สกู๊ปพิเศษ

10 เกม Open World ยอดแย่ ตามการจัดอันดับของ Metacritic

บางเกมก็สะกดผู้เล่นจนอยู่หมัด บางเกมก็เจอผู้เล่นบ่นจนหูชา

เกม Open World นั้น ถือเป็นเกมที่เปรียบเสมือนให้แฟน ๆ ได้เข้าไปสัมผัสโลกอีกใบหนึ่งที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของเกมนั้น ๆ เกม Open World บางเกมก็สามารถสะกดคนเล่นได้อย่างอยู่หมัดจนกลายเป็นเกมยอดนิยม บางเกมก็ทำออกมาไม่น่าพอใจเท่าไหร่นักจนผู้เล่นบ่นกันจนหูชา เรื่องของเกม Open World ยอดนิยมนั้น เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรู้กันบ้างแล้วว่ามีเกมอะไรบ้างในยุคปัจจุบัน เพราะฉะนั้นวันนี้ เรามาโฟกัสกันในทางตรงกันข้ามดีกว่า มาดูกันว่า 10 เกม Open World ยอดแย่ ซึ่งจัดอันดับโดย Metacritic จะมีเกมอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

10. Fuel

image 433

เกมแนวเรซซิ่งสไตล์ Open World ที่มีบรรยากาศแนวโลกที่ล่มสลายไปแล้ว คอนเซ็ปของเกมดูค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวล่ะ แต่ก็นั่นแหละ แต่ภาพรวมกลับไม่สามารถทำตัวเกมออกมาได้มีเอกลักษณ์และน่าสนใจมากพอที่จะสู้กับเกมแนวเรซซิ่งเกมอื่น ๆ ขึ้นชื่อว่า Open World ก็จริงแต่สิ่งต่าง ๆ บนโลกนั้นแทบไม่มีอะไรน่าสนใจเลย มีแค่ทุ่งหญ้าร้าง ๆ และดินโล่ง ๆ เท่านั้น เชื่อว่าบรรยากาศแนวโลกล่มสลายนี้ ทำให้เกมดูมีความน่าสนใจมากจริง ๆ แต่ทางผู้พัฒนากลับไม่สามารถดึงเสน่ห์ตรงจุดนี้ออกมาได้

METACRITIC SCORE: 67

9. Two Worlds

image 434

เกมที่ดูเหมือนจะได้แรงบันดาลใจมาจากเกม Elder Scrolls IV: Obivion ซึ่งถึงจะพยายามให้เหมือนสักแค่ไหน แต่คุณภาพของเกมก็สู้ไม่ได้อยู่ดี ตัวกราฟิกของเกมและบรรยากาศของเกมก็ทำออกมาได้ไม่น่าจดจำ อีกอย่างคือมีบัคที่เยอะมากและระบบ AI ที่ทำออกมาค่อนข้างแย่ด้วย ยิ่งทำให้แฟน ๆ เสียอารมณ์เข้าไปใหญ่

METACRITIC SCORE: 65

8. Mafia 3

image 436

หลังจากที่แฟน ๆ ต่างเรียกร้องผู้พัฒนาอย่าง 2K ให้นำซีรีส์ Mafia กลับมาทำใหม่เป็นภาคที่สาม ซึ่งจากความสำเร็จของตัวเกมในภาคที่สองนั้น ก็ทำให้แฟน ๆ ต่างคาดหวังตัวเกมภาคสามมาก ๆ ว่าจะออกมาดี แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับน่าเสียดาย เพราะตัวเกมไม่สามารถดึงเสน่ห์ของซีรีส์ Mafia ออกมาได้เลย ในช่วงแรกของเกมนั้น ตัวเกมสามารถทำเรื่องราวออกมาได้เข้มข้นมากทีเดียว แต่หลังจากที่ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง ตัวเกมกลับกลายเป็นเหมือนเกม Open World ทั่ว ๆ ไปที่ไม่มีอะไรน่าจดจำเอาเสียเลย

