อดีตบอส Xbox ชี้สงครามคอนโซลหมดความเดือดไปแล้ว

Peter Moore อดีตผู้บริหารชื่อดังของ SEGA และ Xbox ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการ Gamertag Radio ว่าเขาเคย “สนับสนุน” การแข่งขันระหว่าง Sony และ Microsoft เพราะเชื่อว่าสงครามคอนโซล (Console war) เป็น “สิ่งที่ดีต่อวงการ” แต่ปัจจุบัน เขาเชื่อว่า Xbox ได้สูญเสียความดุเดือดไปแล้ว

Moore เคยสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวรอยสัก Grand Theft Auto 4 ในงานแถลงข่าวสุดระทึก ประกาศว่าเกมจาก Rockstar จะได้ DLC พิเศษช่วงเวลาจำกัดบน Xbox 360 ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ซีรีส์เกม Open World นี้ผูกพันกับ PlayStation อย่างเหนียวแน่น โดย GTA 3, Vice City และ San Andreas ล้วนลง PS2 ก่อน การประกาศครั้งนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม สร้างความเสียหายต่อแบรนด์ Sony และเป็นสัญญาณว่าเกมดังอย่าง Tekken และ Final Fantasy จะตามมาลงหลายแพลตฟอร์มในอนาคต

Xbox อาจจะเปลี่ยนบทบาทตนเองไปจากเดิม

วงการเกมในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากในอดีต และในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า Xbox อาจจะเปลี่ยนบทบาทของตัวเองไปเป็นผู้จัดจำหน่ายเกมแบบ Third-party แทนที่จะเป็นผู้ผลิตคอนโซลแบบเดิม

ผู้บริหารของ Xbox ได้อธิบายว่าเป้าหมายที่แท้จริงของบริษัทมูลค่าล้านล้านดอลลาร์แห่งนี้คือการสตรีมเกมไปยังหน้าจอทุกประเภทที่ผู้เล่นมี ซึ่งเห็นได้ชัดจากแคมเปญการตลาด “This Is an Xbox” ของพวกเขา แต่เขาก็ยังคงยอมรับว่าคอนโซลยังคงได้รับความนิยมอยู่ โดย Nintendo Switch ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงปลายอายุขัย และ PS5 ก็กำลังจะมียอดขายมากกว่า 100 ล้านเครื่องเช่นกัน

“การเข้าซื้อ Activision Blizzard ได้เปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ที่ Microsoft ทำ ซึ่งผมรู้ดีว่านี่ไม่ใช่ยุคเก่าของสงครามคอนโซล ที่มีการชกต่อยกันและพยายามขโมยลูกค้าและพยายามแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดและสร้างอัตราการติดตั้งเกมบนเครื่องเฉพาะของแต่ละค่าย นี่เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นในแง่เศรษฐกิจ” เขากล่าวต่อ “มันสูญเสียความดุเดือดที่วงการเกมเคยมีและเติบโตขึ้นมาหรือไม่… ผมคิดว่าใช่” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Microsoft กำลังมองภาพรวมของอุตสาหกรรมเกมในระยะยาว โดยมุ่งเน้นไปที่การขยายฐานผู้เล่นผ่านการสตรีมมิ่ง แทนที่จะจำกัดตัวเองอยู่แค่ในระบบคอนโซลของตนเอง

ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<