10 ตัวละครที่เคย ‘แทนที่’ นักสู้เก่าในเกม Tekken

ตลอดระยะเวลาหลายปีและเกมภาคหลักจำนวน 8 ภาค แน่นอนว่าทุกตัวละครก็ไม่ได้มาปรากฏให้เล่นกันทุกภาคแต่อย่างใด โดยจะมีเพียงจำนวนหยิบมือเท่านั้นที่อยู่ยงคงกระพันตั้งแต่เกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายตัวละครแม้จะไม่ได้มาให้เล่นในภาคหลังๆ ทว่าก็ส่งไม้ต่อให้นักสู้คนอื่นๆ อีกด้วยเหมือนกัน และวันนี้ ThisIsGame Thailand จะพาทุกท่านย้อนไปชมประวัติศาสตร์การ ‘แทนที่’ ตัวละครนักสู้ต่างๆ ที่ได้รับการเปลี่ยนมือกันครับ

1. Jin ในเวอร์ชัน Tekken 3 – Tag Tournament 1 แทนที่ Kazuya

เริ่มต้นกันกับภาคสามอันเป็นหนึ่งในภาคที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดด้วยยอดจำหน่ายบน PlayStation 1 ในหลักล้าน โดยภาคนี้เป็นเหมือนแกนหลักที่ยืนพื้นเส้นเนื้อเรื่องมาสู่ภาคใหม่ๆ ถึงปัจจุบัน ซึ่ง Jin ได้ถูกนำเสนอในฐานะลูกชายของ Jun ที่เกิดกับ Kazuya ชายผู้มีความแค้นสุมอยู่ในอก จุดเด่นของเขาคือทรงผมตั้งคล้ายพ่อแต่นิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง และศิลปะการต่อสู้จะใช้การผสมผสานระหว่างสไตล์คาซามะและมิชิมะ เรียกง่ายๆ คือท่าต่อสู้รวมกันระหว่างพ่อกับแม่

ภายหลัง Jin ได้เปลี่ยนมาใช้ศิลปะการต่อสู้แบบคาราเต้ที่คล้ายมาตรฐานทั่วไป ขณะที่ Kazuya เองก็ได้กลับมาในเกมภาคสี่พร้อมมูฟเซ็ตแบบเดิมของตน โดยมูฟเซ็ตผสมผสานคาซามะและมิชิมะ ได้เปลี่ยนมาเป็นของ Devil Jin ที่มีท่าโจมตีแบบปีศาจอย่างการใช้ลำแสงทำลายล้างด้วย ถึงอย่างไรหลายคนก็คงรู้สึกคิดถึงมูฟเซ็ตต้นฉบับของ Jin อยู่ไม่น้อยแน่ๆ ครับ

2. Forrest Law แทนที่ Marshall Law

ในเกมภาคสามได้เปลี่ยนตัวละคร Law ออกชั่วคราวเป็นหนุ่มลูกชายที่ชื่อว่า Forrest แทน ตัวละครนี้ก็เป็นตัวละครเพื่อแทนที่ด้วยเหตุผลเนื้อเรื่องกันโดยเฉพาะ โดยจะใช้มูฟเซ็ตแบบเดียวกันกับ Law ในสองภาคแรก ก่อนที่ Law คนพ่อจะกลับมาในภาคสี่ ส่วน Forrest ก็ต้องรอกันนานจนถึงภาค Tag Tournament 2 ซึ่งได้แก้ไขมูฟเซ็ตบางส่วนแต่ก็ยังเล่นคล้ายกับพ่อ เรียกได้ว่าเหมาะกับการแท็กทีมคู่พ่อลูกที่ใช้การต่อสู้แบบเดียวกัน

3. Hwoarang แทนที่ Baek

ส่งไม้ต่อกับอปป้าฝั่งเกาหลีกันบ้างกับ Hwoarang และ Baek ผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แบบเทควอนโด ซึ่ง Baek เคยปรากฏในภาคสองก่อนจะกลับมาอีกครั้งในภาคห้าแต่สำหรับการเล่นภาค Tag Tournament 1 ที่มูฟเซ็ตดั้งเดิมของทั้งคู่มาอยู่ในเกมเดียวกัน จะพบว่าแม้มีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้างบางท่า ทว่า Baek จะออกแบบท่าต่อสู้ด้วยการกดปุ่มออกท่าไปเรื่อยๆ ขณะที่ Hwoarang มีลูกเล่นมากกว่าด้วยท่ายืนที่สลับไปมาเพื่อพลิกแพลงเป็นการโจมตีใหม่คาดเดายาก

