[พรีวิว] LIVE A LIVE เหล้าเก่าที่ถูกบ่มใหม่ให้อร่อยกว่าเดิม

LIVE A LIVE เกม RPG ที่จะนำเสนอเรื่องราวของ 7 ตัวละครที่มีลักษณะนิสัยแตกต่างกัน อยู่ในช่วงเวลาต่างกัน โดยตัวละครแต่ละตัวก็จะมีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป เช่นตอน The Wild West จะเป็นคาวบอยที่หนีการไล่ล่า หรือ Twilight of Edo Japan จะเป็นนินจาที่กำลังทำภารกิจลับ เป็นต้น โดยเกมนี้ยังมาพร้อมเกมเพลย์ Turn-Based RPG ในแบบตาราง 7 x 7 ที่ทำให้เกมเพลย์นี้โดดเด่นกว่าเกมอื่น ๆ ในตลาดอยู่พอสมควร! และในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสทดลองเล่นเกมเวอร์ชั่น Demo บน Switch และก็ไม่พลาดที่จะนำพรีวิวมาให้ผู้อ่านได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การพรีวิวนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 3 กรกฎาคม 2565 และเกมเป็นเวอร์ชั่น Demo หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

กราฟิกยุคโมเดิร์นที่ทำให้เกมยุค 90 ดูทันสมัยขึ้นราวกับเป็นเกมสร้างใหม่

LIVE A LIVE เวอร์ชั่นใหม่นี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมรีเมคที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ถูกใจแฟนเกมทั้งที่เคยเล่น และไม่เคยเล่นอย่างแน่นอน โดยเริ่มต้นจากกราฟิก HD-2D ที่ทำให้เกมดูทันสมัยมากขึ้น ซึ่งหากผู้อ่านคนใดไม่ทราบมาก่อนว่าเกมนี้เคยวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 1994 ก็คงคิดว่าเป็นเกมใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาในยุคนี้ เพราะกราฟิกของเกมนี้สวยงามเทียบเท่ากับเกมสมัยใหม่อย่าง Octopath Traveler หรือ Triangle Strategy เลยทีเดียว

ในส่วนของความลื่นไหลภายในเกมนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความลื่นไหลที่ทำให้เราออกสำรวจโลกต่าง ๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน รวมไปถึงการต่อสู้ที่สะใจมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามในตัว Demo นี้ผู้เขียนยังพบเจอเฟรมเรตตกในบางจุดของการเล่น โดยตัวอย่างที่พบเจอก็คือ ช่วงสำรวจนอกปราสาทของตัวละครนินจา ซึ่งคาดว่าเกิดจากการที่มีวัตถุที่ต้องแสดงจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ น้ำตก ปราสาท ตัวละคร NPC ต่าง ๆ ทำให้เกิดอาการนี้ขึ้นครับ

ในส่วนขององค์ประกอบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทสนทนา หรือฉากคัทซีนต่าง ๆ ก็เรียกได้ว่าถอดแบบมาจากต้นฉบับ 90% เลยทีเดียว โดยผู้เขียนได้ลองเทียบกันแบบช็อตต่อช็อตก็เห็นว่าเวอร์ชั่นใหม่นี้แทบจะเหมือนเดิมเลย แต่จะมีการปรับบทสนทนาบางตอนให้ดูทันสมัยขึ้น หรือน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ในหลาย ๆ ส่วนจะมีการเพิ่มเสียงตัวละครประกอบเข้ามาอีกด้วย ทำให้การเล่นเกมนี้สนุกขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามจุดที่เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างชัดเจนก็คือชื่อของสกิลต่าง ๆ รวมไปถึงชื่อของตัวละครหลาย ๆ ตัวจะไม่เหมือนเดิม ซึ่งในจุดนี้ก็อยู่ที่ว่าผู้เล่นจะชอบเวอร์ชั่นไหนมากกว่ากันครับ

