คอนโซล / พีซีสกู๊ปพิเศษ

10 เกมเก่าสุดสยองที่มีกลิ่นอาย Resident Evil แบบดั้งเดิม

หากใครอยากลองหาเกมทางเลือกมาเล่นขอเชิญทางนี้

ต้องบอกเลยว่าช่วงนี้นับเป็นปีทองของเกมแนวเอาตัวรอดสยองขวัญจริงๆ ครับเพราะว่ามีเกมจำนวนมากที่จะได้กลับมามอบความขนหัวลุกกับแฟนๆ กันอีกครั้งทั้ง Resident Evil 4 และ Silent Hill 2 รวมไปถึงเกมอื่นๆ อีกมากมาย แต่แน่นอนว่าสุดยอดเกมคลาสสิกอย่าง Resident Evil ในเวอร์ชั่นดั้งเดิม ก็ยังคงเป็นเกมที่ผู้เล่นชื่นชอบและให้การสนับสนุนมาตลอด โดยวันนี้ก็ไม่พลาดขอเอาใจคอเกมเก่า แบ่งปันรายชื่อเกมที่มีกลิ่นอายแบบเดียวกันมาฝากกันด้วย แต่จะมีอะไรบ้างนั้นขอเชิญติดตามข้างล่างนี้ครับ

1. Illbleed

image 83

เกมสยองขวัญจากยุค Dreamcast ที่ผสมผสานทั้งองค์ประกอบการเอาตัวรอดในสภาพแวดล้อมสุดระทึกและความเป็นหนังเกรดบี เช่นเดียวกับมุกดาร์กคอเมดี้ ผู้เล่นจะต้องฟันฝ่าในฉากสวนสนุกผีสิงต่างๆ ที่จะมีศัตรูและกับดักแตกต่างกันไป โดยตัวละครผู้รอดชีวิตทุกคนก็สามารถเลือกเปลี่ยนได้ แถมแต่ละคนก็มีทักษะที่ไม่เหมือนกันด้วย จุดเด่นก็คือระบบอะดรีนาลีนและการควบคุมอารมณ์ ระบบการเสียเลือด ที่เราต้องดูแลให้ดี

2. Countdown: Vampires

image 82

เกมนี้ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตำรวจสายสืบ Keith ที่ต้องเดินทางไปยังสถานที่อโคจรแห่งหนึ่งที่ประกาศตัวเป็นคาสิโนในธีมหลอนๆ ทว่าระหว่างนั้นก็กลับพบว่าผู้คนในคาสิโนกลับกลายเป็นแวมไพร์และเริ่มไล่ล่าผู้รอดชีวิต ทำให้ตนเองต้องรีบหนีออกมาและช่วยเหลือทุกคนไปให้ได้ จุดเด่นของเกมคือเราสามารถช่วยเหลือผู้คนที่ติดเชื้อได้ด้วย และในเมื่อเป็นคาสิโนแบบนี้ก็มีมินิเกมอย่างตู้สล็อตหรือรูเล็ตต์ให้เล่นครับ

3. Carrier

image 81

กลับมาบนเครื่องเล่น Dreamcast อีกครั้ง สำหรับเกมนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของทีมสายสืบที่ไปข้องเกี่ยวกับคดีการเมืองและสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ โดยระบบสำคัญจะเป็นการเล็งปืนที่สามารถจ่อไปยังชิ้นส่วนของศัตรูเพื่อเชือดให้ขาดได้ หรือกล้องอินฟราเรดที่เอาไว้ใช้ตรวจดูว่า NPC ที่เราเห็นนั้นติดเชื้อหรือไม่ และต้องหยุดยั้งเครื่องบินบรรทุกสินค้านี้ก่อนที่จะลงจอดจนเหล่าอสูรกายออกมาทำลายล้างเมืองได้ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีเกมเพลย์กดดันไม่น้อย

