10 ข้อผิดพลาดที่ผู้เล่น Stardew Valley มือใหม่ชอบทำ
ขยายคลังเก็บของ / ไม่คบหากับชาวเมือง / เห็นหนอนอย่ามองข้าม
เกม Stardew Valley วางจำหน่ายมาเกือบ 10 ปีแล้ว ผู้เล่นรุ่นแรกต่างภาคภูมิใจที่เป็นผู้เล่นระดับแนวหน้า แต่สำหรับผู้เล่นใหม่ เกมฟาร์มแสนน่ารักสไตล์อินดี้เกมนี้อาจจะซับซ้อนเกินไป โดยอัปเดต 1.6 ที่เพิ่งมาใหม่นี้ได้มีการเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ ๆ เข้ามาจำนวนมาก ทำให้มีผู้เล่นหน้าใหม่ปรากฎตัวขึ้นมามากมาย และเพื่อให้ทุกคนสามารถเล่นเกมนี้ได้อย่างราบรื่น เราได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่คุณไม่ควรทำพลาดในการเริ่มเล่นเกมนี้ครับ
10 ข้อผิดพลาดที่ผู้เล่น Stardew Valley มือใหม่ชอบทำพลาด
1. เห็นหนอนอย่ามองข้าม
ในเกมจะมีพื้นดินบางแปลงที่เห็นปลายหนอนของไส้เดือนโผล่ขึ้นมา ผู้เล่นส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นแค่ของตกแต่งน่ารัก ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันคือฟีเจอร์การล่าสมบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุ้มค่ามาก ๆ เพราะเมื่อผู้เล่นใช้จอบขุดดินตรงที่มีปลายหนอนไส้เดือนโผล่ออกมา เราอาจเจอไอเทมอย่างของโบราณสำหรับพิพิธภัณฑ์ ซึ่งสามารถนำไปบริจาคให้ Gunther เพื่อรับรางวัลตอบแทน สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้เล่นสะสมไอเทมและความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ดังนั้นอย่ามองข้ามปลายหนอนไส้เดือนเด็ดขาด!
2. อย่ามองข้ามหญ้าในฤดูใบไม้ร่วง
นี่เป็นข้อผิดพลาดที่ผู้เล่นหลายคนทำในปีแรกของการเล่น Stardew Valley โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงสัตว์ ในช่วงแรกหญ้าอาจดูน่ารำคาญ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นแหล่งหญ้าแห้งฟรีเกือบทั้งปี ยกเว้นฤดูหนาว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้และไม่ต้องพึ่งหญ้าแห้งราคาแพง (ชิ้นละ 50g) จากฟาร์มของคุณ Marnie ควรใช้เคียวเก็บหญ้ารอบฟาร์มให้หมดก่อนวันที่ 28 ของฤดูใบไม้ร่วง วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีหญ้าแห้งเพียงพอสำหรับใช้ในช่วงฤดูหนาว
3. ขยายคลังเก็บของ!
เมื่อคุณเริ่มเก็บเกี่ยวไอเทมต่าง ๆ ในเกม คุณจะพบว่าพื้นที่เก็บของในตัวละครเต็มเร็ว และอาจต้องทิ้งหรือขายไอเทมที่อาจจำเป็นต้องใช้ในอนาคต เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ควรสร้างหีบเก็บของต่าง ๆ ไว้ที่บ้าน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการอัปเกรดกระเป๋าเป้ของคุณ เพราะช่องเก็บของ 12 ช่องเต็มเร็วมากในช่วงแรก ดังนั้นการอัปเกรดเป็นกระเป๋าเป้ขนาดใหญ่ (Large Backpack) และ ดีลักซ์ (Deluxe Backpack) ที่จุของได้ 24 และ 36 ช่องตามลำดับ จะช่วยให้คุณเก็บของที่หาได้ทั้งหมด
4. คิดว่าออกเกมแล้วเซฟอัตโนมัติ
บทเรียนที่ผู้เล่นมือใหม่ Stardew Valley เจ็บปวดที่สุดคือ การเข้าใจผิดว่าเกมจะเซฟข้อมูลให้อัตโนมัติเมื่อปิดเกม จริง ๆ แล้วเกมนี้ไม่มีระบบ Check Point หรือเซฟอัตโนมัติตลอดทั้งวัน วิธีเดียวที่จะเซฟเกมได้คือการเข้านอน ซึ่งแม้การไม่เซฟจะส่งผลมากกว่าการเสียเวลาเล่นไป 1 วัน แต่เมื่อพิจารณาความเหนื่อยในการทำงานช่วงแรกของเกม การสูญเสียความคืบหน้าไปทั้งวันถือเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดอย่างมาก โดยภายในเกมนี้คุณสามารถเข้านอนได้ทุกเมื่อ ดังนั้นอย่าลืมเข้านอนก่อนปิดเกมเสมอ!
