10 สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเล่น Ragnarok Begins (WEST)

เปิดเพิ่มอีกหนึ่งเกมแล้วนะครับ สำหรับเกมออนไลน์ชื่อดังในบ้านเราอย่าง Ragnarok และรอบนี้ก็มีเกมมือถือใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Ragnarok Begins (West )เปิด CBT ตั้งแต่วันที่ 14-20 ตุลาคม 2022 นี้ และจะเปิด OBT ในวันที่ 21 ตุลาคม 2022 ทันที เรียกได้ว่าทดสอบปุ๊บเปิดปั๊บไม่รอช้า และถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจที่จะเล่นเกมนี้อยู่ล่ะก็ บทความนี้ก็ได้หยิบจับเอาเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาบอกเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง เผื่อว่าจะได้เตรียมตัวหรือเตรียมใจเอาไว้สักหน่อยว่าถ้าเล่นเกมนี้จะต้องเจออะไรบ้าง ไปชมกันครับ

1. มีในสโตร์ไทย แต่ไม่รองรับภาษาไทยในเกม

Ragnarok Begins West เป็นเกมที่มีอยู่ในสโตร์ไทยให้โหลดเล่นกันแบบ Free-to-play กันอย่างจุใจ แต่อย่าเพิ่งดีใจเกินไปครับ ถึงแม้ว่าเราจะสามารถเสิร์ชหาเกมนี้มาเล่นได้โดยที่ไม่ต้องมุด IP หรือใช้ VPN ในการเล่น แต่เกมนี้ก็ไม่ได้รองรับภาษาไทยอย่างที่เพื่อน ๆ คิดครับ ซึ่งภาษาที่เกมนี้รองรับจะมีเพียงแค่ภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษเท่านั้น สำหรับเพื่อน ๆ ที่อ่านภาษาอังกฤษได้คล่องก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรกับการเล่นเกมนี้ครับ แต่ถ้าเกิดว่าคุณติดภาษาไทยและอ่านอังกฤษไม่คล่องก็อาจจะต้องเปิดกูเกิ้ลแปลภาษาติดข้างกายเอาไว้เลยล่ะครับถ้าเกิดว่าคุณอยากเสพเนื้อเรื่องในเกมหรือเล่นอย่างมีประสิทธิภาพนะ

2. ช่วง CBT นี้ iOS อด

อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นนะครับ ว่าเกมนี้เนี่ยเค้าเปิด CBT ตั้งแต่วันที่ 14-20 ตุลาคม 2022 ก็จริงนะครับ แต่คนที่สามารถเข้าร่วมในช่วง CBT ได้นั้น ยังไงก็ต้องเป็น Android เท่านั้นครับ ส่วนเพื่อน ๆ ที่ใช้มือถือในระบบของ iOS นั้นก็คงต้องขอแสดงความเสียใจในช่วง CBT ด้วยนะครับ แต่ก็ไม่ต้องเครียดไปครับ เพราะอีกเดี๋ยวในวันที่ 21 ตุลาคม 2022 หรือวันที่เกมนี้เปิด OBT นั้น iOS ก็จะสามารถเล่นไปพร้อมกันกับชาว Android ได้เหมือนเดิมครับผม

3. เกมนี้ใช้มุมมองแบบ Side Scrolling (มุมมองด้านข้าง)

หากพูดถึงเกม Ragnarok ในเวอร์ชั่นต่าง ๆ เราก็มักจะเห็นว่าเกมนี้เป็นเกม MMORPG ที่มีมุมมองการเล่นแบบ Bird Eye View หรือมุมมองจากบนฟ้า เพื่อให้เราเห็นภาพรวมของการเล่นได้ง่าย แต่สำหรับเกม Ragnarok Begins West นี้จะเปลี่ยนรูปแบบการเล่นเกม RO ของคุณให้กลายเป็นมุมมองแบบ Side Scrolling คล้ายกับเกม Ragnarok Battle ที่เราเคยเล่นกันในแบบ Offline แต่เปลี่ยนเป็น Online แทน และใช้ระบบการเล่นในรูปแบบของ MMORPG ต้นฉบับครับ

4. เกมจะเป็นแนว Auto Quest มากกว่าเล่นมือ

หากใครคิดว่า Ragnarok Begins West ที่เปลี่ยนเป็นมุมมองแบบ Side Scrolling แล้วจะมีความ Action ขึ้น หรือบู๊ขึ้น เอาจริง ๆ ก็ไม่เชิงครับ แม้ภาพและฉากจะเปลี่ยนไปทำให้ดูมันส์ขึ้น สะใจขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่เกมเพลย์ของมันก็ยังคงเป็น MMORPG บนมือถืออยู่เหมือนเดิม กล่าวคือมันจะเป็นเกม Auto Quest อยู่เหมือนเดิมครับ แค่กดจิ้มที่เควสต์ 1 ครั้ง ตัวละครก็จะวิ่งเอง สู้เอง ส่งเควสต์เอง เพียงแค่จะมีบางครั้งที่ต้องเล่นมือบ้างจากการที่เควสต์หมด หรือสู้บอสยาก ๆ หรือเล่นคอนเทนต์บางอย่างในเกมเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการ Auto เหมือนกับเกม RO อื่น ๆ บนมือถือครับ

