Grand Theft Auto หรือ GTA ชื่อนี้การันตีความสนุกที่เกมเมอร์ทุกคนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะเกมแนว Open World ที่เราสามารถเข้าไปโลดเล่นและทำอะไรได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ทำให้เกมซีรีส์ GTA กลายเป็นที่รักและชื่นชอบของเกมเมอร์ทุกยุคทุกสมัย ถึงแม้จะมาพร้อมคุณภาพแบบคับแก้วในทุกๆ ภาค แต่ก่อนที่จะสมบูรณ์แบบและครบถ้วนเหมือนในภาคล่าสุดนี้ ( GTA V ) ผมอยากจะพาเพื่อนๆ ย้อนกลับไปดูบางระบบที่ทางผู้พัฒนาตัดมันออกไปเพื่อความสนุกในการเล่นนั่นเอง (บางระบบอาจจะยังอยู่) โดยในวันนี้ผมได้ทำการรวบรวม 10 เรื่องชวนขัดใจของชาว GTA มาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่าครับ
*หมายเหตุ – บทความนี้ไม่ใช่การจัดอันดับ และทำขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
1. ตัวละครเอกว่ายน้ำไม่เป็น
ถึงแม้ในเกมภาคล่าสุดอย่าง GTA V ตัวละครของเราจะสามารถว่ายน้ำได้อย่างอิสระ แต่รู้หรือไม่ว่าเกม GTA ในอดีตนั้น บางภาค (อาทิเช่น Vice City, GTA 3) ตัวละครของเราไม่ถูกกับน้ำเอาเสียเลย ทำให้การตกน้ำในเกมนั้นน่ากลัวพอๆ กับการเหยียบหนามในเกม Rockman เลยทีเดียว ถึงแม้การที่ตัวละครว่ายน้ำไม่เป็นอาจไม่ส่งผลต่อเกมการเล่นมากนัก แต่ผมเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่มันต้องส่งผลแน่ๆ ก็คือทำให้ผู้เล่นเกิดความรำคาญและอาจจะมาพร้อมกับประโยคเด็ดว่า “เห้ย! น้ำตื้นแค่นี้ยังจมอีกหรอ” ทำให้การเดินทางสำรวจแผนที่ในเกมของเรามันดูไม่ลื่นไหลและดูไม่ค่อยจะสมประกอบเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างนั้นการที่ตัวละครของเราว่ายน้ำไม่เป็นก็ยังไม่ส่งผลถึงเกมเพลย์มากนัก ( แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูน่ารำคาญอยู่ดีจริงไหมล่ะครับ )
2. ไม่สามารถสำรวจทุกส่วนของแผนที่ในช่วงต้น
การที่เกมเปิดโอกาสให้เราสามารถสำรวจแผนที่อันกว้างใหญ่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญของเกมตระกูล GTA เลยก็ว่าได้ เพราะแผนที่ในเกมหลายๆ ภาคนั้นเต็มไปด้วยรายละเอียดต่างๆ รวมไปถึงสถานที่ที่ชวนให้เราขับไปสำรวจอยู่เรื่อยๆ แต่เชื่อหรือไม่ครับว่าใน GTA บางภาคนั้นไม่เปิดโอกาสให้เราได้สำรวจมากขนาดนั้น แต่ให้สำรวจแค่บางส่วนของแผ่นที่เท่านั้น ส่วนพื้นที่อื่นๆ หรือที่เกมเมอร์เรียกว่า ‘เกาะ’ นั้นมักจะถูกปิดกั้นด้วยแบริเออร์หรือสะพานข้ามเกาะที่ถูกทำลายตามเนื้อเรื่อง (อาทิเช่น GTA 4, GTA: San Andreas, GTA 3 ) ทำให้การสำรวจแผนที่ในช่วงต้นของเกมบางภาคนั้นทำได้ค่อนข้างจำกัดและดูจะขัดกับความอิสระของเกมแนว Open World รวมถึงการเล่นในช่วงแรกของเราอาจจะมีพื้นที่ให้ขับรถเล่นน้อยไปสักหน่อย ( ผมแก้ปัญหานี้โดยการรีบเล่น ปั่นภารกิจให้ได้ไปเกาะอื่นไวๆ)
3. การบังคับเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินบังคับ
สำหรับข้อนี้ ผมเชื่อว่าผู้เล่นหลายคนคงไม่ได้ขัดใจเท่าไหร่ แต่น่าจะเป็นเรื่องที่ชวนหัวร้อนมากที่สุดของเหล่าผู้เล่นเลยก็ว่าได้ ซึ่งภารกิจที่เปิดโอกาสให้เราขับขี่ยานพาหนะบังคับต่างๆ นั้นจะมีใน GTA 3 ( เป็นภารกิจขับรถบังคับ ยังไม่ยากมาก ), GTA Vice City ( ภารกิจที่ต้องใช้ฮ.ระเบิดตึก ) หรือจะเป็นภารกิจใน GTA San Andreas ( ภารกิจขับเครื่องบินบังคับสุดหัวร้อน )
โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภารกิจเหล่านี้มันชวนปวดหัวเอามากๆ ก็คือในตัวภารกิจของภาค Vice City และ San Andreas ไม่ได้สอนให้เราขับยาพาหนะประเภทลอยฟ้ามาก่อนหน้า หรือพูดง่ายๆ ก็คือเมื่อเราทำภารกิจปุ๊บ เกมก็ให้เราบังคับยานหนะแบบใหม่เลย พร้อมกับบอกปุ่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ภารกิจมัน Hardcore ขึ้นไปอีกขั้นก็คือการที่ตัวภารกิจนั้นมีเวลาจำกัด แถมภารกิจในภาค Vice City และ San Andreas ยังเป็นภารกิจที่ข้ามไม่ได้อีกต่างหาก
4. รถคว่ำแล้วระเบิด
อีกหนึ่งปัญหาคลาสสิคที่เพิ่งจะถูกแก้ไขในภาค 5 ไปหมาดๆ ซึ่งปัญหารถคว่ำแล้วระเบิด ฟังดูมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรใหญ่โตอะไร แต่จริงๆ แล้วเนี่ย เพียงแค่คุณเผลอทำรถคว่ำก็อาจจะทำให้ภารกิจที่เราทำอยู่ล้มเหลวไปดื้อๆ เลย ( เพราะบางภารกิจเราต้องขับรถคันเดียวให้จบภารกิจ ถ้ารถพังก็ต้องเล่นใหม่ ) แถมการคว่ำของรถก็เกิดได้ค่อนข้างง่ายอีกต่างหาก ชนิดที่ชนหน่อยก็จะคว่ำแล้ว หรือแค้ขับเฉียดฟุตบาทเพียงเล็กน้อยก็อาจจะหงายท้องเอาง่ายๆ นี่ยังไม่รวมถึงรถที่เราแต่งอีกนะครับ ถ้าคว่ำทีก็เตรียมบอกลารถที่คุณลงทุนไปได้เลย (แต่ปัญหานี้ก็แก้ได้โดยการโหลดเซฟใหม่ครับ)
5. ขนาดแผนที่ที่ไม่เท่ากันในแต่ละเกม
ข้อนี้อาจอยู่ที่มุมมองและวิธีการเล่นของแต่ละคนด้วยนะครับ แต่ผมเชื่อว่าสำหรับเกมเมอร์หลายคน การมีแผนที่ใหญ่ๆ ให้สำรวจในเกม GTA ย่อมเป็นทางเลือกที่คนส่วนมากอาจจะชอบมากกว่า โดยขนาดแผนที่ในเกมแต่ละภาค GTA ก็มีความหลากหลาย ตั้งแต่ใหญ่มากๆ ในภาค GTA San Andreas หรือ ภาค 5 ไปจนถึงขนาดเล็กจนน่าตกใจในภาค Vice City ( แต่เกมภาคนี้ใช้เวลาทำแค่ 9 เดือนครับ ) ซึ่งขนาดของแผนที่ก็คงส่งผลให้กับความสนุกในการขับรถเล่นในเกมไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งถ้าคุณเป็นคนชอบแผนที่ขนาดใหญ่ที่มีสภาพแวดล้อมที่หลากหลายแล้วล่ะก็ ถ้าไปเล่นบางภาคที่ขนาดแผนที่เล็กกว่าภาคก่อนๆ ที่คุณเคยเล่นมา อาจจะเกิดอาการขัดใจเอาง่ายๆ ได้เลย
