ผู้กำกับ The House of the Dead เผยบอสที่ชอบที่สุดในเกม

ใครที่มีโอกาสได้สัมผัสความสนุกของเกมตู้อาร์เคดในยุครุ่งเรืองช่วง 90 คงต้องเคยเห็นเครื่องเล่นเกม The House of the Dead ผ่านตากันบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งเกมแฟรนไชส์นี้ก็ถือเป็นอะไรที่ได้รับความนิยมมากๆ เพราะผสมผสานอารมณ์สยองขวัญ เข้ากับแอ็กชันยิงปืนได้อย่างลงตัวด้วยจอยเกมรูปปืนที่เราสามารถสาดกระสุนใส่ผีในจอเกมได้อย่างสมจริง และแม้จะหายไปช่วงหนึ่ง แต่ในที่สุดก็มีเกมภาคใหม่มาแล้วเมื่อไม่นานมานี้และภาคแรกยังได้รับการรีเมคด้วย

ล่าสุด เว็บไซต์ Website of the Dead ซึ่งเป็นศูนย์รวมของแฟนเกมซีรีส์นี้ก็ได้รับโอกาสในการสัมภาษณ์คุณ Takeshi Oda ผู้กำกับของซีรีส์ว่าด้วยเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวเกมด้วย โดยเขาได้เปิดเผยถึงคอนเซปต์เกมว่าที่จริงแล้วสิ่งที่เป็นอิทธิพลในการออกแบบคือ ภาพยนตร์เรื่อง Seven เซเว่น เจ็ดข้อต้องฆ่า เป็นหลัก ไม่ใช่แค่หนังซอมบี้ทั่วไป แต่ที่หลายคนคงมีคำถามอยู่ในใจกันมานาน คงเป็นอะไรไปไม่ได้ครับนอกจากความเห็นที่ว่า ‘บอสตัวไหน เป็นที่โปรดปรานของตนมากที่สุด’

ศัตรูที่รัก อยู่ในเกม The House of the Dead 2 นั่นเอง

เขามองว่าบอสที่ตนเองชื่นชอบมากที่สุดก็คือ Strength จากเกมภาคสอง ซึ่งมันมีลักษณะเป็นเหมือนกับยักษ์ขนาดใหญ่พร้อมกับเลื่อยยนต์และความเร็วในการโจมตีที่สูงมากๆ รวมไปถึงท่าทีบ้าคลั่งไล่ล่าตัวเอกแบบไม่ลดละ โดยเหตุผลที่ตนชอบมากก็คือตัวละครนี้มีอารมณ์ความรู้สึกที่น่ากลัวเนื่องจากมันสร้างความกดดันเวลาผู้เล่นจะต้องถูกวิ่งตามและยังเหวี่ยงเลื่อยไปมาแบบเดาไม่ถูกว่าจะมาไม้ไหนกันแน่

หากยังจำกันได้ บอสตัวนี้ได้ปรากฏตัวในเกมถึงสองฉาก โดยการมาถึงครั้งแรกคือเราจะเห็นคัตซีนสั้นๆ ที่ Amy และ Harry พรรคพวกฝ่ายสนับสนุนกำลังต่อสู้กัน ก่อนที่ในฉากต่อสู้จริงจะเริ่มต้นขึ้นในตอนถัดมา ผู้เล่นจะวิ่งหนีมันในเขาวงกตขนาดใหญ่ และอีกฝ่ายเองก็แข็งแรงมากๆ ด้วย ซึ่งการต่อสู้ก็ลำบากพอตัวเพราะจุดอ่อนนั้นมักจะโดนปัดป้องอยู่ตลอด แถมยังอึดชนิดที่ฆ่าไม่ตายได้ง่ายๆ แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับชอบตัวไหนลองมาแลกเปลี่ยนกันได้นะ

สำหรับ เกมภาคนี้ได้มีการเปิดให้เล่นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนปี 1998 บนระบบอาร์เคดก่อนที่จะเริ่มวางจำหน่ายบนเครื่องเล่น Dreamcast กับ PC และพอร์ตอีกครั้งบนเครื่องเล่น Nintendo Wii ตัวเกมได้รับความนิยมมากในหลายประเทศด้วยเส้นทางการเล่นที่สามารถแตกกิ่งก้านสาขาไปได้หลากหลายแบบตามการกระทำของผู้เล่น และยังเป็นเกมต้นแบบสำหรับซีรีส์ภาคเสริม Typing of the Dead ที่เป็นเกมพิมพ์ดีดเช่นกัน