ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Apple ได้ให้ความสำคัญกับตลาดเกมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือการนำเสนอชิปเซ็ต A17 Pro และ Apple Silicon เพื่อประสบการณ์เกมพรีเมียมแบบพกพา โดยงาน WWDC ทุกปีก็จะพบว่ามีช่วงที่โชว์ตัวอย่างเกมกันเสมอ และ Apple เองก็สามารถตามหาพาร์ตเนอร์ผู้พัฒนาเกมรายใหญ่มาร่วมแจมได้อย่างน่าชื่นชมจริงๆ กระนั้นดูเหมือนว่าสถานการณ์ยังคงไม่สู้ดีนักครับ
Mobile Gamer ได้รายงานว่าจากการสำรวจของ Appfigures พบว่าเกมดังทั้ง Resident Evil 4, Assassin’s Creed Mirage และ Death Stranding สำหรับเวอร์ชัน iOS นั้นล้วนได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างย่ำแย่ โดยคาดการณ์ว่าอาจจะมีคนเล่นเกมอยู่จริงๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มของ Resident Evil ที่ทุกเกมเป็น Free-to-start ให้ดาวน์โหลดเกมส่วนแรกได้ฟรีก่อนจ่ายเงินจริง พบว่ามีคนจ่ายเงินค่อนข้างน้อย เช่นภาค 4 ที่มียอด 357,000 ครั้ง แต่ทำเงินได้ที่ 208,000 ดอลลาร์สหรัฐ (จากราคา $30) นั่นหมายความว่ามีคนที่ซื้อจริงแค่ 7,000 คน
ขณะเดียวกัน Death Stranding นั้นเป็นเกมที่ต้องทำการจ่ายเงินก่อนเล่นอยู่แล้ว พบว่ามีรายได้ที่ 212,000 ดอลลาร์ ซึ่งจากราคา $20 เลขประมาณการณ์จึงอยู่ที่ 10,600 คนเท่านั้น และ Assassin’s Creed Mirage ยิ่งน่าตกใจเข้าไปใหญ่เพราะจากผลสำรวจได้เห็นว่ามีผู้ใช้อยู่ที่ประมาณ 3,000 คนที่ได้ดาวน์โหลดเกม และมีสถิติการเล่นประมาณ 80 คนต่อวันเท่านั้น โดย Mobile Gamer ได้นำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมจากบริษัทสำรวจเจ้าอื่น ทว่าก็ไม่ได้ทิ้งห่างกันมากนัก
มองในแง่ความเป็นจริง แน่นอนว่าความแรงของ Apple Silicon และ A17 Pro นั้นเป็นหน่วยประมวลผลที่แรงมากๆ และสามารถประหยัดพลังงานได้จริง ซึ่งคอนเซปต์นี้ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าเป็นเหมือนกับอนาคตแห่งอุปกรณ์เครื่องเล่นเกมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ทว่าในตอนนี้มันก็ไม่อาจเพียงพอที่จะมอบประสบการณ์เกมระดับคอนโซลรุ่นมาตรฐานยุคปัจจุบันได้แบบ 1:1 ในขณะที่ราคาจำหน่ายนั้นเหมือนกันเป๊ะๆ โดยมุมหนึ่งก็ถือว่าแฟร์กับผู้พัฒนาเนื่องจากในแง่คอนเทนต์นั้นไม่มีอะไรที่ตัดออกไปเลย แต่อีกมุมต้องไม่ลืมว่าการใช้งานของ Apple Silicon และ A17 Pro มีความโดดเด่นเพื่องาน Productive มากกว่าการมอบความบันเทิงเชิงโต้ตอบอย่างวิดีโอเกม
นอกจากนั้นแล้วอุปกรณ์สมาร์ทโฟนไม่ใช่เครื่องใช้ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ดังนั้นเทรนด์การเล่นเกมมือถือที่ดูจะครองใจผู้ใช้มากกว่าคือเกมที่มีเซสชันใช้เวลาสั้นๆ เท่านั้น และเกมเหล่านี้จะต้องเป็นเกมที่มีตัวช่วยการเข้าถึงที่ใช้ได้ง่าย เช่นแป้นควบคุมเพียงไม่กี่ปุ่ม ขณะที่ทั้งสามเกมข้างต้นเป็นเกมที่ถอดแบบจากคอนโซลมาอย่างเป๊ะๆ สิ่งที่ ‘ทำได้’ ก็เลยเหมือนกับแค่ ‘ได้ทำ’ เท่านั้น สำหรับเพื่อนๆ คิดอย่างไรลองมาแลกเปลี่ยนกับ ThisIsGame Thailand ดูนะ
ปัจจุบันยังคงมีเกมโปรดักชันระดับสูงอีกมากมายที่กำลังจ่อคิวให้บริการบน iOS และ macOS ที่ใช้งาน Apple Silicon อาทิ Palworld และ Resident Evil 2 ภาครีเมค หลังจากนี้คงต้องให้กำลังใจกันไปยาวๆ ว่าชิปเซ็ตรุ่นอื่นๆ ในอนาคตจะมีความสามารถเพียงพอที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้สึกในการเล่นเกมได้เทียบเท่ากับคอนโซลตามวิสัยทัศน์ที่ Apple วางไว้หรือไม่
