ชุมชนผู้เล่นกำลังคืนชีพระบบดาวเทียม Super Famicom Satellaview
บริการเฉพาะญี่ปุ่นที่เปิดให้ใช้งานในช่วง 1995 - 2000
แม้ว่าเครื่องเล่น Super Famicom จะโด่งดังมากๆ ในบ้านเราจนมีชื่อติดปากว่า ‘ซูเปอร์’ อย่างที่เด็กหนวดชื่นชอบกัน แต่ต้องยอมรับว่าอุปกรณ์เสริมสำหรับคอนโซลรุ่นนี้เป็นอะไรที่หายากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Super Scope หรือเมาส์ ก็ล้วนห่างไกลจากความทรงจำของเกมเมอร์รุ่นเดอะ ดังนั้น Satellaview ตัวเชื่อมดาวเทียมก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะทั้งมีราคาสูงไม่คุ้มนำเข้า และในทางซอฟต์แวร์แล้วสัญญาณยังไม่ครอบคลุมถึงไทย
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำว่า Satellaview เป็นบริการของ Super Famicom ที่มีระยะเวลาให้บริการตั้งแต่ปี 1995 จนถึง 2000 สังเกตได้ว่าแม้จะดูสั้นๆ แต่ก็กินเวลาจนเกือบจบเจ็นเนอเรชันการสนับสนุนของ Nintendo 64 ที่เป็นเครื่องรุ่นใหม่อีกรุ่น โดยในยุคนั้นคนญี่ปุ่นจะสามารถทำเรื่องขอรับสมาชิกเพื่อนำเครื่องต่อสัญญาณดาวเทียมมาติดตั้งที่บ้านพร้อมจ่ายค่าบริการที่ก็สูงอยู่เหมือนกัน รับชมคอนเทนต์เช่นการปล่อยเกมฟรีตามช่วงเวลาให้เล่น (หนึ่งในนั้นมี Zelda ภาคแรกเวอร์ชันรีเมค), อ่านหนังสือนิตยสารเกมฟามิตสึ หรือฟังวิทยุจากดาราที่แวะเวียนมาพูดคุย
แน่นอนว่าถึงไอเดียจะดูดีมากๆ แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่รวดเร็วทำให้อินเทอร์เน็ตมีบทบาทในแวดวงวิดีโอเกมมากขึ้น Satellaview จึงถูกลดบทบาทลงไป แต่วันนี้ทางชุมชนผู้เล่นก็เกิดปิ๊งไอเดียใหม่อย่าง Satellaview+ (Plus) เพื่อนำคอนเทนต์เก่าๆ กลับมาให้บริการในรูปแบบเดียวกันคือมีตารางออกอากาศชัดเจน ให้ทุกคนสามารถสนุกกับรายการคอนเทนต์ต่างๆ ได้แล้วโดยไม่ต้องปล่อยดาวเทียมขึ้นไปบนอวกาศแต่อย่างใด
หลักการทำงานของ Satellaview+ คือจะไม่ได้มีการเชื่อมต่ออะไรมากมายเหมือนสมัย 1995 แต่ว่าผู้เล่นจะต้องดาวน์โหลดโปรแกรมจำลองการใช้งานมาเอง และตั้งค่ารับข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตผ่านเซิร์ฟเวอร์ของทีมงานที่จะมีคนดูแลผังตาราง เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็สามารถเข้าไปในตัวเมนูหลักที่ออกแบบตามเวอร์ชันต้นฉบับคือมีอวาตาร์ของเราเดินไปมาในเมืองแบบ 16-bit เข้าไปยังตึกต่างๆ ที่จะเป็นเมนูเช่นเข้าเล่นเกม Mario World หรือซื้อสินค้าเป็นต้น ทั้งนี้อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่การสนับสนุนอย่างเป็นทางการจาก Nintendo นะครับ เอาเป็นว่าดูเชิงศึกษาแทน ว่าแล้วลองมาชมตัวอย่างกัน
สำหรับ Super Famicom มีการวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1990 โดยมีจุดเด่นเรื่องพัฒนาการด้านกราฟิกกับเสียงดนตรี รวมไปถึงการประมวลผลที่ดียิ่งขึ้นในระดับ 16-bit และกลายเป็นเครื่องเล่นเกมที่มีการปูรากฐานเกมดังๆ ให้มากมายทั้ง Street Fighter หรือ The Legend of Zelda ที่มีเนื้อหาชัดเจนขึ้น เช่นเดียวกับเกม RPG จากค่าย Square Soft และ Nintendo โดยสามารถทำยอดจำหน่ายทั่วโลกได้ที่ 49.1 ล้านเครื่องทั่วโลก สำหรับใครที่อยากเล่นเกมฮิตจากเครื่องนี้สามารถเข้าไปยังแอปพลิเคชัน Nintendo Switch Online – SNES ได้แล้ว ส่วนเพื่อนๆ คนไหนที่เคยมีโอกาสใช้ Satellaview ตั้งแต่แรกลองมาพูดคุยกับ ThisIsGame Thailand ได้นะ
