Metacritic ออกมาตอบรับเรื่องการถล่มรีวิว Dragon Age: The Veilguard บนเว็บไซต์

Metacritic เว็บไซต์รวบรวมคะแนนรีวิวเกมชื่อดัง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกระแสวิจารณ์ในแง่ลบที่ถาโถมเข้าใส่เกม Dragon Age: The Veilguard จากเหล่าผู้เล่นที่ไม่เห็นด้วยกับตัวละครและธีมที่หลากหลายในเกม

เกมภาคใหม่ล่าสุดจาก BioWare นี้ได้รับคะแนนรีวิวเฉลี่ยจากนักวิจารณ์อยู่ที่ 84 คะแนน จากการสำรวจความคิดเห็นของนักวิจารณ์ 54 ราย ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่ “น่าพอใจโดยทั่วไป”

แต่คะแนนรีวิวจากผู้เล่นบน Metacritic กลับอยู่ที่เพียง 3.8 จาก 10 คะแนน โดยส่วนใหญ่เป็นความคิดเห็นในแง่ลบอย่างรุนแรง หลายความคิดเห็นให้คะแนนเกมเพียง 0 คะแนน พร้อมระบุว่าเกมมีเนื้อหาที่ “Woke เกินไป ตัวอย่างเช่น

“บทพูดแย่มาก และนี่มันคือการบิดเบือนความคิดแบบ Woke ชัด ๆ นี่คือการเซ็นเซอร์ในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด”

“ความคิดแบบ Woke ทำลายเกมไปแล้ว แต่เกมเพลย์ก็ยังดีอยู่”

“นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณพยายามยัดเยียดความหลากหลายและอุดมการณ์ทางเพศเข้าไปในเกมแฟนตาซี”

นอกจากนี้ ยังมีอีกมากมายหลายความคิดเห็นที่ใช้ถ้อยคำค่อนข้างรุนแรง ในขณะที่ผู้เล่นบางรายยังได้โพสต์รีวิวซ้ำ ๆ เนื่องจากรีวิวเดิมถูกทีมงานของ Metacritic ลบไป

ในทางตรงกันข้าม รีวิวของผู้เล่นบน Steam สำหรับ Dragon Age: The Veilguard นั้นเป็นไปในทาง “บวกส่วนใหญ่” โดยที่ผู้เล่นจะต้องเล่นเกมจบก่อนจึงจะสามารถโพสต์รีวิวได้

Dragon Age: The Veilguard มีตัวละครคู่หูที่ระบุตัวตนว่าเป็น Non-binary และตัวเอกของเกม Rook ก็สามารถเลือกที่จะเป็น Transgender ได้เช่นกัน

Metacritic ตอบโต้กระแสวิจารณ์ถล่ม Dragon Age: The Veilguard

ทาง Fandom บริษัทแม่ของ Metacritic ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ต่อกระแสวิจารณ์ดังกล่าว โดยระบุว่าเว็บไซต์ของพวกเขาเป็น “สถานที่สำหรับแฟน ๆ ทุกคน” และมีระบบการตรวจสอบเพื่อป้องกันการละเมิดกฎ

“เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือบนเว็บไซต์ของเราเป็นอย่างมาก ทีมงานของเราตรวจสอบรายงานการละเมิดทุกฉบับ และหากพบว่ามีการละเมิดกฎ รีวิวเหล่านั้นจะถูกลบออก” ตัวแทนของ Fandom กล่าว

Dragon Age: The Veilguard เป็นเกมแนวแอ็กชั่นสวมบทบาทที่ผู้เล่นจะได้ออกผจญภัยในดินแดน Thedas ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ผู้เล่นจะได้เรียนรู้ศาสตร์การต่อสู้ทั้งเวทมนตร์และอาวุธ ผ่านเนื้อเรื่องที่เข้มข้น เต็มไปด้วยมิตรภาพ ความรัก การทรยศ และบทบาทของผู้เล่นในการกอบกู้โลก เกมภาคนี้เน้นไปที่เนื้อเรื่องของตัวละคร NPC เพื่อนร่วมทาง แต่ละตัวจะมีประวัติที่แตกต่างกัน และตัวเลือกการตอบคำถามของเราจะมีผลต่อชีวิตของพวกเขาโดยตรง เนื้อเรื่องของแต่ละบทจะเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ และตัวละครของเราเองก็สามารถปรับแต่งได้ทั้งรูปลักษณ์และความสามารถผ่านระบบ Skill Tree