ทุกคนคงทราบกันดีแล้วว่าใน The Last of Us ตอนที่ 3 ที่นำเสนอเรื่องราวของ Bill และ Frank และมุ่งประเด็นชัดเจนไปที่ความสัมพันธ์แบบ LGBTQ+ ทำให้ตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งตอนที่ได้รับเสียงโหวตที่แตกเป็น 2 ฝั่งอย่างชัดเจน โดยล่าสุดตอนนี้ก็มีผู้กดให้คะแนน 1 ดาวมากกว่า 3 หมื่นครั้ง ในขณะที่มีผู้กดให้คะแนน 10 ดาวมากกว่า 6 หมื่นครั้ง!
ล่าสุดทางสื่อนอกอย่าง gamerant ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า “ซีรีส์ The Last of Us ตอนที่ 7 จะโดนถล่มรีวิวอีกครั้ง” ส่วนสาเหตุจะเป็นอะไรมาติดตามกันได้เลยครับ
อนึ่งข่าวนี้จะมีการสปอลย์เนื้อหาจาก DLC Left Behind หากผู้อ่านคนใดยังไม่ได้เล่นเกมใน DLC นี้และกลัวถูกสปอยล์ก็ขอให้ออกจากข่าวนี้ไปก่อนเลยครับ
มันค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า “ตอนที่ 7 ของซีรีส์ The Last of Us จะมีชื่อว่า Left Behind โดยใช้ชื่อเดียวกันกับ DLC แบบสแตนด์อโลนของ The Last of Us Left Behind” ซึ่งภายใน DLC นี้จะพาเราไปพบกับความสัมพันธ์ระหว่าง Ellie และ Riley ซึ่งจะมีฉากจูบกันระหว่าง 2 ตัวละครนี้ด้วย ซึ่งจุดนี้เองก็เป็นจุดที่ระบุไว้ชัดเจนว่า Ellie ก็เป็น LGBTQ+ เช่นกัน
“สมมติว่าตอนที่ 7 จะพูดถึง DLC Left Behind จริง ๆ มันก็น่าสนใจมากว่าซีรีส์ The Last of Us จัดการกับความสัมพันธ์ของสาวๆ อย่างไร” gamerant ระบุ “เราหวังว่าตอนที่ 7 จะมีทางหลีกเลี่ยงการถล่ม 1 ดาวจากพวกผู้ชมบางส่วนได้ และรอดพ้นจากชะตากรรมแบบเดียวกับที่ตอนที่ 3 โดน”
ในขณะเดียวกัน The Last of Us ฉบับคนแสดงของ HBO จะได้ Craig Mazin และ Carolyn Strauss ผู้ที่เคยฝากผลงานซีรีส์ Chernobyl มานั่งแท่นผู้อำนวยการผลิตคู่กับ Neil Druckman ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์จาก The Last of Us ส่วนเรื่องราวของ The Last of Us ฉบับคนแสดงจะอิงตามเกมต้นฉบับที่ออกวางจำหน่ายในปี 2013 นั่นคือการผจญภัยของ Joel (รับบทโดย Pedro Pascal) และ Ellie (รับบทโดย Bella Ramsey) ที่ต้องเดินทางข้ามอเมริกาและฝ่าดงผู้ติดเชื้อระบาดที่เกิดขึ้นจากเห็ดชนิดหนึ่ง ซึ่งกลุ่ม Firefly มีความเชื่อว่า Ellie จะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาเชื้อโรคนี้ได้ ทำให้ Joel ต้องพาเด็กสาวเดินทางเพื่อภารกิจสำคัญของมนุษยชาติ