6. ตัวละครโดนจับหรือตายแล้วอาวุธหาย
กรณีที่คุณมีอาวุธสุดเทพที่ซื้อมาในราคาแพง หรือหาเก็บในจุดลับของแผนที่ (หรือกดสูตร) แล้วจู่ๆ อาวุธทั้งหลายเหล่านั้นก็ดันหายวับไปกับตา ถ้าเป็นคุณก็คงจะอารมณ์เสียน่าดูเลยใช่ไหมล่ะ และแน่นอนว่าระบบดังกล่าวมันเคยมีอยู่จริงๆ ในเกม GTA ที่เมื่อเราตาย อาวุธที่เก็บมาทั้งหมดจะหายไปและไม่มีทางได้มันกลับคืนมาอีก แถมนอกจากจะเสียอาวุธทั้งหมดไปแล้ว คุณยังต้องเสียเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่ารักษา / ค่าปรับอีกต่างหาก ซึ่งถ้าใครเป็นคนที่เล่นแบบยิงยาว ไม่ได้เซฟระหว่างเล่นเป็นระยะเวลานานๆ ถ้าเกิดตายขึ้นมา คงต้องเลือกเอาว่าจะยอมเสียอาวุธไปทั้งหมด หรือจะโหลดเซฟล่าสุดดี
แต่ก็ยังดีนะครับที่บางภาคยังมีข้อยกเว้นให้เราเก็บอาวุธของตัวเองไว้ได้ อย่างเช่นใน GTA San Andreas ถ้าเรามีแฟนเป็นนางพยาบาล Katie Zhan, GTA Vice City Stories ที่สามารถจ่ายค่าปรับเพื่อเก็บอาวุธไว้ได้ ( เสียเงิน 2,000 ) แต่ระบบนี้ก็ถูกตัดออกไปในเกมภาค 4 และ 5
7. บันไดที่ปีนไม่ได้ในภาค San Andreas
สำหรับปัญหาข้อนี้อาจจะเฉพาะทางไปสักหน่อย ถ้าเทียบกับข้ออื่นๆ ซึ่งมันจะไม่เกิดขึ้น ถ้าบรรไดปีนในเกมไม่มีความจำเป็น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนเลยคงไม่พ้นเกมภาค San Andreas ที่เราสามารถใช้เรือได้อย่างอิสระ แต่พื้นที่ในเมืองบางจุดที่เป็นท่าเรือ ( Dock ) นั้นจะมีแท่นยืนและมีบันไดอยู่ แต่บันไดที่เราเห็นนั้นมันเป็นเพียงแค่บันไดประกอบฉากที่ไม่สามารถปีนได้ หากใครมีเกม San Andreas ในครอบครอบ ผมแนะนำให้ลองไปดูท่าเรือในเขตเมือง San fierro ดูนะครับ เพราะมันจะมีท่าเรือแบบเดียวกันอยู่หลายแห่ง (เป็นท่าเรือเล็กๆ ที่มีบันไดแต่ปีนไม่ได้ ) ปัญหาที่ตามมาก็คือ ในเมื่อบันไดที่มีกลับปีนไม่ได้ทำให้เราต้องขับเรือวนเป็นเวลานานจนกว่าจะเจอทางลาดที่สามารถเดินขึ้นไปได้ (อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ก็เป็นปัญหาที่น่ารำคาญใช้ได้)
8. ภารกิจเสริมที่บางทีก็น่าเบื่อไปหน่อย
สำหรับข้อนี้ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นของคุณนะครับว่าเป็นสายเล่นภารกิจหลัก ไม่แคร์ภารกิจเสริม หรือสายเล่นทุกอย่าง ยกเว้นภารกิจเสริม ก็อาจจะไม่ส่งผลมากนัก
