ข่าว

สื่อนอกวิเคราะห์สาเหตุที่ Monster Hunter Wilds ไปได้สวยกว่า Dragon Age: The Veilguard

ทั้ง ๆ ที่ทั้ง 2 เกมเจาะตลาดใหม่เหมือนกัน

ในวงการเกม RPG ช่วงนี้ มีสองเกมที่ถูกพูดถึงอย่างมาก นั่นคือ Monster Hunter Wilds และ Dragon Age: The Veilguard ทั้งสองเกมต่างพยายามขยายฐานผู้เล่นด้วยการปรับปรุงให้เข้าถึงง่ายขึ้น แต่ผลลัพธ์กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สื่อต่างประเทศได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ Monster Hunter Wilds ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในขณะที่ Dragon Age: The Veilguard กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

Monster Hunter Wilds เป็นภาคใหม่ล่าสุดของซีรีส์เกม RPG ที่มีมายาวนาน และเป็นภาคที่เข้าถึงง่ายที่สุดในแฟรนไชส์ แม้ว่าอาจสูญเสียเอกลักษณ์บางส่วนไปจากการปรับปรุงเกมแนวนี้ แต่ทีมพัฒนาได้ยอมแลกสิ่งนั้นเพื่อหวังที่จะเข้าถึงผู้ชมที่กว้างขึ้น ในขณะที่ Dragon Age: The Veilguard ก็ยอมแลกเอกลักษณ์บางส่วนเพื่อหวังที่จะเข้าถึงผู้ชมที่กว้างขึ้นเช่นกัน แต่ผลลัพธ์ของทั้งสองเกมกลับแตกต่างกันอย่างมาก

Monster Hunter Wilds ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมียอดขายถึงแปดล้านชุดในสามวันแรก ทำให้เป็นเกมที่ขายได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Capcom แซงหน้าสถิติเดิมของ Monster Hunter World ที่ทำไว้ห้าล้านชุด ในขณะที่เขียนข่าวนี้ Wilds ยังคงเป็นเกมขายดีอันดับหนึ่งบน Steam และมีแนวโน้มว่าจะอยู่ในสิบอันดับแรกไปอีกนาน แม้ว่าเราจะไม่ต้องการนับไก่ก่อนที่จะฟัก แต่ก็ปลอดภัยที่จะกล่าวว่าการเดิมพันนั้นได้ผล Capcom ได้เข้าถึงผู้ชมที่เคยกลัวชื่อเสียงที่ไม่เป็นมิตรของเกมภาคก่อนๆ และดึงดูดพวกเขาด้วยการเริ่มต้นที่คล่องตัว การต่อสู้ที่ง่ายขึ้น และการเน้นเรื่องราวและตัวละครมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน Dragon Age: The Veilguard มียอดขายเพียง 1.5 ล้านชุดในไตรมาสแรก ตัวเลขที่ต่ำนั้นน่าประหลาดใจ เนื่องจาก Veilguard มียอดเปิดตัวบน Steam ที่ดีที่สุดของ EA สำหรับเกมเล่นคนเดียว โดยมีผู้เล่นพร้อมกัน 70,000 คนในวันเปิดตัว แต่ดูเหมือนว่าการเปิดตัวที่แข็งแกร่งนั้นเกิดจากแฟนๆ Dragon Age ที่มารวมตัวกันจำนวนมากด้วยความรักในซีรีส์และรีวิวที่ดีจากสื่อนอก แต่เมื่อผู้เล่นได้สัมผัสเกมจริง ๆ กระแสก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และ Veilguard ก็ไม่สามารถเข้าถึงกระแสหลักได้

Monster Hunter Wilds รุ่ง Dragon Age: The Veilguard ร่วง เพราะอะไร?

