าไป การขาดเนื้อเรื่องที่คิดมาอย่างดีก็ยังทำให้ประสบการณ์ของกลุ่มผู้เล่นรุ่นเยาว์ลดลงไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งเราก็ได้แต่หวังว่าในภาคต่อ ๆ ไปเนื้อเรื่องของเกมจะน่าติดตามมากกว่านี้
2. ปรับปรุงกลไกการเล่นเพื่อเพิ่มความสนุกให้กับเกม Pokémon
ซีรีส์เกม Pokémon มักจะใช้ระบบการเล่นแบบมาตรฐานที่คล้ายคลึงกันในแต่ละภาค โดยกลไกหลักมักจะเหมือนเดิมเว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่น การแยกโจมตีทางกายภาพและพิเศษออกจากกันในภาค Sinnoh อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับความซ้ำซากของเกมหลายภาค เกมในช่วงหลัง ๆ จึงมีการเพิ่มกลไกการเล่นใหม่ ๆ เข้ามา เช่น Pokémon Camp ในภาค Galar หรือระบบสัมผัสหน้าจอใน Pokémon Amie ในภาค X & Y
แม้ว่ากลไกเหล่านี้จะดูน่าสนใจ แต่ก็ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของแฟน ๆ อย่างแท้จริง แทนที่จะพัฒนาการเล่นหลักให้ดียิ่งขึ้น Game Freak กลับเลือกที่จะสร้างฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ผู้เล่นอาจเบื่อหน่ายหลังจากใช้ไปสักพัก และไม่มีความจำเป็นต่อการเล่นเกมมากนัก ตัวอย่างเช่น การใช้ Pokémon Camp ก็ไม่จำเป็นเท่าไร เพราะผู้เล่นสามารถเดินทางไปศูนย์ Pokémon และบินกลับมาได้อย่างง่ายดาย
แทนที่จะสร้างฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ไม่จำเป็น Game Freak ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาฟังก์ชันการเล่นหลักให้มีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น ทั้งในด้านการเล่นแบบปกติและการเล่นแข่งขัน การเพิ่มไอเทมใหม่ ๆ และการปรับปรุงการต่อสู้กับ NPC ให้มีความท้าทายมากขึ้น จะช่วยให้เกมมีความน่าเล่นและดึงดูดผู้เล่นได้มากขึ้น
หนึ่งในแนวทางที่จะช่วยปรับปรุงกลไกการเล่นได้คือการทำให้การต่อสู้กับ NPC มีความท้าทายมากขึ้น ปัจจุบัน การต่อสู้กับ NPC มักจะไม่ค่อยท้าทาย เนื่องจากศัตรูมักจะมีทีมที่ไม่ค่อยแข็งแกร่งหรือมีกลยุทธ์ที่ซับซ้อน แม้ว่าในช่วงแรกของเกมอาจจะยังไม่ยากนัก แต่ผู้เล่นหลายคนคาดหวังว่าระดับความยากจะเพิ่มขึ้นตามความก้าวหน้าของเกม อย่างไรก็ตาม ในเกม Pokémon หลายภาค การเปลี่ยนแปลงเพียงอย่างเดียวคือเลเวลของ Pokémon และจำนวนสมาชิกในทีมศัตรูเท่านั้น ซึ่งสำหรับผู้เล่นที่เข้าใจประสิทธิภาพของประเภท Pokémon ก็จะสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย แบบไม่เหนื่อยอะไร ซึ่งหาก Game Freak สามารถปรับปรุงกลไกการเล่นให้มีความน่าสนใจและท้าทายมากขึ้น จะช่วยให้เกม Pokémon มีความน่าเล่นและดึงดูดผู้เล่นได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
3. ปรับเปลี่ยนวิธีการพัฒนาเกมใหม่
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเกม Pokémon ในช่วงหลัง ๆ มานี้ถึงมีปัญหาทางด้านกราฟิกและประสิทธิภาพอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น Pokémon Sword & Shield ที่มีฉากหลังความละเอียดต่ำ หรือ Pokémon Scarlet & Violet ที่มีปัญหาเรื่องการแสดงผลในโลกกว้าง ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากความขี้เกียจของทีมพัฒนาอย่าง Game Freak เพียงอย่างเดียว แต่มีสาเหตุที่ลึกซึ้งกว่านั้น
ทาง CBR ได้ระบุว่าปัญหาหลักอยู่ที่การปรับตัวไม่ทันของ Game Freak ที่ยังคงยึดติดกับการพัฒนาเกมสำหรับเครื่องเล่นพกพามานาน ทำให้เมื่อต้องมาพัฒนาเกมสำหรับเครื่อง Nintendo Switch ซึ่งเป็นเครื่องเล่นกึ่งคอนโซล พวกเขายังไม่สามารถปรับตัวและสร้างเกมที่มีคุณภาพกราฟิกสูงได้อย่างที่ควรจะเป็น ผลที่ตามมาคือเกมที่ออกมาจึงมีปัญหาทางด้านเทคนิคอยู่หลายประการ
การแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยเวลาและความพยายามอย่างมาก Game Freak จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการพัฒนาเกมใหม่ ให้เหมาะสมกับเครื่องเล่นคอนโซลที่ทรงพลังมากขึ้น และต้องจัดสรรเวลาในการพัฒนานานขึ้น เพื่อให้ทีมงานได้มีโอกาสเรียนรู้และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
หาก Game Freak สามารถปรับปรุงกระบวนการพัฒนาได้สำเร็จ ผู้เล่นก็จะยอมรับที่จะรอเกม Pokémon ภาคใหม่ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นได้ แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานขึ้นก็ตาม เพราะสิ่งที่แฟน ๆ ต้องการจริง ๆ คือเกม Pokémon ที่มีคุณภาพสูงและน่าประทับใจ
จากข้อมูลนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าทีมพัฒนาอย่าง Game Freak จำเป็นต้องปรับปรุงในหลายด้าน เช่น การให้ความสำคัญกับการพัฒนาเนื้อเรื่องให้มีความลึกซึ้งมากขึ้น การปรับปรุงกลไกการเล่นให้มีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการพัฒนาเกมให้เหมาะสมกับเครื่องเล่นคอนโซลที่ทรงพลังมากขึ้น เพื่อรักษาความนิยมของแฟรนไชส์ Pokémon ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<
