รีวิว

[รีวิว] Nickelodeon All-Star Brawl 2 สังเวียนชาวการ์ตูนสายบู๊แบบอัปเกรด

การกลับมาของเกมไฟต์ติ้งรูปแบบปาร์ตี้ที่พัฒนาขึ้นทุกด้าน

หมายเหตุ: การรีวิวนี้อ้างอิงจากตัวเกมเวอร์ชัน PlayStation 5 ประสบการณ์ที่ได้รับอาจจะแตกต่างกันในการเล่นแต่ละแพลตฟอร์ม

Nickelodeon เป็นแบรนด์บันเทิงที่ได้รับความนิยมสูงทั่วโลกในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านการ์ตูนจากตะวันตกที่มีแฟรนไชส์ดังในเครือจำนวนมาก ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยครับที่จะเห็นสินค้าเช่นเครื่องแต่งกาย หรือการดัดแปลงสู่รูปแบบภาพยนตร์ทั้งอนิเมชันสามมิติหรือการเป็นส่วนหนึ่งของป๊อบคัลเจอร์ กระนั้นก็ไม่มีการรวมดาวครั้งไหนที่ได้รับความสนใจมากเท่ากับการมาถึงของเกม Nickelodeon All-Star Brawl ที่วันนี้ก็ถึงคิวเกมภาคสองแล้วด้วย และแน่นอนว่า ThisIsGame Thailand ก็ไม่พลาดที่จะนำเกมนี้มารีวิวเพื่อนำความประทับใจมาฝากเช่นกัน

【ยังเล่นง่ายเหมือนเดิม คอนเทนต์ก็แน่นปึ้ก】

image 3593

แน่นอนว่า Nickelodeon All-Star Brawl 2 ยังคงเป็นเกมรูปแบบ Arena Fighting ที่จับตัวละครมาปะฉะดะกันในสังเวียนขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่รองรับผู้เล่นกันถึง 4 คน และวิธีการเล่นก็คล้ายของเดิมเลยครับนั่นคือฟาดฟันกันกับศัตรูอย่างไรก็ได้ให้อีกฝ่ายปลิวออกไปนอกฉากให้ได้บ่อยที่สุด (หรือจนกว่าป๊อก – จำนวนชีวิตจะหมด) โดยสนามและตัวละครต่างๆ ก็จะมาจากการ์ตูนค่าย Nickelodeon อาทิ Danny Phantom กับ Spongebob นั่นเองครับ

ไลน์อัปตัวละครที่กลับมาครั้งนี้โดยมากยังเป็นชาวแก๊งจากภาคแรกแต่ก็มีบางตัวละครที่ถูกตัดออกไปเช่นเต่านินจาที่ Raphael กับ Donnatello ได้แท็กทีมมาให้เล่นแทนอีกสองตัวที่มาในภาคที่แล้ว แต่ก็ต้องบอกเลยว่าตัวละครที่เพิ่มเข้ามานั้นมีมากกว่าเยอะจนคุ้มค่า เช่น Squidward และ Jimmy Neutron การ์ตูนดังที่เราคิดถึง ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าคิดว่าจะเป็นเกมที่ผ่านมาจากภาคแรกแล้วหยิบจอยเล่นได้เลยเพราะอาจจะต้องมีการขัดเกลาสกิลกันใหม่ในส่วนเมคานิกที่จะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป …อดใจรออีกสักนิสนุง

image 3594

ถัดมาที่คอนเทนต์เกมภาคนี้ได้เพิ่มโหมดใหม่เข้ามาเยอะมากเลยครับ เริ่มที่โหมดเนื้อเรื่องที่เป็นแคมเปญขนาดใหญ่มีคัตซีนพร้อมให้เสียงพากย์แล้ว หลังจากที่ภาคที่แล้วแพตช์แรกๆ นั้นมีฉากพูดคุยแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรเลยและไม่มีเนื้อเรื่องจริงจังด้วย ซึ่งลักษณะเนื้อเรื่องก็เป็นการร่วมมือกันระหว่างตัวการ์ตูนที่ต้องหยุดยั้งแผนการเหล่าร้ายที่จะมิติทั้งหมด ทั้งนี้จะไม่ได้เป็นคัตซีนอะไรที่อลังการมาก คุยจนจบก็ตบตีกัน หรืออาจจะมีมินิเกมแบ่งมาแทรก และจะมีโลก Hub ให้เราอัปเกรดความสามารถตัวเองครับ

