เอกสารหลุดชี้ Sony กำลังรู้สึกหวาดกลัวกับโมเดลธุรกิจ Game Pass จริง

กลายเป็นข่าวใหญ่ส่งท้ายปีแล้วครับสำหรับการถูกเจาะข้อมูลครั้งใหญ่ของค่าย Insomniac Games ภายใต้เครือ Sony ที่แม้จะเป็นค่ายขนาดเล็กแต่ก็เป็นเหมือนกับที่รักของเกมเมอร์รวมไปถึงคนดังในวงการเกมเนื่องจากก่อนได้รับการเข้าซื้อก็มีการร่วมมือพัฒนาเกมให้ค่ายใหญ่ค่ายอื่น และบุคลากรในทีมเองก็ไม่ได้อยู่ขั้นปากแซ่บจนโดนผู้เล่นเขม่น ดังนั้นเมื่อถูกทำร้ายกันก็จึงมีผู้โอบรับช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องแบบไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีการค้นพบหนึ่งในเอกสารสำคัญเกี่ยวกับ Sony ซึ่งหลุดมาพร้อมกันกับ Insomniac Games ด้วย โดยมีการระบุว่า หลังจาก Microsoft เข้าซื้อค่าย Activision Blizzard สำเร็จ พวกเขาคาดว่านับตั้งแต่ปี 2027 หรือประมาณ 3-4 ปีต่อจากนี้ ภัยครั้งใหญ่ที่ Sony กลัวก็จะเริ่มมาถึง นั่นคือในส่วนของคอนโซลอาจจะมีการเปลี่ยนมือผู้ถือครองตลาดจากเดิมที่ PlayStation ยืนหนึ่งก็กลายเป็น Xbox แทน เช่นเดียวกับกับโมเดลธุรกิจ Game Pass ที่จะเบียดตัวเองจาก PS+ ตก 

หากสังเกตในสไลด์ที่หลุดออกมา จะพบว่าถึงอย่างไรพวกเขาก็ยืนยันว่าจะไม่ทำโมเดลธุรกิจนี้ตามเนื่องจากมีการลงทุนพัฒนาเกมอย่างหนักจนค่าบริการรายเดือนรูปแบบนี้ไม่สามารถครอบคลุมได้ อีกทั้งใจดีสู้เสือขายเกมประสบการณ์พรีเมียมอย่างเดียวไปยาวๆ แต่นั่นก็เป็นดาบสองคมเพราะผู้เล่นก็จะมีตัวเลือกที่ชัดเจนขึ้นว่าพวกเขาต้องการเกมระดับ AAA ในราคาที่เข้าถึงง่ายหรือเปล่า และถ้าว่าตามตรงเสาหลักการสร้างรายได้ของ Sony นั้น ‘ตกยุค’ และต้องได้รับการขยับขยายโดยด่วน

ความกลัว Game Pass อีกหนึ่งสิ่งที่พวกเขานำมาพูดถึงก็คือ หลังจากเข้าซื้อแล้ว Sony กังวลว่าเกมในเครือ Activision จะเปิดให้เล่นบน Game Pass ตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย นั่นอาจทำให้ Call of Duty ที่ถึงแม้จะเป็นเกมขายดีบน PlayStation (อีกทั้งได้รับอนุญาตจำหน่ายตามสัญญาล่วงหน้าขั้นต่ำ 10 ปี) แต่ก็สามารถเล่นได้บน PC และอุปกรณ์ Xbox ในราคาทางเลือกที่ถูกกว่าเป็นเท่าตัว ย่อมส่งผลกระทบกับทาง Sony อยู่แล้ว และยังไม่รวมปัจจัยเรื่องสิทธิ์เอ็กคลูซีฟต่างๆ

ท้ายที่สุด ปฏิเสธไม่ได้ว่า Sony นั้นทำธุรกิจอย่างล้าหลังมานาน แต่ความกลัวเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นเสมอไปเพราะในกลไกเศรษฐกิจหากใครต้องการเอาตัวรอด ผู้นั้นก็จำเป็นต้องรู้จักปรับตัว และต้องไม่ลืมว่า Microsoft เองได้พูดออกปากบ่อยครั้งว่าคอนเทนต์ทุกอย่างจะเท่าเทียมกัน ไม่มีสิทธิ์เอ็กคลูซีฟให้รำคาญใจ การที่ Sony ตีตนไปก่อนไข้แม้แต่จะเป็นการพูดคุยในบริษัทเอง สิ่งนี้ส่อให้เห็นถึงความเปราะบางที่กำลังก่อตัว ถึงอย่างไรการคาดการณ์ย่อมเป็นเรื่องที่ดีเพื่อที่จะได้มีเวลาในการวางแผนและรักษาสมดุลที่พวกเขากังวลในตลาดเกม

ท้ายที่สุดนี้ผู้เขียนจึงอยากให้เพื่อนๆ ลองตั้งคำถามดูว่า ‘ภัยคุกคาม’ ในสายตาผู้พัฒนา ถือเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์กับตัวผู้รับบริการ – ลูกค้า หรือว่าเป็นโทษกันแน่? และถ้าเป็นโทษ จะเป็นโทษกับลูกค้า หรือเป็นโทษกับคู่แข่งในตลาดที่เคยได้มีโอกาสถือเงินถุงเงินถังแล้วไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ ปล่อยให้ทุนทุกอย่างจมลงไปกับอคติและความคร่ำครึ ว่าแล้วในอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ลองดูกันครับ ส่วนโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันกันที่นี่อีก ก็ขอเชิญติดตามกันได้เช่นเคยเพื่อไม่ให้พลาดทุกข่าวสารวงการเกมกันก่อนใครครับผม