เกม Horror หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าเกมผี สยองขวัญสั่นประสาท ถือเป็นอีกหนึ่งแนวเกม ที่ผมเชื่อเลยว่าน้อยคนจะกล้าเล่นเพราะส่วนใหญ่เกม Horror ที่ไม่ว่าจะเป็น Survival – Horror หรือ Horror แบบเพียวๆ มันก็ล้วนมีปัจจัยนึงที่เหมือนกันทุกเกม ก็คือความน่ากลัวที่พร้อมจะกดประสาทให้ผู้เล่นอย่างเราหลอนไปตามๆ กันไม่ว่าจะเป็นซาวด์ประกอบที่ชวนขนลุก, ศัตรูที่มีทั้งความอันตรายและความน่ากลัวไปจนถึงบรรยากาศของเกมที่ชวนให้เรากดดัน เรียกได้ว่าองค์ประกอบเหล่านี้มันก็เป็นเหมือนสูตรสำเร็จที่เกม Horror ดีๆ ทุกเกมจะมีคล้ายๆ กันทำให้เกมแนวนี้หากคุณไม่ชอบก็คงต้องแขยงไปโดยปริยายและในวันนี้หากคุณเป็นแฟนเกมแนว Horror ผมก็ขอนำเสนอ 10 เกมสยองขวัญที่น่าจับตามองในปี 2021 จะมีเกมอะไรบ้างมาเริ่มไล่ดูกันเลย
1. Back 4 Blood
หากคุณกำลังโหยหาเกมเดินยิงสไตล์ Left 4 Dead อยู่แต่ก็ไม่มีเกมไหนมาทดแทนได้ Back 4 Blood ก็คือเกมใหม่ที่จะชวนให้คุณได้ว้าวอีกครั้ง เพราะนอกจากมันจะเป็นเกมที่มีระบบการเล่นที่เราคุ้นเคย มันก็ยังเป็นผลงานล่าสุดจากทีมงาน Turtle Rock Studio หรือก็คือทีมงานที่เคยฝากผลงาน Left 4 Dead ไว้ให้กับพวกเรานั่นเองแต่ถึงแม้ว่าเกมใหม่ของพวกเขาจะมีเกมเพลย์คล้ายของเดิมแต่ใน Back 4 Blood มันก็เป็นการนำระบบเก่ามาขัดเกลาใหม่ แถมยังมีการเพิ่มคอนเทนท์เข้ามาไม่ว่าจะเป็นซอมบี้ที่มีหลายชนิดมากขึ้น รวมไปถึงตัวละครที่มีให้เลือกมากกว่าเดิม ซึ่งหากไม่มีอะไรขัดข้องในปีนี้ Back 4 Blood จะวางขายให้เราได้เล่นกันในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้
2. Dying Light 2
เลื่อนได้เลื่อนดีเลื่อนอีกทีก็คงมีลืมกันบ้าง Dying Light 2 คือเกมภาคใหม่ที่สานต่อความสำเร็จจากเกมภาคแรก ที่เคยฝากความประทับใจไว้ให้กับเหล่าแฟนๆ ด้วยเกมเพลย์ที่เป็นเอกลักษณ์บวกกับจักรวาลที่น่าสนใจ ซึ่งหากย้อนกลับไปในช่วงที่ Dying Light 2 ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน E3 ปี 2018 มันก็ได้สร้างกระแสความ Hype ในหมู่แฟนๆ อย่างมากเพราะด้วยตัวอย่างและปมเรื่องของเกมภาคนี้ มันก็มีความเข้มข้นน่าค้นหาไม่แพ้เกมภาคแรก แต่จวบจนถึงทุกวันนี้หากคุณเป็นคนที่ติดตามข่าวสารเกมเป็นประจำ ก็คงจะทราบกันดีว่าข่าวเกี่ยวกับเกมภาคใหม่เกมนี้มันก็แทบจะไม่มีเรื่องดีๆ เอาซะเลย แต่สุดท้ายเราก็ต้องมารอดูกันว่า Dying Light 2 จะออกมาให้เราได้เล่นกันเมื่อไหร่