ภารกิจเสริมสุดจะน่าเบื่อที่ผมกำลังจะกล่าวถึงอยู่นี้ก็คือภารกิจ เช่น ภารกิจ Paramedic ที่ให้ผู้เล่นขับรถไปรับผู้บาดเจ็บในจุดต่างๆ และไปส่งยังโรงพยาบาลใกล้ๆ ซึ่งเราต้องทำแบบนี้ร่วม 12 ครั้งติดต่อกันเพื่อที่จะได้รางวัลหลังจากจบภารกิจ ( รางวัลที่ได้ก็มีตั้งแต่หลอดเลือดยาวขึ้น, มียาให้เก็บที่บ้าน, ตัวละครวิ่งได้ไม่จำกัด ) หรือจะเป็นภารกิจ Vigilante ให้ไล่ยิงผู้ร้ายที่ต้องเล่นซ้ำแบบเดิม 12 ครั้งติดต่อกัน แถมถ้าไปไล่ยิงต่อหน้าตำรวจ ดาวก็ยังจะขึ้นอีก (เป็นเหตุให้ตำรวจไล่จับเราทั้งๆ ที่เรากำลังไล่จับผู้ร้ายอยู่) ทำให้การเล่นภารกิจเสริมเหล่านี้ไม่ได้มีความสนุกเอาซะเลย ถึงแม้จะมีรางวัลมาล่อตาล่อใจแค่ไหนก็ตาม มันก็ยังดูไม่ค่อยคุ้มอยู่ดี
9. ภารกิจหลักที่ยากเกินพอดี
สำหรับข้อก่อนหน้านี้ ถึงแม้ภารกิจจะยากและน่าเบื่อสักแค่ไหน เราไม่ต้องเล่นมันก็ได้ แต่ถ้าเป็นภารกิจหลักนี่สิ ปัญหาใหญ่เลย โดยบางภาคจะมีภารกิจบางช่วงที่ยากกว่าภารกิจอื่นๆ อย่างชัดเจน หากไม่เห็นภาพ ผมขอยกตัวอย่างภารกิจบังคับ ฮ. ของเล่นใน GTA Vice City ให้ดูก็แล้วกัน โดยตัวภารกิจจะให้เราบังคับ ฮ. จิ๋วขนระเบิดไปวางตามจุดต่างๆ ภายในตัวตึกที่กำลังก่อสร้างอยู่ ( ยังฟังดูง่ายอยู่ใช่ไหมครับ ) แต่ก่อนที่จะเริ่มภารกิจเนี่ย ตัวเกมไม่ได้มีการฝึกให้เราขับยานพาหนะอย่าง ฮ. มาก่อน ครั้นเริ่มภารกิจปุ๊บก็ต้องฝึกกันตรงนั้นเลย ( การขับก็จะเก้ๆ กังๆ กว่าภาค 5 อีกครับ ) เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีเวลาจำกัดอีกต่างหาก ถ้าทำไม่ทันก็คือต้องเริ่มใหม่เท่านั้น แถมอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ภารกิจนี้สุดแสนจะยากก็คงไม่พ้น NPC คนงานภายในตึกที่มีปืนพร้อมจะยิง ฮ. จิ๋วได้ทุกขณะ บอกได้คำเดียวว่ายากเกินจะบรรยายเลยล่ะครับ
10. ตำรวจที่สุดแสนจะน่ารำคาญ
ถึงแม้จะดำเนินมาถึงภาค 5 แล้ว แต่ปัญหานี้ยังคงไม่หายไปไหน กับความน่ารำคาญของพี่ตำรวจที่จะมีความแปลกและแตกต่างกันในแต่ละภาค แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมก็คือการก่อความรุนแรงต่อหน้าตำรวจ ตั้งแต่การต่อยตี ไปจนถึงการไล่ยิงคนอื่น ฟังดูมันก็ปกติดีใช่ไหมล่ะครับที่พี่ตำรวจจะรีบเข้ามาระงับเหตุร้าย แต่อย่าลืมว่าตำรวจก็เป็นแค่เพียง A.I. ส่งผลให้มันทำอะไรแปลกๆ อย่างเช่น แทนที่ตำรวจจะช่วยเราไล่ยิงผู้ร้าย ดันกลับหันปืนมายิงเราซะอย่างนั้น หรือจะเป็น A.I. ตำรวจในภาค 5 ที่เราแค่ไปยืนมองหน้าเฉยๆ ดาวก็ขึ้นแล้ว
เป็นยังไงกันบ้างครับ มีปัญหาข้อไหนที่เคยเจอกับตัวเองบ้างหรือเปล่า ถึงแม้จะมีปัญหาชวนกวนใจอยู่อีกมากมายนอกเหนือจากนี้ แต่ผมเชื่อว่ามันไม่ได้ทำให้เกม GTA หรือน่าเล่นน้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน บางปัญหาก็แปรเปลี่ยน กลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้กับเกมนี้ได้ดีทีเดียวเชียวล่ะครับ