5. มีอาชีพให้เลือกเล่น 5 สาย

ในเกม Ragnarok Online ที่เรารู้จักกันนั้นมีอาชีพให้เลือกเล่นมากมายหลากหลายใช่ไหมครับ แต่สำหรับเกมมือถือใหม่ที่เพิ่งเปิดเซิร์ฟนั้นไม่ได้มีอาชีพให้คุณเลือกเยอะขนาดนั้น ขนาดคลาส 1 ที่คุณรู้จักกันดียังถูกตัดให้เหลือเพียงแค่ 4 คลาส ได้แก่ นักดาบ นักธนู นักเวทย์ และก็อโคไลท์เท่านั้น เมื่อรวมกับอาชีพโนวิทอาชีพแรกเริ่มแล้ว ก็เท่ากับว่าเกมนี้มีอาชีพให้คุณเลือกเล่นเพียง 5 อาชีพเท่านั้นครับ แต่ว่านี่ก็เป็นเพียงข้อมูลที่ได้จากการร่วมทดสอบ CBT เพียงเท่านั้น ไม่แน่ว่าช่วง OBT หรืออัพเดตแพทช์ในอนาคตก็อาจจะมีอาชีพใหม่เข้ามาเพิ่มก็ได้ครับ

6. สกิลถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน และดองพอยต์ได้

ด้านสกิลของเกมนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ที่ใช้พอยต์ในการอัพแยกกันเป็นส่วน ๆ ได้แก่ Job Skill ที่จะเพิ่มขึ้นมาในตอนที่คุณเปลี่ยนอาชีพคลาส 1 เรียบร้อยแล้ว จะเป็นสกิลอาชีพเช่น สกิลนักดาบ สกิลนักธนู เป็นต้น ส่วนที่สองคือ Adventure Battle จะเป็นสกิลที่โผล่มาให้เห็นตั้งแต่เป็นโนวิทแล้ว แต่มันจะมีให้อัพเรื่อย ๆ ตามเลเวลที่เพิ่มขึ้น มักเป็นทักษะเสริมที่ช่วยในการเล่นให้สบายขึ้นอีกนิดนึง และสุดท้ายคือในส่วนของ Adventure Livelihood หรือสกิลการใช้ชีวิต พวกนี้จะเป็น Passive สกิลที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น เพิ่มช่องเก็บของ ลดคูลดาวน์ของบีวิง เพิ่มโอกาสสำเร็จของการทำอาหาร เป็นต้น และที่สำคัญสามารถดองพอยต์ไว้อัพได้ถ้าเลเวลของเรายังไม่ถึง ถ้าคุณอ่านสกิลแล้วมองว่าสกิลนี้ยังไม่จำเป็นสำหรับคุณก็สามารถดองไว้อัพอีกสกิลที่ดีกว่าในอนาคตได้เช่นกัน

7. การอัพ Status มีคำแนะนำให้อัพตามได้สะดวก

Status เป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาโดยตลอดสำหรับเกม Ragnarok เพราะถ้าอัพผิดชีวิตก็เปลี่ยน แถมมีไกด์ในเน็ตต่างกันมากมายชวนปวดหัว แต่ไม่ต้องห่วงไปครับ ถ้าคุณเป็นผู้เล่นสายแคสชวลที่ไม่ได้จริงจังอะไรมากมายนัก คุณสามารถกดปุ่ม Recommendation ในหน้าอัพสเตตัสได้เลย ตัวเกมจะคำนวณให้คุณเองว่าตอนนี้คุณควรอัพค่าสเตตัสอะไรอยู่ที่เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม ช่วยตัดปัญหาไม่ต้องคิดมากแต่ก็ยังเก่งใช้ได้ ส่วนใครที่อยากเล่นแบบซีเรียสเกมมิ่ง เก่งขั้นเทพ หรือบิ๊วตัวละครเฉพาะทางไม่เหมือนใคร ก็แนะนำให้ศึกษาอย่างละเอียดอีกทีครับ