5. ลืมให้อาหารสัตว์
Stardew Valley ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นพบเจอกับความเศร้าโศกจากการที่วัวตัวโปรดของคุณอดตาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณควรปล่อยให้สัตว์อดอาหาร โดยข้อผิดพลาดที่ผู้เล่นมือใหม่มักทำคือลืมให้อาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งการให้อาหารก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ผู้เล่นวางหญ้าแห้งไว้ในรางให้อาหารที่คอกทุกวันเพื่อให้พวกมันแข็งแรง และให้ผลผลิตอยู่เสมอ และเมื่อคุณมีทุนมากพอ อย่าลืมอัปเกรดรางให้อาหารเพื่อให้มันสามารถให้อาหารสัตว์เลี้ยงได้โดยอัตโนมัติ!
6. ละเลยศูนย์กลางชุมชน (Community Center)
กลุ่มไอเทมพิเศษ (Bundles) ในเกม เป็นเควสพิเศษที่ผู้เล่นต้องรวบรวมไอเทมต่าง ๆ เพื่อมอบให้กับ จูนิมอส (Junimos) ที่มาอาศัยอยู่ในศูนย์กลางชุมชน (Community Center) ในช่วงแรก ผู้เล่นหลายคนอาจมองข้ามสิ่งเหล่านี้ โดยคิดว่ามันยุ่งยากเกินไป หรือสามารถเก็บไว้ทำทีหลังได้ แต่นี่เป็นความผิดพลาดมหันต์ โดยกลุ่มไอเทมพิเศษเหล่านี้ มีรางวัลอันมีค่าที่สามารถย่นระยะเวลาการพัฒนาฟาร์มของคุณได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น การรวบรวมกลุ่มไอเทมก่อสร้าง (Construction Bundle) สำเร็จ คุณจะได้รับเตาเผาถ่าน (Charcoal Kiln) ซึ่งจำเป็นสำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ อีกเหตุผลคือไอเทมที่คุณสามารถรวบรวมได้นั้นจะหาได้เฉพาะในบางฤดูกาลเท่านั้น อย่ารอจนถึงปีหน้าค่อยทำเพราะมันจะช้าเกินไป!