3. Little Nightmares 2
หลังจากความตราตรึงที่ฝากไว้กับเหล่าแฟนๆ ในเกมภาคแรก Little Nightmares 2 ก็เป็นการสานต่อเรื่องราวเดิม โดยในเกมภาคใหม่นี้ก็ยังคงกลิ่นอายความน่ากลัวชวนขนหัวลุกตามแบบฉบับเกมภาคแรกและเกมการเล่นที่ยังคงมีแก่นหลักเป็น Platforming ผสมกับ Puzzle เหมือนเกมภาคก่อนแต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาใน Little Nightmares 2 ก็คือเหล่าศัตรูชนิดใหม่ที่พร้อมจะไล่ล่าเราอย่างไม่ปรานีพร้อมฉากใหม่ที่รอให้เราได้สำรวจ และหากคุณอยากจะลิ้มลองดูว่าเกมนี้มันดีอย่างไร และล่าสุด Little Nightmares 2 ก็ปล่อย Demo ออกมาให้เราลองกันอีกด้วยนะ
[พรีวิว] สัมผัสแรก Little Nightmares II ฝันร้ายในโลกใบเล็ก
4. Martha Is Dead
ในตอนแรก Martha Is Dead เคยถูกประกาศไว้ว่าจะเป็นเกม Exclusive ที่ลงให้กับเครื่อง PS5 เท่านั้นแต่ผ่านไปไม่กี่เดือนก็เหมือนว่าตัวเกมจะเปลี่ยนไปลงให้กับเครื่อง Xbox Series X แต่สุดท้ายทางค่ายเกมก็ได้ออกมาประกาศว่าตัวเกมจะลงให้กับเครื่องคอนโซลทั้งสอง (วกวนชวนงงจริงๆ) Martha Is Dead เป็นเกม Horror ที่มีเซ็ตติ้งในยุคสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งนอกจากธีมที่น่าสนใจ ตัวเกมก็ยังมีการจั่วหัวไว้ด้วยว่าจะเป็นเกมแบบ psychological horror หรือก็คือเกมที่น่ากลัวโดยไม่ต้องเหล่าภูตผี ซึ่งหากตัวเกมจริงมันหลอนได้เหมือนในวิดีโอตัวอย่าง Martha Is Dead ก็เป็นอีกหนึ่งเกมสยองที่น่าจับตามองอยู่เหมือนกัน
5. The Medium
The Medium ถือเป็นเกม Horror ไตเติ้ลใหญ่เกมแรกของปี 2021 ส่งตรงจากทีมงาน Bloober Team ผู้เคยฝากผลงานเกมสยองอย่าง Observer ในปี 2018 , Layers of Fear 2 กับ Blair Witch ในปี 2019 และมาในปีนี้กับผลงานล่าสุดของพวกเขาอย่างThe Medium ที่นอกจากจะเป็นเกมใหม่ที่มามีกราฟิกสวยงามกว่าเกมก่อนๆ เกมเพลย์ของ The Medium ก็เรียกได้ว่าแปลกและแหวกกว่าเกมไหนๆ อย่างการให้เราสามารถที่จะสำรวจพื้นที่ระหว่างมิติได้แบบเรียลไทม์คล้ายๆ กับการวาร์ปไปมาระหว่างมิติธรรมดากับโลกสนิมใน Silent Hill ไม่มีผิดเพี้ยนและถ้าหากคุณสนใจ The Medium จะเป็นเกมที่ลงให้เฉพาะ Xbox Series X เท่านั้นนะเออ (ผมแฟนนี่ PS น้ำตาตกเลย)
6. The Outlast Trials
ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมานี้ซี่รี่ส์อย่าง Outlast ก็ได้กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจในหมู่เกมเมอร์สาย Horror พร้อมทั้งได้รับคำชื่นชมว่ามันเป็นหนึ่งในซี่รี่ส์เกมที่น่ากลัวมากที่สุดอีกหนึ่งราย (ผมสายดูยังกลัว) ซึ่งมันก็ยืนยันด้วยผลงานก่อนหน้าของพวกเขา ตั้งแต่เกมภาคแรกจนถึงภาคล่าสุดความน่ากลัวของ Outlast ก็แลดูจะไม่ลดละลงเลยสักนิด แต่สำหรับผลงานใหม่ของทีมงานอย่าง The Outlast Trials จะมีความแตกต่างออกไปจากเกมก่อนหน้าอย่างการที่ตัวเกมจะเน้นไปทาง Multiplayer ไม่ใช่ Singleplayer ซึ่งในเวลานี้รายละเอียดของเกมยังไม่มีการเปิดเผยมากนักนอกจากช่วงวางจำหน่ายที่ทาง Red Barrels ได้เคยประกาศไว้ว่าจะเป็นในช่วงปี 2021 นี้และจะมี Outlast 3 ตัวเกมภาคหลักที่จะออกตามมาในภายหลัง (แต่ตอนนี้เกมก็ยังไม่ประกาศว่าลงแพลตฟอร์มอะไรด้วย)
7. Rainbow Six Quarantine
ถ้าคุณคิดว่าโรคเลื่อนของ Dying Light 2 ว่าหนักแล้วผมก็ขอเสนอโรคเลื่อนแบบขั้นกว่าอย่าง Rainbow Six Quarantine เกมที่ถูกเลื่อนจนลืมของจริงเพราะหลังจากที่มันประกาศเปิดตัวไปในปี 2019 ณ ตอนนี้เราก็ยังไม่ทราบว่าชะตากรรมของเกมนี้ว่าเป็นอย่างไร (ไม่รู้ว่าเลิกทำไปหรือยัง) Rainbow Six Quarantine คือเกม Stand Alone ที่จะเป็นการหยิบ Event ซอมบี้จากตัวเกมหลักมาขยายให้กลายเป็นเกมภาคแยก ซึ่งในเกมภาคนี้จะเน้นหนักไปทาง Co-op ที่ผู้เล่นจะสามารถจัดทีมสามคนเพื่อลุยกับเหล่าฝูงซอมบี้และทำภารกิจในแต่ละฉากให้สำเร็จ แต่ในเวลานี้นอกจากเกมการเล่นที่ว่าไปข้อมูลของ Rainbow Six Quarantine ก็ไม่มีอะไรให้ตามต่อสักเท่าไหร่
8. Resident Evil 8
หลังจากที่วนกลับไปทำ Remake ตั้งสองภาคในเวลานี้ทาง Capcom ก็ได้กลับทำเกมภาคหลักสักทีกับผลงานใหม่ล่าสุดของพวกอย่าง Resident Evil 8 ที่มีแผนจะออกวางจำหน่ายในช่วงปี 2021 นี้สำหรับคอนโซลยุคใหม่ (และน่าจะมีของเจนเก่าด้วย) โดยเกมภาคนี้จะเป็นการดำเนินเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์ใน Resident Evil 7 และเรายังคงรับบทเป็น Ethan Winters ที่ในคราวนี้ตัวของเขาต้องเข้าไปเผชิญอันตรายในหมู่ผ่านปริศนาแห่งหนึ่งด้วยสาเหตุบางอย่าง และอีกหนึ่งไฮไลของเกมภาคนี้ก็คือการปรากฏตัวอีกครั้งของ Chris Redfield ที่ในตอนนี้เราก็ยังไม่ทราบว่าเขาคนนี้มาดีหรือร้ายกันแน่ ซึ่งหากใครเป็นแฟนซี่รี่ส์ Re ผมก็ขอบอกเลยว่าเกมนี้ห้ามพลาด