โหมดแคมเปญนี้สังเกตว่าถึงเนื้อเรื่องไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่เด่น (เน้นว่าไม่ใช่ไม่ดี แต่ดูกลางๆ ไม่แย่เลยนะครับ) ทว่ามิติของการเล่นคือความสนุก ระหว่างทางเราอาจจะเจอภารกิจที่ไม่เหมือนกัน เช่นการสู้ 1v1 หรือสู้ศัตรูเป็น Wave-based นอกจากนี้ยังมีเส้นแบ่งเส้นทางด้วย สังเกตแล้วเหมือนเป็นเกม Roguelike สไตล์ต่อสู้เลย ถือว่าเล่นเพลินทีเดียว อีกทั้งเมื่อจบ Route ใดก็จะมีบอสใหญ่รอไฝว้เราอยู่ด้วยครับ ส่วนใครที่อยากเล่นแบบคลาสสิก ก็มีโหมด Arcade และโหมด​ Boss Rush สู้บอสอย่างเดียว เช่นเดียวกับโหมดมินิเกม (รวมมินิเกมจากแคมเปญ เช่นวิ่งเก็บของ) และที่สำคัญเล่นออนไลน์แบบ PvP ได้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ Cross-platform อยู่เครื่องไหนก็แลกหมัดกันได้ผัวะๆ

【เมคานิกที่เปลี่ยนไป】

หากยังจำกันได้ เกมภาคที่แล้วเดินตามแบบฉบับของ Super Smash Bros. นั่นคือการใช้ปุ่มต่อสู้รูปแบบ ธรรมดา/สเปเชียล และผสมผสานกับปุ่มทิศทาง แต่ในภาคนี้ได้แก้ไขผังปุ่มใหม่ให้มีการต่อสู้ 3 แบบ และตัวละครเดิมทั้งหมดได้รับการรีเวิร์คแล้ว มีการใช้ท่าชาร์จ ท่า Recovery ไว้หลบจากการโดนเตะลงหลุม เรียกได้ว่าพลิกเกมใหม่กันเลยครับ แต่กระนั้นก็ไม่ได้เป็นความยุ่งยากอะไรเพราะไม่ต้องอาศัยชุดปุ่มยาวๆ แค่กดควบท่าก็มีคอมโบเด็ดๆ 

นอกจากนี้เกมเพลย์โดยรวมจะเร็วขึ้น ไม่ได้หน่วงและตีไม่แรงสะใจเหมือนภาคที่แล้ว ซึ่งเคยเป็นปัญหาช่วงหนึ่งเลยครับที่เกมไม่มี Ouch Impact ที่มากพอทำให้การต่อสู้นั้นไม่ดูเข้าน้ำเข้าเนื้อ แต่ภาคนี้แก้ไขให้เราได้สัมผัสความหนึบบ้าง เช่นเดียวกับการเพิ่มระบบ Air Dodge หลบศัตรูกันกลางอากาศไปเลย และอีกหนึ่งสิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือ Slime Meter ที่จะให้ผู้เล่นเก็บค่าพลังเพื่อชาร์จท่าไม้ตายแรงๆ ได้ครับ