สื่อนอกวิเคราะห์สาเหตุที่ Monster Hunter Wilds ไปได้สวยกว่า Dragon Age: The Veilguard

การพยายามขยายฐานผู้เล่นไปสู่กลุ่มกระแสหลักเป็นกลยุทธ์ที่ทั้ง Monster Hunter และ Dragon Age เลือกใช้ แต่ผลลัพธ์กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เหตุใด Monster Hunter Wilds จึงประสบความสำเร็จ ในขณะที่ Dragon Age: The Veilguard กลับล้มเหลว? Andrew King จากเว็บไซต์ The Gamer ได้มาไขข้อสงสัยนี้ให้เราได้ติดตามกัน

“คำตอบอยู่ที่การรักษาแก่นแท้ของซีรีส์ Monster Hunter Wilds ยังคงนำเสนอประสบการณ์ที่คุ้นเคยสำหรับแฟน ๆ แม้จะมีการเพิ่มองค์ประกอบด้านเนื้อเรื่องและตัวละครเข้ามาก็ตาม วงจรการเล่นหลักอย่างการล่าสัตว์ประหลาด เก็บเกี่ยวชิ้นส่วน และสร้างอุปกรณ์ ยังคงอยู่ครบถ้วน แต่มาพร้อมกับการเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายขึ้น ความยากที่ลดลง และเนื้อเรื่องที่น่าติดตามมากขึ้น ความซับซ้อนของเกมยังคงอยู่ ผู้เล่นยังคงต้องฝึกฝนอาวุธ เรียนรู้ระบบสกุลเงิน การประดิษฐ์ และการต่อสู้ที่ต้องใช้กลยุทธ์” King อธิบาย

King อธิบายต่อว่าในทางกลับกัน Dragon Age: The Veilguard กลับละทิ้งองค์ประกอบที่ทำให้ซีรีส์นี้โดดเด่น เกมถูกปรับให้เรียบง่ายขึ้นในทุกด้าน โลกเปิดถูกแทนที่ด้วยโครงสร้างแบบด่านที่เส้นตรง ตัวเลือกบทสนทนาที่ตื้นเขิน การต่อสู้ที่เรียบง่าย และเนื้อเรื่องที่ถูกลดทอนลง เกมให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเกมบริการสดที่ขาดรายละเอียดและความลึกซึ้ง

Sweet Baby Had No Hand in Dragon Age: The Veilguard

“ในขณะที่ BioWare ปรับ Dragon Age ให้กลายเป็นเกม RPG สำหรับผู้เล่นทั่วไป Larian Studios กลับนำเสนอ Baldur’s Gate 3 ที่มีความซับซ้อนกว่า ผู้เล่นที่ผิดหวังกับ Veilguard สามารถหันไปเล่น Baldur’s Gate 3 แทนได้” King ยกตัวอย่างที่น่าสนใจ “แต่ Monster Hunter กลับไม่มีคู่แข่งที่ชัดเจน การที่ Dauntless คู่แข่งอินดี้ประกาศปิดตัวลงยิ่งทำให้ Monster Hunter ครองตลาดแต่เพียงผู้เดียว การได้เล่นเกม Monster Hunter แบบเข้มข้น 90% ยังดีกว่าการไม่มี Monster Hunter เลย”

การทำให้เกมเข้าถึงง่ายขึ้นไม่ใช่กลยุทธ์ที่เหมาะกับทุกเกมแต่ Monster Hunter ประสบความสำเร็จเพราะยังคงรักษาความลึกซึ้งและมีส่วนแบ่งการตลาดที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ Dragon Age กลับตัดทอนองค์ประกอบหลักของซีรีส์มากเกินไปจนทำให้สูญเสียเสน่ห์ไป การปรับปรุงเกมให้เข้าถึงง่ายเกินไปอาจเป็นดาบสองคมที่คร่าชีวิตซีรีส์ได้

Monster Hunter Wilds นำเสนอประสบการณ์ล่าสุดให้กับเหล่าฮันเตอร์ ร่วมผจญภัยไปยังดินแดนรกร้างอันกว้างใหญ่ สัมผัสความตื่นเต้นกับระบบ Multi-dimensional Biomes ที่ทำให้ไบโอมแต่ละแห่งเปลี่ยนแปลงไปมาอย่างคาดเดาไม่ได้ เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดหลากสายพันธุ์ พร้อมร่วมทีมค้นคว้าค้นหาความลับของดินแดนแห่งนี้ โดยเกมภาคนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทั้งผู้เล่นหน้าใหม่และแฟนพันธุ์แท้ ด้วยระบบเกมเพลย์ที่ลื่นไหล กราฟิกสุดอลังการ และเนื้อเรื่องเข้มข้น ซึ่งเกมดังกล่าววางจำหน่ายแล้วบน Xbox Series X/S, PS5 และ PC

ที่มา
thegamer

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button