หมดยุค? Sony เผย แผ่นเกม PS4 – PS5 ขายได้แค่ราว 4% เท่านั้น

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาสิ่งที่เราเห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนแปลงในวงการเกมอย่างชัดเจนก็คือไลฟ์สไตล์การเล่นเกมที่ผู้เล่นเลือกซื้อเกมด้วยรูปแบบดิจิทัลดาวน์โหลดมากขึ้น ซึ่งก็จะมีประโยชน์ที่สามารถเข้าเล่นเกมได้อย่างรวดเร็วทันทีที่จ่ายเงินสำเร็จและไม่ต้องขับรถออกไปที่ร้านด้วย โดยปัจจุบันเครื่องเล่นคอนโซลก็เริ่มมีการผลิตเครื่องเกมรุ่นไร้แผ่นเพื่อรองรับการใช้งานดิจิทัลเต็มตัวเหมือนกัน

ล่าสุด ภายในรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุดของปีงบประมาณปัจจุบันได้มีการเปิดเผยว่าแผ่นเกมสำหรับ PlayStation 4 และ PlayStation 5 ทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 3.5 หมื่นล้านเยนจากยอดรายได้ทั้งหมด ถือว่าอยู่ที่ประมาณ 4% จากรายได้ที่ได้รับเมื่อเทียบสัดส่วนของสินค้าและบริการเครือ PlayStation และถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่ายอดในส่วนนี้เป็นส่วนเดียวที่ลดลงในทุกๆ ปีด้วยครับ ขณะที่เกมดิจิทัลสามารถกินพื้นที่ได้ 21% และการขาย DLC ที่ 23% ส่วนการขายเครื่องเกมจะอยู่ที่ 30% สอดคล้องกับรายงานยอดจำหน่ายของไตรมาสที่ผ่านมาที่ PlayStation 5 ทำยอดขายได้ 5.1 ล้านเครื่อง

เห็นแบบนี้แล้วก็น่าสนใจมากๆ เลยว่าในอนาคตสัดส่วนการใช้งานเกมในรูปแบบดิจิทัลดาวน์โหลดจะเพิ่มสูงขึ้นจนกินพื้นที่ได้หมดหรือเปล่า ซึ่งถ้าเกิดเป็นเช่นนั้นจริง การวางจำหน่ายแผ่นเกมอาจกลายเป็นแค่ของสะสม หรืออาจจะยกเลิกสายพานผลิตแผ่นโดยสิ้นเชิงและค่ายเกมก็ต้องเลือกผลิตสินค้าอื่นทดแทนก็ได้ อย่างไรก็ตามจนกว่าจะถึงเวลานั้นคงต้องจับตาดูกันไปยาวๆ ครับเพราะในบางพื้นที่ แผ่นเกมถือเป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูงและเกิดการหมุนเวียนใช้งานสม่ำเสมอ

อีกด้านหนึ่ง PlayStation 5 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในประเทศไทย โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 15,690 บาทสำหรับ All-Digital Edition และรุ่นปกติที่ราคา 18,690 บาท ตัวเครื่องมาพร้อมหน่วยประมวลผล AMD Zen 2 8-core, 16 thread อีกทั้งยังมีการนำหน่วยความแบบ Solid-state Drive เข้ามาใช้ รวมไปถึงจอยเกมที่มาพร้อมระบบสั่น Haptic ที่สมจริงเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมแบบราบรื่นไร้รอยต่อขึ้นไปอีก

แหล่งที่มา: Sony