4. Julia แทนที่ Michelle / J.C. แทนที่ Julia

Julia Chang เป็นลูกสาวบุญธรรมของ Michelle ที่กลายเป็นตัวละครหลักตั้งแต่เกมภาคสาม โดยจะพบว่ามูฟเซ็ตโดยรวมทั้งคู่เหมือนกันแบบแทบจะ 100% เลยครับ ดังนั้นในภาค Tag Tournament 1 ก็จะไม่เห็นความต่างเท่าไรนอกจากเรื่องความเร็วในการออกท่าและท่ายืน หลังจากภาคนั้น Julia ก็แทนที่ Michlle มาจนถึงปัจจุบันด้วยศิลปะมวยจีนเคนโป อย่างไรก็ตาม ภาค Tag Tournament 2 ทำการเปลี่ยนให้ Julia มาสวมบทบาทนักมวยปล้ำจึงได้ท่าลูชาลิเบรแบบเม็กซิกัน ส่วน Michelle ก็ดัดแปลงมาเป็นเคนโปที่อ้างอิงจาก Julia ในภาค 6 ที่เป็นภาคล่าสุด ณ ขณะนั้นอีกที

5. Christie แทนที่​ Eddie

Christie ได้แทนที่ตัวละคร Eddie เป็นเวลาชั่วคราวด้วยเหตุผลด้านเนื้อเรื่อง ซึ่งท่าโจมตีของทั้งคู่ก็เหมือนกันเลย และภาคสี่กับห้าจะเห็นว่า Eddie ได้กลายเป็นตัวละครพิเศษที่ให้เลือกจากหน้าจอของ Christie แทนได้พร้อมท่าโจมตีแบบเดียวกัน ก่อนที่จะแยกเป็นตัวละครหลักกลับมาอีกครั้งพร้อมปรับแต่งบาลานซ์ในภาคหลังจากนั้น จะว่าไปสถานการณ์นี้จะเรียกว่าแทนที่คงไม่ถูกเผง เพราะทุกภาคที่ Christie ปรากฏ Eddie ก็สามารถใช้นำมาเล่นได้ตามที่กล่าวข้างต้น

6. Asuka แทนที่ Jun

หลังจากห่างหายไปนานในปี 2005 ก็ได้มีการประกาศเปิดตัวตัวละคร Asuka Kazama ที่เป็นหลานของ Jun (ลูกของพี่ชาย) พร้อมวางตัวเป็นผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้แบบคาซามะเต็มตัวเพื่อทดแทน Jin ที่เปลี่ยนมาใช้คาราเต้มาตรฐาน โดย Asuka กับ Jun มีการใช้ท่าโจมตีหลักที่เหมือนกันราว 60 – 70% แต่แอ็กชันของ Asuka จะมีความดุเดือดมากกว่าตามประสาวัยรุ่นใจร้อน

สำหรับ Jun เอง ในภายหลังเมื่อกลับมาในภาค Tag Tournament 2 ก็ปรับเปลี่ยนท่าเดิมออกไปเกือบหมดเพื่อให้มีความแตกต่างมากขึ้น และเป็นต้นแบบให้ Jun เมื่อกลับมาในภาคแปดที่เป็นเนื้อเรื่องหลัก โดย Jun ในมูฟเซ็ตปรับปรุงใหม่ยังคงใช้ศิลปะการต่อสู้แบบคาซามะเหมือนเดิม แต่มีท่วงท่าที่อ่อนช้อยและสวยงามมากกว่าการบิดตัวหักแขนหักขาที่ตอนนี้ Asuka ใช้มูฟเซ็ตนั้นไปแล้ว