เกมเพลย์ต่อสู้ Turn-Based RPG ที่โดดเด่นกว่าเกมอื่น ๆ

นอกจากในเรื่องของกราฟิกแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าเกมเพลย์ Turn-Based RPG ไม่เคยตกยุคไปไหนเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง LIVE A LIVE ที่มีความโดดเด่นมากกว่าเกมอื่น ๆ อยู่พอสมควร นั่นก็เพราะว่าเกมนี้จะมาเป็นตารางต่อสู้แบบ 7 x 7 ช่อง ที่ผู้เล่นจะได้เดินไปเรื่อย ๆ ตามต้องการภายในช่องที่กำหนด โดยทุกครั้งที่เดิน เกจ Active Time Battle (ATB) ก็จะเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย และเมื่อผู้เล่นโจมตีศัตรู ก็จะทำให้เกจ ATB ของศัตรูเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นอกจากนี้การโจมตีของผู้เล่นก็จะมีหลากหลายแบบแตกต่างกันออกไป โดยแต่ละแบบก็จะมีการกำหนดช่องที่โจมตีได้ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงท่าโจมตีแต่ละท่าก็จะให้ผลเอฟเฟกต์ที่ต่างกันไป เช่นบางท่าอาจจะทำให้ศัตรูกระเด็นถอยหลังไปเพื่อเว้นระยะห่างระหว่างตัวละครของผู้เล่นกับศัตรูให้มากขึ้น บางท่าโจมตีอาจจะทำให้ศัตรูติดดีบัฟ หรือบางท่าจะทำให้เกิดเอฟเฟกต์พิเศษบนช่องที่กำหนด เป็นต้น

7 เรื่องราว 7 ความสนุก ที่จะมาบรรจบในตอนท้าย

แม้ว่าเกม LIVE A LIVE เวอร์ชั่น Demo เปิดให้เล่นแค่ 3 ตัวละครเท่านั้น ได้แก่ Imperial China จอมยุทธ์อาวุโสที่ต้องการหาลูกศิษย์มาสืบทอดวิชา , Twilight of Edo Japan เรื่องราวของนินจาที่ต้องปฏิบัติภารกิจพิเศษ , The Distance Future หุ่นยนต์น้อยกลอยใจในโลกอนาคต ซึ่งตัวละครแต่ละตัวก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกัน เช่น นินจาที่มีความสามารถในการซ่อนตัวชั่วคราว ซึ่งความสามารถเหล่านี้จะต้องนำไปใช้ในการผ่านด่านของแต่ละตัวละครด้วย

สำหรับเรื่องราวของตัวละครที่ผู้เล่นได้สัมผัสทั้ง 3 ตัวนี้ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจนราวกับกินอาหารคนละรสชาติ ซึ่งก็น่าสนใจมากว่าเมื่อเกมนี้เปิดให้เล่นครบ 7 ตัวละครในเกมตัวเต็ม พร้อมบทสุดท้าย เกมนี้จะกลมกล่อมมากขึ้นขนาดไหนครับ

นอกจากนี้ในเกม Demo นี้ผู้เล่นจะได้ทดลองเล่นเนื้อเรื่องของตัวละครแต่ละตัวประมาณ 10-20% เท่านั้น โดยสำหรับระยะเวลาการเล่นเกมนี้ในตัว Demo ของผู้เขียน โดยที่อ่านบทสนทนา สำรวจแผนที่ และต่อสู้ ก็จะใช้เวลาอยู่ที่ 15-25 นาทีต่อ 1 ตัวละคร นั่นแปลว่าหากคำนวณเวลาเล่นจริง ๆ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ – 2 ชั่วโมงต่อ 1 ตัวละคร นั่นแปลว่าเกมนี้น่าจะใช้เวลาเล่นได้นานกว่า 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ค่อนข้างคุ้มค่าอยู่พอสมควร

สรุปภาพรวม

จากทั้งหมดที่ผู้เขียนได้อธิบายไว้ด้านบนนี้ก็ยอมรับว่าเกม LIVE A LIVE เวอร์ชั่น Switch เป็นอีกหนึ่งเกมที่ผู้เล่นสาย Turn-Based RPG ไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นเก่าที่อยากจะเติมเต็มความรู้สึกในวัยเด็ก หรือผู้เล่นใหม่ที่ไม่เคยรู้จักเกมนี้มาก่อนก็สามารถสนุกไปกับเกมนี้ได้เช่นกัน

จุดเด่น

• เกม RPG ที่นำเสนอเรื่องราวของตัวละครออกมาได้แตกต่างอย่างน่าสนใจ
• กราฟิกแบบ HD-2D ที่ทำให้เกมนี้ดูทันสมัยแบบไม่มีข้อกังขา
• เกมเพลย์ Turn-Based ที่โดดเด่นด้วยระบบตาราง 7 x 7

ข้อสังเกต

• มีเฟรมเรตตกในบางช่วง
• NPC หน้าซ้ำเยอะพอควร

ภาพ Screenshots เพิ่มเติม