4. Extermination

image 80

เกมที่เปิดตัวในฐานะผลงานแนวสยองขวัญเกมแรกของ Sony และเครื่องเล่น PlayStation 2 และยังมีกระสุนค่อนข้างน้อย ทำให้ผู้เล่นต้องตัดสินใจว่าจะสู้หรือจะหนีคล้ายๆ กับเกม Resident Evil ในภาคแรกเลย เนื้อหาเกี่ยวข้องกับทหารเรือที่ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากสถานที่แห่งหนึ่ง จึงเดินทางไปตรวจสอบก่อนจะพบว่ามีสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์เต็มไปหมด นอกจากนี้ผู้เล่นยังต้องระวังให้ดี คอยตรวจสอบไม่ให้ตัวเองมีเกจพลังติดเชื้อขึ้นถึง 100% ไม่เช่นนั้นจะเกมโอเวอร์ทันที

5. Nocturne

image 79

เกมสยองขวัญที่พาผู้เล่นย้อนยุคกลับไปสมัยคริสต์ทศวรรษ 1920 – 1930 โดยเราจะได้รับบทเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนลับของอเมริกันที่ต้องออกไปต่อสู้กับมอนสเตอร์สมัยก่อนอาทิ มนุษย์หมาป่า ซอมบี้ หรือแวมไพร์ ในยุโรป ก่อนจะพบกับความลับที่เขาคาดเดาไม่ถึง ซึ่งเนื้อหาในเกมยังมีการสอดแทรกบุคคลในประวัติศาสตร์จริงๆเข้าไปด้วยเหมือนกัน

6. Eternal Darkness: Sanity’s Requiem

image 78

เกมสยองขวัญแนวจิตวิทยาที่ไม่ได้แปลกแค่ส่วนของเนื้อเรื่อง เกมนี้นับเป็นเกมเครือ Nintendo เกมแรกที่ได้รับเรตติ้งระดับ M ด้วย ซึ่งผู้เล่นจะได้เดินทางในโลกมิติพิศวง ควบคุมตัวละครคล้ายกับ Resident Evil – Silent Hill แต่จะมีเกจพลังสติของตัวเองที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะตัวของ Nintendo เลย โดยถ้าหากเราพบเห็นศัตรูมากๆ หรือถูกจับจ้องจากพวกมันนานเท่าไร เกจนี้จะเริ่มต่ำลงเรื่อยๆ เมื่อใดที่สติเรากระเจิดกระเจิง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คืออาการแปลกๆ ที่เหมือนกับเกมกำลังปั่นหัวเรา 

7. The X-Files: Resist Or Serve

image 76

เกมจากซีรีส์แนวลี้ลับชื่อดัง The X-Files ที่บอกเล่าเรื่องราวโดยนำเค้าโครงเรื่องมาจากซีรีส์ซีนซันที่เจ็ดและครอบคลุมเนื้อหาจำนวนสามเอพิโซดที่ไม่ได้เข้าฉาย ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Fox Mulder และ Dana Scully ที่ไปสืบค้นคดีเกี่ยวกับการตายปริศนาของผู้คนในรัฐโคโลราโด ก่อนจะพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมที่เชื่อว่าจะสามารถใช้ชุบชีวิตคนตายได้ และเมื่อเป็นเกมจากซีรีส์คนแสดงจริงแบบนี้ ก็ยังได้รับนักแสดงผู้รับบทมาให้เสียงพากย์เช่นกัน

8. Deep Fear

image 77

กลับมาที่เครื่องเล่น Sega Saturn กับเกมแนวสยองขวัญที่ใช้ปุ่มของจอยคอนโซลรุ่นนี้ได้คุ้มค่าที่สุดเพราะทั้งหมดทุกปุ่มล้วนมีคำสั่งด้วยกันทั้งหมด และยิ่งเพิ่มความสะดวกเข้าไปใหญ่กับการเล็งปืนไปเดินไป โดยผู้เล่นจะต้องเดินทางไปยังศูนย์วิจัยใต้มหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อทำภารกิจบางอย่างแต่กลับพบว่าเกิดเหตุมนุษย์กลายพันธุ์ไล่ฆ่าผู้รอดชีวิตจึงต้องหาวิธีหนีออกมาให้ได้ ระบบที่เพิ่มเข้ามาอีกอย่างก็คือออกซิเจนที่เราต้องใช้ตลอดเวลา หากปล่อยให้อากาศหมดก็จะแพ้ตามสูตร