image 3595

【แฟนเซอร์วิสเพียบ】

อีกหนึ่งปัญหาจากภาคที่แล้วก็คือเสียงพากย์ที่คราวนี้กลับมาใหม่ก็มาพร้อมกับความโหวกเหวกโวยวายของเหล่าตัวการ์ตูนแล้ว ซึ่งจุดนี้ประทับใจมากๆ ครับเพราะดึงคาแรกเตอร์ออกมาได้แบบเต็มที่กว่าเดิม เช่นเดียวกับการรีเวิร์คท่าที่กล่าวไว้ข้างต้น จะเห็นว่าท่าต่อสู้มีการนำอ้างอิงมาจากซีนต่างๆ ในการ์ตูน อย่าง Squidsward ก็จะมีท่าที่ทำให้หน้าพี่แกเป็นแบบในมีมด้วยครับ ใครที่เป็นแฟนการ์ตูนค่าย Nickelodeon รับรองว่าฟิน ส่วนโหมดแกลอรี่ที่เอาไว้ปลดล็อกอาร์ตเวิร์กก็มีเหมือนเดิม

image 3596

【กราฟิก】

งานภาพของเกมภาคนี้ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าภาคแรกเพราะว่าสีสันจะดูสดใสมากกว่าเดิมไม่ได้เป็นโมเดลที่สีดูสว่างจนซีดและเหมือนกับภาพตัดแปะอีก ต้องชื่นชมทีมงานเลยครับที่สามารถทำให้ตัวละครทั้งหมดดูกลมกลืนกันโดยที่ไม่ได้เหมือนกับหยิบจับมาใส่รวมๆ กันในหม้อชาบู (ว่าไปนั่น) กระนั้นเอกลักษณ์ของตัวละครก็ถูกถ่ายทอดมาได้ครบถ้วนเช่นกัน อย่าง Jimmy Neutron ก็รู้สึกว่าไม่ตะขิดตะขวงเลย

【บทสรุป】

Nickelodeon All-Star Brawl 2 เป็นการเรียกคืนความเชื่อมั่นได้อย่างสวยงามเลยครับ ซึ่งแน่นอนว่าบางจุดอาจจะรู้สึกว่ายังไปได้สุดกว่านี้ และแอบรู้สึกเสียดายตัวละครที่ถูกตัดออกไป แต่อย่างน้อยการเริ่มต้นของภาคนี้ถือว่าโอเคและคุ้มค่าจริงๆ โดยเฉพาะจุดเด่นเรื่องคอนเทนต์ของเกมที่ใส่เข้ามาแบบเบิ้มๆ ขณะเดียวกันเกมก็มีระบบออนไลน์แบบ Cross-platform ดังนั้นเล่นกันได้ไม่มีเหงาเพราะทุกเครื่องก็จอยกันได้หมดเลยครับ ว่าแล้วก็อยากให้กำลังใจในการสร้างสรรค์คอนเทนต์เพิ่มเติมใส่เข้ามาในอนาคต

image 3597
image 3598

สกินเริ่มต้นก็มีให้เลือกตั้งสามแบบ!

image 266

สุดท้ายนี้พวกเราก็ขอขอบคุณ Ripples Asia และ GameMil Entertainment สำหรับเกม Nickelodeon All-Star Brawl 2 ที่เราได้นำมาทดสอบกันด้วย ซึ่งเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจก็สามารถหาซื้อได้แล้วทั้งบน PlayStation 5, Xbox Series X|S, Nintendo Switch และ PC เช่นเดียวกับคอนโซลเจ็นเนอเรชันก่อนหน้าอย่าง PlayStation 4 และ Xbox One ส่วนโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอีกก็ขอเชิญติดตามกันที่นี่เช่นเคยครับ

GantaroZX

นักเขียนข่าววิดีโอเกม ผนวกสังคม วัฒนธรรม ศิลปะ เพศ แบบคนไทยคนแรกของแทร่ ผู้ใหญ่บ้านแห่ง Animal Crossing | กินเก่ง | ปากร้ายแต่ใจดี น่ารักอ่อนหวานคิขุ
Back to top button