ว่ากันตามตรงในประเทศทางยุโรปเราจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการฟ้องร้องเรื่องคุณภาพของสินค้ากันอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฝั่งของธุรกิจวิดีโอเกมที่ล่าสุดก็มีดราม่าใหม่อีกครั้งในฝรั่งเศสเมื่อหน่วยงาน Autorité de la Concurrence ที่ดูแลเรื่องธุรกิจผูกขาดในพื้นที่ได้ดำเนินเรื่องเตรียมฟ้องร้อง Sony หลังจากพบว่าทางผู้พัฒนาวิดีโอเกมดังได้มีท่าทีในการปิดกั้นทางเลือกไม่ให้ผู้เล่นซื้อจอยรุ่นอื่น
มีการเปิดเผยว่า Autorité de la Concurrence ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 13.5 ล้านยูโร หรือราวๆ 507.3 ล้านบาท โดยระบุว่านับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา Sony ได้ทำการดัดแปลระบบภายในเครื่องเกม PlayStation 4 ใช้งานอุปกรณ์จอยเกมแบบ 3rd-party แบบไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยเมื่อใช้งานจะเกิดอาการเชื่อมต่อไม่ติดแบบต่อเนื่อง นอกจากนั้นแล้วยังปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานเพื่อหาทางออกร่วมกันด้วย
สิ่งที่น่าสนใจก็คือการฟ้องร้องครั้งนี้ Autorité de la Concurrence ยังครอบคลุมไปถึงจอยเกมที่ ‘ไม่ได้รับการตรวจคุณภาพหรือรับลิขสิทธิ์รับรองคุณภาพ’ ซึ่งผู้เล่นบางส่วนมองว่าอาจเป็นดาบสองคมก็ได้เพราะว่าจอยเกมที่เป็นจอยเถื่อนก็ตกอยู่ในหมวดสินค้านี้ด้วย โดยเบื้องต้น Sony ยังไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆ เพิ่มเติมทั้งสิ้น ว่าแล้วก็คงต้องรอดูกันไปยาวๆ แม้จะฟังดูแปลกสักนิดว่าทำไมถึงเป็นจอยเกมรุ่น PS4 ก็ตาม (ฮา)
อย่างไรเสีย ปฏิเสธไม่ได้ว่าแม้การตัดสินใจหักดิบให้ผู้เล่นใช้อุปกรณ์เสริมที่ถูกลิขสิทธิ์อย่างเดียวจะเป็นเรื่องที่ผูกขาดอย่างชัดเจน ทว่าก็เป็นการช่วยส่งเสริมให้ผู้ใช้งานหาสินค้าที่ได้รับการรับรองคุณภาพและมีประสบการณ์การเล่นที่ราบรื่นมากที่สุด สำหรับเพื่อนๆ มองว่าเป็นทางเลือกที่ถูกต้องหรือไม่ว่าแล้วอย่าลืมมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันดูได้นะครับ
PlayStation 4 วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2013 พร้อมกับเกมเปิดตัวมากมายไม่ว่าจะเป็น Assassin’s Creed IV: Black Flag, Killzone: Shadow Fall และ Injustice: Gods Among Us โดยภายหลังมีการแบ่งรุ่นวางจำหน่ายออกเป็นสองรุ่นคือ Slim และ Pro เพื่อรองรับการใช้งานจากกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นรวมไปถึงลดราคาเครื่องลงให้เข้าถึงผู้เล่นใหม่ด้วย ปัจจุบันตัวเครื่องปิดยอดจำหน่ายได้ที่ 117.2 ล้านเครื่อง