รีวิว

[รีวิว] Resident Evil: Resistance รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย

เกมออนไลน์จากจักรวาล Resident Evil รูปแบบ Asymmetrical Horror

หมายเหตุ: บทความนี้ใช้ตัวเกมเวอร์ชั่น PlayStation 4 เพื่ออ้างอิงในการรีวิว

ย้อนกลับไปเมื่อหลาย 10 ปีก่อน CAPCOM ได้ลองเชิงเกมแนวแอคชั่นเอาตัวรอดแบบออนไลน์กับซีรี่ส์ Resident Evil ไปแล้วในชื่อ Resident Evil: Outbreak ซึ่งให้เรารับบทเป็นคนเดินดินธรรมด๊าธรรมดาที่ต้องร่วมมือร่วมใจกันผ่านด่านไปให้ได้ ถึงแม้ช่วงนั้นจะไม่ได้มีการเล่นอย่างแพร่หลาย แต่ไอเดียของตัวเกมก็ถือว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อยเพราะนำเสนอด้วยการผสมผสานเสน่ห์ดั้งเดิม และทีมเวิร์คของตัวละครที่จะมีทักษะต่างๆ เอื้อกันและกัน

มาถึงปัจจุบันปี 2020 นี้กับ Resident Evil: Resistance ที่ทาง CAPCOM จับมัดรวมเข้ากับ Resident Evil 3 เพื่อทดแทนเนื้อหาการเล่นเกมในภาคหลักก็เรียกได้ว่ามีเสียงตอบรับที่แตกกันไปหลายฝ่ายอย่างชัดเจนทั้งฝั่งสนับสนุน และฝั่งออกอาการ ‘ยี้’ แต่แล้วตัวเกมจะยังคงทำมาตรฐานเทียบเท่ากับภาคอื่นในซีรี่ส์ได้หรือไม่นั้น ขอเชิญเพื่อนๆ มาลุ้นกันข้างล่างนี้ได้เลยครับ

【ทายาทของ Outbreak ที่เปลี่ยนไปตามสมัยนิยม】

image 322

Resident Evil: Resistance และ Resident Evil: Outbreak ยังคงใช้แนวคิดแบบเดียวกันนั่นก็คือ ‘รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย’ ในแต่ละแผนที่ผู้เล่นจะต้องทำตามภารกิจที่มอบหมายเพื่อไปให้ถึงเส้นชัยให้ได้ โดยจากผู้รอดชีวิตทั้ง 6 คน (และจะมี Jill Valentine เพิ่มเข้ามาในช่วงกลางเดือนนี้) ก็มีความสามารถที่ไม่เหมือนกันพร้อมทั้งแปะป้ายตัวเบ้อเริ่มเทิ่มว่าเป็นตัวละครสาย Tank, Support หรือ Damage 

คราวนี้เพื่อนๆ ผู้อ่านคงสงสัยแล้วว่าที่เกมเปลี่ยนไปตามสมัยนิยมมันเปลี่ยนไปอย่างไร? คำตอบก็คือ Resident Evil: Resistance ต่างจาก Outbreak ที่เปลี่ยนเกมเอาตัวรอดแบบ Resident Evil ขนานเดิมเพิ่มเติมระบบออนไลน์ มาเป็นเกมแนวเอาตัวรอดแบบ Asymmetrical Horror PVP แบ่งออกเป็นทีมผู้รอดชีวิต และตัวร้าย ที่ต้องคอยวางกับดักขวางทางอีกฝ่ายไม่ให้ไปถึงเส้นชัยตามเวลากำหนด เรียกได้ว่าแค่ไม่กี่นาทีก็สามารถจบเกมได้แล้ว

【เกมเพลย์คล้ายของเดิม แต่ก็ปรับแต่งให้เหมาะสมขึ้น】

image 323

เกมเพลย์ฝั่งผู้รอดชีวิตจะอิงกับ Resident Evil 2 เป็นหลักไม่ได้ใส่ระบบการเอี้ยวตัวหลบซอมบี้มาให้ แต่ตัวละครจะมี Skill ที่สามารถใช้งานด้วยปุ่ม R1 (สำหรับ PlayStation 4) และปุ่ม L1+R1 ซึ่งจะต้องเก็บเกจกันก่อนเริ่มใช้ ทักษะแต่ละคนมีทั้งการฮีลเพื่อน บัฟการโจมตีตัวเอง หรือใช้กระสุนไม่จำกัดขึ้นอยู่กับตัวละครที่เราเลือกเล่น และเมื่อเริ่มแมทช์จะมีกล่องอาวุธให้เราซื้อไอเทมกัน จุดนี้ความเจ๋งก็คือกระสุนทุกชนิดจะใช้ร่วมกันได้หมดครับ แถมยังสามารถทิ้งไอเทมให้เพื่อนเก็บได้ด้วย โดยเราจะมีโอกาสซื้อไอเทมกัน 3 รอบต่อแมทช์ (ภายในแมทช์แบ่งออกเป็น 3 Area)

image 324
image 325

สำหรับฝั่งวายร้ายหรือ Mastermind จะให้เรารับบทเป็นจอมวางแผน ซึ่งผู้เล่นสามารถส่องกล้องวงจรปิดในแต่ละพื้นที่พร้อมกับวางกับดักหรือเรียกศัตรูเช่นซอมบี้ขึ้นมาขวางทาง หรือจะควบคุมกล้องวงจรปิดเพื่อใช้ปืนกลยิงใส่อีกฝ่ายก็ได้ ทักษะต่างๆ เหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบการ์ด และเราจะต้องเก็บเกจเช่นเดียวกัน ดังนั้นอย่าคิดว่าจะเสกซอมบี้ใส่รัวๆ แบบไม่คิดหน้าคิดหลังเด็ดขาดนะเออ ทั้งนี้ที่สำคัญที่สุดคือเราสามารถควบคุมศัตรูได้ด้วย ใครอยากเล่นเป็นซอมบี้ก็ได้สานฝันเสียที (มี Mr. X และ G ร่างแรกให้ใช้เช่นกัน)

