จากรายงานการประกาศเตรียมเปิดตัวเครื่องเล่น Nintendo Switch รุ่นถัดไปโดยผู้บริหารของค่ายเกมอารมณ์ดีเอง ก็ทำให้เรารับรู้แล้วถึงการเดินทางของเครื่องเล่นรุ่นจิ๋วที่มาสู่ปลายทางก่อนจะส่งไม้ต่อให้รุ่นใหม่ในปีหน้า ซึ่งล่าสุดก็มีรายงานที่น่าประทับใจจากเครื่องเล่น Switch แล้ว และน่าจะตอบคำถามได้เลยว่าทำไมค่ายถึงตัดสินใจให้เจ้าเครื่องนี้อยู่ในตลาดได้นานกว่าคอนโซลรุ่นอื่นที่เคยทำ
มีการเปิดเผยจากผู้ใช้งาน Pierre485_ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ด้วยว่าในตอนนี้ Nintendo พบว่าเครื่องเล่นเกม Switch ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2017 สามารถทำกำไรรวมกันได้สูงยิ่งกว่ากำไรทั้งหมดในปี 1981 – 2016 กล่าวให้เห็นภาพก็คือยุค Famicom มาจนถึง Wii U เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าสูงมากๆ และมีค่ามากเป็นเวลาเกินสามสิบปี ช่วยพลิกชีวิตจากยุคมืดในเครื่อง Wii U ให้กลายเป็นค่ายเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นด้วยยอดจำหน่ายที่พุ่งสูงระดับ 140 ล้านชุดทั่วโลก
Pierre485_ กล่าวต่อว่า ในช่วงเวลา 1981 – 2016 ทางค่ายสามารถทำเงินได้อยู่ที่ประมาณ 2.376 พันล้านเยน หรือ 565 ล้านบาท ถัดมาที่ปี 2017 เป็นต้นมา ก็อยู่ที่ 2.576 พันล้านเยน หรือ 612 ล้านบาท และแม้จะตัดกำไรจาก Nintendo 3DS ที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงหลักของเครื่องเกมพกพา ก็ยังถือว่าสูงกว่าอยู่ที่ 594 ล้านบาท อยู่ดี ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ Nintendo ถึงเลือกให้ความสำคัญเครื่องเล่นนี้แบบเต็มที่นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา
อีกด้านหนึ่ง Nintendo Switch เป็นเครื่องเล่นเกมคอนโซลที่มาพร้อมกับจอขนาด 6.2 นิ้ว (หรือ 7.7 นิ้วสำหรับรุ่น OLED) และจอยเกมที่สามารถถอดออกได้ ตัวเครื่องชูโรงด้วยการเป็นเครื่องเล่นแนว Hybrid ซึ่งสามารถต่อภาพเข้าจอโทรทัศน์ด้วยความละเอียดสูงสุดที่ 1080p หรือจะนำออกไปเล่นนอกบ้านด้วยแบตเตอรี่การใช้งานสูงสุด 9 ชั่วโมงก็ได้ นอกจากนี้ยังมีการวางจำหน่ายรุ่น Nintendo Switch Lite สำหรับผู้ที่เล่นเกมในรูปแบบพกพาเป็นหลักได้ด้วยเช่นกัน