7. Master Raven แทนที่ Raven

ท่าโจมตีทั้งหมดของ Raven ได้ถูกนำมาใช้ต่อโดย Master Raven ผู้เป็นอาจารย์กันแบบแทบจะทั้งหมด ทว่าจะมีการเพิ่มท่าต่อสู้ที่ทำให้ตัวละครนี้มีความต่างกันกับ Raven อย่างน่าคาดไม่ถึงเพราะเธอมาพร้อมกับอาวุธเช่นเดียวกับอุปกรณ์ต่อสู้ที่ไม่เหมือนกัน อย่างแรกคือดาบคาตานะแทนดาบขนาดเล็ก และ Master Raven ยังใช้ท่าทางการเทเลพอร์ตได้ ท้ายที่สุดก็คือขนาดร่างกายที่ไม่ได้เป็นชายร่างใหญ่ จึงทำให้มีความลื่นไหลกว่าเดิม องค์ประกอบเหล่านี้ยังทำให้แฟนเกมหลายคนมองว่ามูฟเซ็ตนี้สมบูรณ์แบบมากขึ้นจนไม่ได้อยู่ใน Tier ต่ำอีกต่อไปด้วย

8. Josie แทนที่ Bruce

แม้ว่าจะมีการประกาศว่า Josie ใช้ท่าโจมตีด้วยศิลปะการต่อสู้ของฟิลิปปินส์ตามสัญชาติของตัวเธอ แต่ก็มีการค้นพบว่า Josie ประยุกต์คิกบ็อกซิงแบบ Bruce มาใช้ด้วย (ต่างจากฟ้าคำรามที่ใช้มวยไทยแท้ๆ) โดยสถานการณ์จะคล้ายกับ Raven ที่เปลี่ยนมาเป็น Master Raven แล้วตัวเล็กลง เพิ่มเติมด้วยการปรับระยะการโจมตีใกล้ไกล และความลื่นไหลในการใช้งานตัวละครที่ว่องไวขึ้น ขณะที่ Bruce มีท่าโจมตีแบบคอมโบที่ต่อเนื่องมากกว่า ซึ่งจุดนี้อาจเป็นเพราะตัวละครออกแบบมาตั้งแต่ภาคสองคล้าย Baek ที่การเล่นอำนวยกับการใช้ปุ่มต่อเนื่อง

9. Kunimitsu II แทนที่ Kunimitsu

ว่าตามตรง Kunimitsu II หรือลูกสาวของตัวละครต้นฉบับก็คือตัวละครที่นำเอามูฟเซ็ตจากภาค Tag Tournament 2 ของแม่ตัวเองมาต่อยอด เพราะใช้ท่าโจมตีแบบเต็ม ฮิตบ็อกซ์ร่างกายใกล้เคียงกัน และเพิ่มการโจมตีต่อเนื่องในท่าเก่าๆ ที่จบสั้นก็จะทำคอมโบยาวๆ ได้นั่นเองครับ ถือว่าเป็นการแทนที่ที่เหมาะสมเลยครับ ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วบางท่าที่นำกลับมาก็จะปรับให้ใช้งานง่ายขึ้น ไม่ต้องกดปุ่มระหว่าง Throw ด้วยเหมือนกัน

10. Reina แทนที่ Heihachi

ท้ายที่สุดก็คือตัวละครใหม่อย่าง Reina หญิงสาวปริศนาที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับความบาดหมางในตระกูล Mishima ดี โดยเธอใช้ศิลปะการต่อสู้แบบญี่ปุ่นโบราณผสมผสานด้วยหมัดที่มีพลังไฟฟ้าเข้าด้วยกัน แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือยังมีท่าโจมตีของ Heihachi อย่างการใช้หัวโหม่งด้วย ว่าแล้วก็ต้องรอดูกันเต็มๆ เลย ทั้งนี้ที่แน่ๆ แฟนเกมก็รู้สึกให้ความสนใจกับการมาถึงของหญิงแกร่งผู้นี้แล้วตั้งแต่แรกเห็นครับ

สำหรับใครที่สนใจเกมภาคใหม่อย่าง Tekken 8 ขอให้อดใจรออีกนิด เกมมีกำหนดวางจำหน่ายบน PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC ในวันที่ 24 มกราคมนี้ โดยเป็นเกมภาคต่อที่บอกเล่าเรื่องราวการทวงแค้นของ Jin ที่ตามล่า Kazuya บิดาผู้กระหายสงครามที่คร่าชีวิตปู่ของเขาไป ซึ่งเกมจะยังใช้ Unreal Engine ในการพัฒนาเช่นเดิม พร้อมระบบการต่อสู้สามมิติที่รวดเร็วเน้นกลยุทธ์ ชูโรงด้วยระบบ Heat แบบใหม่ พร้อมรองรับภาษาไทยด้วย