8. ตีบวก Slot ได้ตามเลเวล ไม่ต้องกลัวแตก

เกมนี้นอกจากการตีบวกอาวุธหรือไอเทมสวมใส่ที่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของ RO แล้ว สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือการอัพเกรด Slot สวมใส่ครับ โดยในตัวละครของเราจะมีช่องสวมใส่ทั้งหมด 12 ช่อง ใช้เงินในการอัพ ได้เงินมาก็เอามายัดใส่ตรงนี้ได้เลย เพราะโบนัสที่ได้จากส่วนนี้จะเพิ่มให้เราอย่างถาวร และไม่มีคำว่าแตกตราบใดที่มีเงินอัพไปเรื่อย ๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางเล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังให้กับเราอย่างมั่นคง แต่ก็ต้องลงทุนหน่อย ถ้าใครมีปัญหาด้านการเงินก็แนะนำว่าเว้นไว้ก่อนได้ สะดวกตอนไหนค่อยมาอัพเพราะตรงส่วนนี้ไม่หนีเราไปไหนครับ

9. เควสต์ตัน ไปต่อไม่ได้ ให้เปิดแมพหาที่เก็บเลเวล

ทุกเกมที่เป็นระบบ Auto Quest มักจะมีกำแพงบางอย่างมาบังคับให้คุณต้องหยุด Auto สักระยะ เพื่อเล่นมือหรือเข้ามาจัดการอะไรบางอย่างเพื่อให้ตัวละครไปต่อได้ แน่นอนว่าเกมนี้ก็มีครับ เมื่อเล่นไปสักพักเควสต์ที่เล่นอยู่ก็จะตัน โดยบอกว่าเลเวลของคุณยังไม่ถึงที่กำหนด แต่เควสต์ย่อยอื่น ๆ ก็หมดแล้วคุณไม่รู้จะทำอะไรดี แนะนำให้เปิดแผนที่ที่อยู่มุมขวาบนของหน้าจอขึ้นมาครับ แล้วกดสัญลักษณ์รูปกระดาษกับหมุดสีเขียวที่อยู่ข้างปุ่ม Zoom จะเป็นการเปิด World Map ครับ ซึ่งส่วนนี้จะบอกหมดเลยว่าเราอยู่ตรงไหนของแผนที่ แผนที่ตรงไหนมีมอนสเตอร์อะไรบ้าง มอนสเตอร์แมพนั้นเลเวลเท่าไหร่ ให้เราหาจุดที่เราพอจะสู้ไหวแล้วไปปล่อย Auto ที่นั่นครับ จนกว่าเลเวลของเราจะอัพจนถึงระดับที่เควสต์ไปต่อได้แล้วค่อยลุยต่อ

10. ถ้า Stamina หมด จะเก็บเลเวลไม่ได้

เกมนี้เป็นเกม MMORPG ที่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระและไม่มี Stamina ในการลงด่านก็จริง แต่เกมนี้ก็ยังมี Stamina มาควบคุมการเล่นของคุณไม่ให้ปล่อยบอทข้ามวันข้ามคืน หรือเล่นแบบไม่หลับไม่นอนกันเลย เดี๋ยวจะเสียสุขภาพเอาครับ โดย Stamina ของเกมนี้จะสามารถเช็คได้ข้างหลอดเลือดมุมซ้ายบนของหน้าจอ สัญลักษณ์ของมันจะคล้าย ๆ สายฟ้าสีเขียวและมีตัวเลขกำกับอยู่ ถ้าเกิดว่า Stamina ของเราหมด ก็จะส่งผลให้การต่อสู้กับมอนสเตอร์นั้นไม่ได้รับ EXP ไม่ได้เงิน และไม่ดรอปไอเทมครับ แม้เราจะเข้าเกมไปเล่นได้ แต่มันก็ถือว่าพัฒนาต่อไม่ได้อยู่ดี เพราะงั้นเราควรพักบ้างครับ เพื่อรับแต้ม Rest ที่เอามาใช้แทน Stamina ได้เหมือนกัน แถมแต้ม Rest ยังทำให้ได้รับ EXP x2 ด้วยนะ เพราะงั้นทางที่ดีที่สุดคือเล่นบ้างพักบ้างสลับกันไปนั่นเองครับ

และนี่ก็คือ “10 สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเล่น Ragnarok Begins West” หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่าน และผู้ที่สนใจจะเล่นเกมนี้ในช่วง CBT และ OBT ที่จะมาถึงนี้นะครับ ส่วนตัวมองว่าเกมนี้ก็มีความคล้ายคลึงกับเกม Ragnarok อื่น ๆ บนมือถือ ถ้าเคยเล่นเกมเก่ามาแล้วมาเจอเกมนี้ก็สามารถเล่นได้เลยแม้จะอ่านภาษาอังกฤษงู ๆ ปลา ๆ ก็ตาม สุดท้ายนี้ก็ขอให้เพื่อน ๆ เล่นเกมนี้ได้อย่างมีความสุขนะคร้าบ

ดาวน์โหลด