【องค์ประกอบเกมออนไลน์แบบ Free-to-play มีอยู่เพียบ】

ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายดีเพราะว่า Resident Evil: Resistance มีความเป็นเกมแนว Free-to-play สูงมาก ดังนั้นเกมก็มาพร้อมกับ Loot Box ทั้งไอเทม ทักษะพิเศษ เครื่องแต่งกาย ที่อาศัยดวงล้วนๆ มิหนำซ้ำยังตอกย้ำด้วยการขาย Booster สำหรับเพิ่มเงินที่ได้รับเพื่อซื้อกล่องเกลือเหล่านี้ด้วย (หรือใครจะขยันทำภารกิจก็ได้) เท่านั้นไม่พอเกมอาศัยการฟาร์มมากพอสมควรเพราะต้องเก็บเลเวล ปลดล็อคทักษะเป็นคนๆ ไป เกรงว่าก่อนจะสนุกคงจะเบื่อกันไปเสียก่อน

image 326

【ประสบการณ์โดยรวม】

ทั้งๆ ที่เป็นเกม Resident Evil จากเอนจิ้นพัฒนา RE Engine แท้ๆ แต่ในส่วนของกราฟิกกลับดูเหมือนว่าโดนดาวน์เกรดเสียอย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะเกมมีโทนภาพที่สว่างมากกว่าจึงดูเหมือนรายละเอียดต่างๆ ถูกชะล้างไปจนไม่เหลือความละเมียดละไมของ Resident Evil 2 / 3 (ยิ่งฉากการเล่นก็ดูรู้เลยว่างานเร่ง) ในส่วนของเพลงประกอบเองก็ไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ ทั้งนี้ Skill ของตัวละครทั้งสองฝ่ายมีความสมดุลดี ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ วัดกันที่กึ๋นแบบเต็มๆ 

ประสบการณ์การเล่นจากที่ได้ทดลองทั้งเกมเวอร์ชั่น Open Beta และตัวเกมฉบับสมบูรณ์ยังเจอปัญหาหาห้องนานอยู่เหมือนเดิม ซึ่งขอแนะนำว่าถ้าใครไม่อยากเสียเวลารอเข้าเกมก็ควรเลือกโหมด Quick Play แล้วคอยเสี่ยงดวงเอาว่าจะได้อยู่ฝ่ายผู้รอดชีวิต หรือฝ่ายตัวร้าย นอกจากนี้เกมยังขึ้นข้อความการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียรตลอดเวลา (เวลาเรายิงปืนการมีดีเลย์ไปตามระเบียบ) ทำให้เราเกิดความรำคาญเอาง่ายๆ

【บทส่งท้าย】

ฉันใดก็ดี Resident Evil: Resistance ไม่ใช่เกมที่แย่หรือดีจ๋า แต่ยังคงมีภาษีที่สูงกว่า Umbrella Corps การขัดเกลาเรื่องเซิร์ฟเวอร์สักนิดอาจจะทำให้เกมดูดีขึ้นมาได้บ้าง อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้เล่นคงจะผิดหวังกันไม่น้อย ซ้ำร้ายตัวละครที่ดูมีความหลากหลายแต่ดันไม่น่าจดจำและไร้ซึ่งส่วนเกี่ยวข้องกับ Lore ของเกมก็ชวนให้เราลืมเลือนเกมนี้เข้าไปใหญ่ เห็นแบบนี้แล้วก็คงได้เพียงภาวนาให้ผู้พัฒนาสามารถกู้สถานการณ์ปัจจุบันให้พลิกมาดีได้ในเร็ววันครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ CAPCOM Asia ที่อนุเคราะห์ตัวเกม Resident Evil: Resistance มาให้ทาง ThisIsGame Thailand ได้รีวิวกัน ถ้าใครสนใจอยากทดลองเล่นก็สามารถซื้อ Resident Evil 3 กันได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่ง Resident Evil: Resistance จะตามติดกันมาแบบ 1 แถม 1 และต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดการเล่นนะครับ

image 327

[รีวิว] Resident Evil 3 หวนคืนสู่ฝันร้ายเมืองผีดิบ

image 328
image 895

อย่าลืม! กด Subscribe และกดกระดิ่ง ที่

image 77
image 78
image 79

>> เข้ากลุ่มคนไทยพูดคุยเกี่ยวกับ <<

image 80
image 81
image 82

GantaroZX

นักเขียนข่าววิดีโอเกม ผนวกสังคม วัฒนธรรม ศิลปะ เพศ แบบคนไทยคนแรกของแทร่ ผู้ใหญ่บ้านแห่ง Animal Crossing | กินเก่ง | ปากร้ายแต่ใจดี น่ารักอ่อนหวานคิขุ
Back to top button