7. ไม่คบหากับชาวเมือง
มีตัวละคร NPC มากมายในเกม ที่ช่วยสร้างสีสันให้กับเกม การมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจจากงานฟาร์ม แม้ว่าการเข้าสังคมไม่ใช่สิ่งจำเป็น แต่ก็มีประโยชน์สำคัญ ๆ อยู่บ้าง ดังนั้นการพูดคุยกับชาวเมืองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยคุณสามารถมอบของขวัญให้กับชาวเมืองได้เพียง 2 ชิ้นต่อสัปดาห์ แต่คุณสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้ทุกวันเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทีละน้อย หากคุณเลือกที่จะแต่งงานก็ยิ่งไม่ควรพลาด เพราะการมีคู่ครองอยู่เคียงข้างสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของตัวละครของคุณได้ เนื่องจากคู่ของคุณจะช่วยเหลือการทำงานในฟาร์มเป็นครั้งคราว
8. ปลูกพืชใกล้กับช่วงสิ้นสุดของฤดูกาล
ด้วยฤดูกาลแต่ละฤดูกาลที่มี 28 วัน และมีกิจกรรมมากมายที่ต้องทำเพื่อให้ใช้เวลาในแต่ละฤดูกาลอย่างคุ้มค่า ผู้เล่นอาจจะมัวเพลินกับการปลูกพืชโดยลืมดูวันที่ได้ง่าย ๆ และนี่คือสิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะหากคุณปลูกเมล็ดพันธุ์ที่โตได้เพียงฤดูกาลที่กำหนดใกล้กับช่วงเปลี่ยนฤดูกาลมากเกินไป คุณจะตื่นขึ้นมาในวันที่ 1 ของฤดูกาลใหม่ และพบกับรากพืชที่แห้งเหี่ยวอยู่ในดิน อย่างไรก็ตามพืชบางชนิดสามารถเติบโตข้ามฤดูกาลได้ และจะยังคงเติบโตต่อไปเมื่อฤดูกาลใหม่เริ่มต้น ตัวอย่างเช่น ข้าวโพด ที่สามารถปลูกได้ทั้งในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง จะยังคงอยู่รอดและเติบโตต่อไปเมื่อคุณเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ฉะนั้นอย่าลืมตรวจสอบพืชที่ปลูกไว้ให้ดีด้วยนะครับ
9. ไม่สนใจความเหนื่อยล้า
หากคุณกำลังเพลิดเพลินไปกับการทำงานในฟาร์ม การละเลยสัญญาณเตือนความเหนื่อยของตัวละคร อาจเป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาด เพราะไม่เพียงแค่คุณจะเดินช้าลงมาก แต่ยังเสี่ยงที่จะหมดสติอีกด้วย และถ้าหากคุณหมดสติ วันนั้นจะจบลงทันที และผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับว่าคุณหมดสติที่ไหน คุณอาจจะได้ไอเทมบางอย่างคืน (อาจจะไม่ครบ) และจะถูกหักเงินสูงสุด 10% ของเงินทองที่มีอยู่!
10. นอนดึกเกินไป
สุภาษิตโบราณที่ว่า “นอนเร็ว ตื่นเช้า มีแรงทำมาหากิน” นั่นใช้ได้จริงใน Stardew Valley ผู้เล่นหลายคนกว่าจะรู้ตัวอีก ก็ดึกไปแล้ว และไม่ว่าคุณจะเข้านอนกี่โมง ตัวละครของคุณจะตื่นตี 6 โมงเสมอ ฉะนั้นหากตัวละครของคุณเข้านอนก่อนเที่ยงคืน พวกเขาจะฟื้นฟูพลังงานได้เต็มที่ในช่วงกลางคืน ทำให้พวกเขาสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากมายในวันถัดไป แต่ถ้าตัวละครของคุณเข้านอนหลังเที่ยงคืน พลังงานที่ฟื้นฟูจะลดน้อยลงตามเวลาที่เข้านอน ยิ่งดึกพลังงานที่ฟื้นฟูก็ยิ่งน้อยลง จนกระทั่งผู้เล่นหมดสติจากความเหนื่อยล้าที่เวลา 2 นาฬิกา การทำงานในฟาร์มนั้นเหนื่อย ดังนั้นอย่าลืมนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนะ!
Stardew Valleyวางจำหน่ายแล้วบน PlayStation 4, Xbox ONE, Nintendo Switch, PC และสมาร์ทโฟน โดยจะเป็นเกมแนวทำฟาร์มกราฟิก 16-bit ที่ให้เรารับบทเป็นชาวสวนมือใหม่ที่หนีความวุ่นวายจากในเมืองมาเริ่มต้นชีวิตในหุบเขาแสนสงบร่วมกับเพื่อนบ้านมากหน้าหลายตา ตัวเกมมาพร้อมกับฟีเจอร์การแต่งงาน ต่อสู้กับมอนสเตอร์ รวมไปถึงระบบ Multiplayer ให้ผู้เล่นร่วมกันสานฝันเกษตรกรผ่านระบบออนไลน์