METACRITIC SCORE: 62

7. No Man’s Sky

image 437

เกมที่ถูกคาดหวังอย่างล้นหลามในปี 2016 ที่เปิดโอกาสให้แฟน ๆ ได้ไปสำรวจอวกาศอันสวยงามและพบสิ่งมีชีวิตน่าอัศจรรย์มากมาย แต่ทันทีที่ตัวเกมวางจำหน่ายนั้น ตัวเกมกลับถูกวิจารณ์ในแง่ลบอย่างรุนแรงทันที โดยเฉพาะเรื่องของระบบการเล่นที่ทำออกมาน่าเบื่อและไร้จุดหมายมาก ซึ่งแน่แปลกใจมากว่าทำไมตัวเกมถึงออกมาย่ำแย่ขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ผู้พัฒนาอย่าง Hello Games ก็เคยรับรางวัล Game of the Year มาแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางผู้พัฒนาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้นำเอาเสียงวิจารณ์ของผู้เล่นไปปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาตัวเกมให้สนุกมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว

METACRITIC SCORE: 61

6. Dynasty Warriors 9

image 438

หลังจากที่ออกเกมมาหลายต่อหลายภาคจนเดินทางมาถึงภาคที่ 9 ทางผู้พัฒนาจึงตัดสินใจเพิ่มความสดใหม่ของแฟรนไชส์เข้าไปโดยการทำตัวเกมให้เป็นรูปแบบ Open World ซะเลย ซึ่งก็ดูมีความสดใหม่และน่าสนใจอย่างที่ว่าจริง ๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเกมทำรูปแบบ Open World อย่างเป็นทางการ แต่ความ Open World ของเกมนี้นั้น กลับมีแต่อะไรที่น่าเบื่อ ๆ สภาพแวดล้อมทุก ๆ อย่างดูมีความ Copy & Paste ไปซะหมด นอกจากตัวละครแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจเลย ถือเป็นก้าวที่พลาดของซีรีส์ Dynasty Warriors มาก หวังว่าภาคต่อไป ถ้าทำแบบ Open World อีก ก็ขอให้ทำอะไรที่มันดูมีความลงทุนมากกว่านี้ก็ยังดี

METACRITIC SCORE: 57

5. Metal Gear: Survive 

image 439

ขึ้นชื่อว่า Metal Gear ที่เป็นซีรีส์ที่แฟน ๆ รัก แต่สำหรับภาคนี้ ความรักของแฟน ๆ ทั้งหมดกลับเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังอย่างฉับพลันทันที หลังจากที่คุณฮิเดโอะ โคจิม่าได้แยกตัวออกไป ทำให้ทาง Konami ต้องทำซีรีส์ Metal Gear เป็นของตัวเอง และเป็นที่แน่ชัดว่า เมื่อหัวเรือหายไป เรือทั้งลำก็ล่มทันที ตัวเกมมีการเพิ่มซอมบี้เข้ามาเป็นศัตรูหลักของเกม ซึ่งนี่ก็แปลกพออยู่แล้ว แต่ทางผู้พัฒนากลับเพิ่มความมั่วซั่วที่จับอะไรไม่รู้มายัดลงในเกม ทำให้ตัวเกมมีความยุ่งเหยิงไปหมด และหมดความเป็น Metal Gear ไปโดยปริยาย

METACRITIC SCORE: 54

4. Superman Returns

image 440

หลังจากที่ Superman กลายเป็นเกม Open World ที่หลาย ๆ คนน่าจะตื่นตาตื่นใจกัน แต่ความเป็น Superman ไม่ได้ช่วยอะไรตัวเกมเลย ตัวเกมทำออกมาได้น่าเบื่อมาก มีระบบการต่อสู้ที่ซ้ำจำเจ เนื้อเรื่องที่คาดเดาได้ รวมการเคลื่อนไหวที่ขัดใจ ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำเอาเมืองใหญ่ที่อุตสาห์ออกแบบมาภายในเกม ดูจืดชืดไปเลย บอกเลยว่าเกม ๆ นี้ ทำออกมาไม่สมกับความยิ่งใหญ่ของ Superman เลยจริง ๆ