9. Returnal
Returnal คือผลงานใหม่จากทีมงาน Housemarque สตูดิโอฟอร์มเล็กที่มีจุดเด่นในด้านการทำเกมสไตล์ Twin Stick Shooter ซึ่งเกมส่วนใหญ่ของทีมงานก็ล้วนเป็นเกมสเกลเล็กทั้งนั้น แต่สำหรับเกมใหม่ของพวกเขาอย่าง Returnal มันก็เหมือนจุดเปลี่ยนสำคัญของทีมงาน เพราะเกมนี้จะมีสเกลและทุนสร้างที่มากกว่าครั้งไหนๆ Returnal เป็นเกมในรูปแบบ Third person shooter ที่จะมีการใส่ความเป็น psychological horror โดยภายในเกมผู้เล่นจะได้ออกสำรวจบนดวงดาวเอเลี่ยนสุดประหลาดและนอกจากเรื่องเกมการเล่นที่ว่าไป Returnal ก็ยังเป็นเกมที่คงลายเส้นทีมงาน Housemarque ไว้อย่างครบถ้วนทั้งเรื่องการใช้การออกแบบที่ใช้สีฉูดฉาดและงานภาพที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ประเด็นก็คือเกมนี้มันจะมีความเป็น Horror มากแค่ไหนเราก็ต้องรอดูกันต่อไป
10. Scorn
หลังจากที่ประกาศเปิดตัวไปในปี 2016 วันวางจำหน่ายของเกมก็น่าจะไม่พ้นปี 2021 นี้ Scorn เป็นเกมสไตล์ Sci-Fi Horror มุมมอง FPS ที่จะเปิดโอกาสให้เราได้สำรวจดวงดาว. เอเลี่ยน (อีกแล้ว) ซึ่งจุดเด่นของ Scorn ก็คือความน่ากลัวที่นำเสนอผ่านความ Gore หรือก็คือการแสดงให้เห็นถึงความแหวะน่าขยะแขยงของสิ่งต่างๆ รอบตัวเราเรียกได้ว่าถ้าใครเป็นสายเสพงานสไตล์ Graphic Horror ที่เน้นความเหวอะหวะเลือดสาดเข้าว่าเกมอย่าง Scorn ก็น่าจะเป็นที่ตอบโจทย์ไม่น้อย แต่ถึงอย่างการจะได้เล่นเกมนี้ก็อาจจะยากไปซะหน่อย เพราะมันก็ลงให้แค่ Xbox Series X เท่านั้นในตอนนี้
แม้ในปีนี้อาจจะดูเงียบเหงาหากเทียบกับปีก่อนที่มีเกมใหม่จ่อคิวกันอย่างหนาแน่น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ใช่ว่าจะไม่มีเกมฟอร์มใหญ่ให้เราได้เล่นในปีนี้ซะทีเดียวเพราะเกมอย่าง RE 8 ที่เป็นเกมภาคต่อของจักรวาลหลัก RE ส่วนตัวผมก็คิดว่ามันเป็นเกม Survival – Horror ที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะนอกจากมันจะเป็นเกมภาคใหม่สานต่อจักรวาลหลักแล้ว เราก็ยังได้เห็นอดีตตัวเอกอย่าง Chris Redfield ได้กลับมามีบทบาทอีกครั้งหรือจะเป็นเกมอย่าง Back 4 Blood ที่เป็นเหมือนผู้สืบทอดความยอดเยี่ยมของ Left 4 Dead ก็มีแพลนในการวางจำหน่ายปีนี้อีกเช่นกัน ซึ่งหากคุณเป็นเกมเมอร์ที่ชื่นชอบเกมน่ากลัวหรือเป็นสายเสพความ Horror ก็ควรเตรียมเงินให้พร้อมเพราะแต่ละเกมที่ออกมาก็มีคุณภาพน่าลองทั้งนั้นเลย