9. Alone in the Dark: The New Nightmare

image 74

หาก Alone in the Dark ภาคต้นฉบับเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งให้กับ Resident Evil ดังนั้น เกมภาคนี้ก็เป็นเหมือนกับการนำเกมผีชีวะมาเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองแบบเจ๊าๆ กัน ซึ่งผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Edward ที่ตั้งใจตามหาเรื่องราวเบื้องหลังการตายของเพื่อนสนิทโดยได้ศาสตราจารย์สาวอีกคนเป็นผู้ช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามระหว่างที่กำลังนั่งเครื่องบินก็กลับถูกโจมตีจนตกลงมายังชายฝั่งของเกาะแห่งหนึ่ง อันเป็นสถานที่ตั้งของคฤหาสน์ลึกลับ เกมมีการผสมผสานทั้งการเอาตัวรอดสยองขวัญและพัสเซิลเข้าด้วยกัน กลิ่นอายมาเต็มแน่นอน

10. Obscure

image 75

ฉีกแนวมาเป็นเกมเอาตัวรอดสยองขวัญที่ให้เรารับบทเป็นกลุ่มเด็กนักเรียนมัธยมที่ได้มาพัวพันกับเหตุการณ์บุคคลสูญหายและเสียงกรีดร้องประหลาด ซึ่งพวกเขาตัดสินใจที่จะขังตัวเองอยู่ในห้องเรียนหลังโรงเรียนเลิกและพบว่าเงาดำมืดกำลังคืบคลานเข้ามาหาอย่างช้าๆ จึงต้องหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเหล่าร้าย และแก้ปริศนา เพื่อเอาตัวรอดจากนรกบนดินสุดสยองนี้ให้ได้ ที่สำคัญเกมยังรองรับระบบ Co-op ให้ชวนเพื่อนๆ เข้ามาร่วมแจมกันได้ โดยสกิลแต่ละคนจะมีไม่เหมือนกันทำให้ต้องพลิกแพลงหาวิธีผสมผสานเทคนิคการเล่นของตัวเองอย่างเหมาะสม

11. (แถม) The Evil Within

image 73

อาจจะไม่ใช่เกมเก่าแต่ต้องยอมรับเลยว่าเป็นเกมที่ให้อารมณ์ Resident Evil ได้แบบแทบจะสมบูรณ์ 100% เลยโดยเฉพาะกับเกมภาคแรกที่ผสมผสานทั้งธีมไซไฟ ความสยองขวัญ รวมไปถึงเกมเพลย์อ้างอิงจาก Resident Evil 4 ที่แน่นอนว่ามาจากผู้สร้างเดียวกันคือคุณ Shinji Mikami นั่นเอง เนื้อหาของเกมเกี่ยวข้องกับตำรวจที่เดินทางไปตรวจสอบคดีฆาตกรรมหมู่ในโรงพยาบาลจิตเวชก่อนที่ตัวเองจะหลุดไปยังมิติปริศนาที่ทุกย่างก้าวอาจจะพาเขาไปสู่นรกที่ไม่มีวันลืม


เรียกได้ว่ามีเกมน่าสนใจทั้งนั้นและเกมเมอร์ยุคเรโทรก็คงจะต้องมีร้องอ๋อกันบ้างไม่มากก็น้อย ส่วนใครที่เกมอื่นๆ อยากจะแนะนำก็อย่าลืมมาแบ่งปันกันได้เช่นเคยเพื่อที่เพื่อนๆ จะได้มีเกมมาไว้ดอง… เอ้ย! ไว้เล่นกันในช่วงวันหยุดนี้ สำหรับโอกาสหน้าจะมีข่าวสารวงการเกมและเรื่องราวอะไรมาอัปเดตให้ฟังอีกนั้น ก็ขอเชิญติดตามที่นี่เช่นเคยครับผม

GantaroZX

นักเขียนข่าววิดีโอเกมที่ปากร้ายที่สุดในประเทศไทย | ผู้ใหญ่บ้านแห่ง Animal Crossing | กินเก่ง
Back to top button