METACRITIC SCORE: 51

3. The Amazing Spider-Man 2 

image 441

ส่วนใหญ่แล้ว เกม Spider-Man มักทำออกมาได้ดีมาโดยตลอด แต่ไม่ใช่สำหรับตัวเกมภาคนี้ เพราะทั้งเกมไม่สามารถดึงเสน่ห์ของ Spider-Man ออกมาได้เลย แถมยังออกแบบตัวเมืองออกมาไม่มีชีวิตชีวาและจืดชืดไปซะหมด ไม่มีมนต์เสน่ห์ของเมือง New York เลยแม้แต่น้อย ระบบภารกิจในเกมก็ซ้ำซาก ระบบต่อสู้ก็เหมือน ๆ กับภาคก่อน เชื่อเลยว่าแฟน Spider-Man หลายคน น่าจะคาดหวังอะไรที่สนุกกว่านี้แน่ ๆ

METACRITIC SCORE: 44

2. Driv3r

image 442

เกมที่ดูเหมือนจะพยายามทำให้คล้ายคลึงกับเกมจากค่าย Rockstar เช่น GTA แต่ไม่สำเร็จ เพราะห่างชั้นกับเกม GTA มาก ซึ่งช่วงที่เกมนี้เริ่มวางจำหน่าย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กระแสของเกม GTA 3 และ GTA: Vice City กำลังโด่งดังมาก ๆ ซึ่งก็ทำให้ค่ายเกมอื่น ๆ รวมถึง Ubisoft เจ้าของเกม Driv3r เกมนี้ เริ่มพยายามทำเกมออกมาในรูปแบบเดียวกัน แต่ก็หายากจริง ๆ ที่จะมีเกมไหนมาเทียบกับ GTA ได้ สำหรับเกม Driv3r นั้น บอกได้คำเดียวเลยว่า ทุก ๆ อย่างทำออกมาย่ำแย่จริง ๆ ทั้งระบบภารกิจที่ขัดใจพิกล ระบบต่อสู้ที่ตั้งใจทำให้เท่แต่กลับดูตลก รวมไปถึงตัวละครที่ดูไม่มีเอกลักษณ์ โดยรวมแล้ว เชื่อเลยว่าแฟนเกม GTA จะต้องไม่โอเคแน่ ๆ

METACRITIC SCORE: 40

1. Raven’s Cry 

image 443

ปิดท้ายด้วยเกม Open World ที่หลาย ๆ คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำออกมาได้ย่ำแย่มากจริง ๆ เป็นเกมที่ไม่มีความสนุกเลย ทั้งเนื้อเรื่องที่ไม่มีความน่าสนใจ ระบบการเล่นที่เก่าคร่ำครึไม่มีอะไรแปลกใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นตัวเกมยังประกอบไปด้วยบัคและ Glitche จำนวนมหาศาล เรียกได้ว่าไม่รู้จะเอาอะไรมาอธิบายก่อนเลยในแง่ความความแย่ของเกม ๆ นี้ สำหรับเกม Raven’s Cry  นั้น ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ได้คะแนนน้อยที่สุดของ Metacritics เลย เอาง่าย ๆ ว่า ถ้าอยากรู้ว่าตัวเกมทำออกมาแย่ขนาดไหน ก็ลองหามาเล่นดูได้เลย

METACRITIC SCORE: 27

จบไปแล้วสำหรับ 10 เกม Open World ยอดแย่ที่แฟน ๆ รู้สึกไม่โอเคมากที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของทาง Metacritics เท่านั้น ไม่ได้ฟันธงว่าทุก ๆ คนจะต้องเห็นด้วย เอาจริง ๆ มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคนมากกว่า ไม่แน่ว่าใครที่ไม่เคยเล่นเกมไหนใน 10 เกมนี้ เมื่อลองเล่นดูก็อาจจะชอบก็ได้ แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ มีเกม Open World เกมไหนที่รู้สึกว่าไม่โอเคบ้างหรือเปล่า ?

ที่มา
gamerant
Back to top button