Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในฝรั่งเศสที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าสาเหตุของความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นเพราะ “สื่อโซเชียล” และ “เกม”
เหตุการณ์ที่จุดชนวนให้เกิดความไม่สงบเกิดขึ้นในย่านชานเมือง Nanterre ของกรุงปารีส โดยนาย Nahel M วัย 17 ปี ถูกยิงเสียชีวิตโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเหตุการณ์ก็คือเจ้าหน้าที่ขอให้นาย Nahel หยุดรถ แต่วัยรุ่นคนดังกล่าวพยายามขับรถหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ยิงเข้าไปในรถ ส่งผลให้เขาเสียชีวิต
ทาง Macron เรียกร้องให้ผู้ปกครองดูแลลูกวัยรุ่นให้อยู่ที่บ้านระหว่างการประท้วง ในขณะที่เขาก็ได้บอกว่าปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนั้นก็คือ สื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นเหมือนต้นแบบของการประท้วง รวมไปถึงเขายังชี้ว่าเกมมีอิทธิพลต่อความรุนแรงนี้ด้วย “เกมได้มอมเมาพวกเขาแล้ว” ประธานาธิบดีระบุ โดยเขาได้เน้นย้ำว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังเด็กมาก และเป็นความรับผิดชอบของผู้ปกครองที่จะต้องดูแลให้บุตรหลานของตนอยู่บ้านในช่วงเวลาที่เกิดความไม่สงบนี้
ข้อกล่าวหาที่ว่าเกมส่งเสริมความรุนแรงในชีวิตจริงไม่ใช่เรื่องใหม่ และถึงแม้ว่าจะมีการถกเถียงในที่สาธารณะมาหลายทศวรรษ แต่ก็ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนแนวคิดที่ว่าความรุนแรงในเกมนำไปสู่ความรุนแรงในโลกแห่งความเป็นจริง อย่างไรก็ตามเกมมักตกเป็นแพะรับบาปสำหรับอาชญากรรมรุนแรงมาโดยตลอด
ความคิดเห็นของ Macron ค่อนข้างประหลาดอยู่ไม่น้อยเมื่อพิจารณาถึงการที่เขาสนับสนุนอุตสาหกรรมเกมและ Esports ในฝรั่งเศสก่อนหน้านี้ อีกทั้งในปีที่แล้วเขายกย่องประเทศของเขาว่าเป็น “ประเทศแห่งเกม” และยอมรับว่าเกมเป็นส่วนสำคัญของการส่งออกทางวัฒนธรรมของฝรั่งเศส และเป็นองค์ประกอบสำคัญของ Soft Power ในประเทศอีกด้วย
เราก็ไม่อาจทราบได้ว่าอะไรที่ทำให้ทาง Macron ตัดสินใจพูดแบบนี้ออกมา แต่ที่แน่ ๆ ในตอนนี้ก็คือเราได้แต่คาดหวังว่าสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศฝรั่งเศสจะยุติในเร็ววันครับ
