ค่ายเกมชื่อดังอย่าง Capcom ได้ประกาศแนวทาง (Guidelines) อย่างเป็นทางการสำหรับการสร้าง ผลงานแฟนเมด (Fan Content) หรือที่บริษัทเรียกว่า “ผลงานดัดแปลง” (Derivative Works) โดยอนุญาตให้แฟนเกมสามารถสร้างสรรค์ผลงานจากเกมในเครือ Capcom ได้อย่างอิสระมากขึ้น ทั้งภาพวาด มังงะ ดนตรี หรือคอสเพลย์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อกำหนดชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่ “ห้ามทำ” โดยเฉพาะเรื่องการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
แนวทางสร้างผลงานจากเกมของ Capcom
Capcom ระบุว่า บริษัทสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานของแฟน ๆ ที่มีพื้นฐานมาจากทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ของตน เช่น ตัวละคร เพลง หรือเนื้อเรื่องในเกม แต่ต้องมี “ความคิดสร้างสรรค์ใหม่” จากผู้สร้างเพิ่มเติม ไม่ใช่การคัดลอกหรือนำวัสดุจากเกมมาใช้โดยตรง ซึ่งผลงานที่เข้าข่ายอนุญาต ได้แก่ ภาพวาดและมังงะ, เกมแฟนเมด, นิยายหรือเรื่องสั้น, โมเดลสามมิติ ฟิกเกอร์ และงานปั้น, ดนตรีประกอบที่สร้างใหม่, ชุดคอสเพลย์ ภาพถ่าย และวิดีโอ
เมื่อเผยแพร่ผลงานเหล่านี้ Capcom แนะนำให้ผู้สร้างระบุอย่างชัดเจนว่าเป็น “ผลงานดัดแปลง” เช่น “This work is a derivative work.” แต่ห้ามใช้สัญลักษณ์ลิขสิทธิ์ ©CAPCOM เพราะอาจทำให้ผู้ชมเข้าใจผิดว่าเป็นผลงานทางการ
นอกจากนี้ Capcom ย้ำชัดว่าการนำทรัพย์สินของบริษัทไปใช้เพื่อ แสวงหาผลกำไรทางการค้า เช่น การโปรโมทสินค้า การโฆษณา หรือการขายผลงานจำนวนมาก เป็นสิ่งต้องห้าม อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นสำหรับการขายผลงานแฟนเมดในลักษณะ “โดจิน” หรือสินค้างานอดิเรกขนาดเล็ก เช่น หนังสือแฟนเมด มังงะทำมือ หรือสินค้าที่ขายในงานอีเวนต์ที่ได้รับอนุญาตเฉพาะวันเท่านั้น
บริษัทจะพิจารณาเป็นกรณีไปว่าการขายใดอยู่ในขอบเขตของ “งานอดิเรก” หรือ “เชิงพาณิชย์” และอาจสั่งระงับการขายหากเกินขอบเขตที่กำหนด
ในขณะเดียวกัน Capcom ระบุชัดเจนว่าผลงานแฟนเมดต้องไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เข้าข่ายผิดศีลธรรม หรือกระทบภาพลักษณ์ของบริษัท โดยมีรายการต้องห้ามดังนี้
- ใช้ในเชิงพาณิชย์ (นอกเหนือจากกรณีงานอดิเรกเล็ก ๆ)
- เนื้อหาลามก อนาจาร หรือขัดต่อศีลธรรมสาธารณะ
- เนื้อหาที่พาดพิงทางการเมือง ศาสนา หรือแนวคิดสุดโต่ง
- เนื้อหาที่หมิ่นประมาทหรือละเมิดสิทธิ์ของบุคคลที่สาม
- ผลงานที่ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลงานอย่างเป็นทางการของ Capcom
- เนื้อหาที่สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัทหรือเกมในเครือ
- การทำซ้ำเกมหรือสินค้าของบริษัทโดยตรง
นอกจากนี้ Capcom ขอสงวนสิทธิ์ในการ “สั่งหยุดเผยแพร่ผลงาน” หากเห็นว่าเนื้อหาไม่เหมาะสม แม้ว่าผลงานนั้นจะปฏิบัติตามแนวทางบางส่วนก็ตาม
กฎระเบียบนี้มีผลเฉพาะกับ บุคคลทั่วไปหรือกลุ่มแฟนที่ไม่ใช่องค์กรธุรกิจ เท่านั้น โดย Capcom ชี้แจงว่ากิจกรรมที่เข้าข่ายการค้าจะไม่อยู่ในขอบเขตของแนวทางนี้ นอกจากนี้บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงแนวทางได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า และจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
การประกาศแนวทางนี้สะท้อนให้เห็นว่า Capcom ต้องการสนับสนุนวัฒนธรรมแฟนคอนเทนต์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของวงการเกมญี่ปุ่นและทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกันก็ตั้งกรอบเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์หรือใช้ผลงานในทางที่ผิด และแม้หลายคนจะมองว่าข้อกำหนดบางอย่างเข้มงวด แต่ก็ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ Capcom เลือก “ยอมรับ” และ “สนับสนุน” ความคิดสร้างสรรค์ของแฟน ๆ มากกว่าจะปิดกั้นโดยสิ้นเชิง และนี่อาจเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับค่ายเกมอื่น ๆ ในอนาคตเช่นกัน
ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<
