[รีวิว] Hot Wheels Unleashed 2: Turbocharged ภาคต่อรถแข่งสายฟ้าแลบ

หมายเหตุ: บทความรีวิวนี้ใช้ตัวเกมเวอร์ชัน PlayStation 5 ในการรีวิว ประสบการณ์ที่ได้รับอาจแตกต่างกันตามแพลตฟอร์ม

ว่าด้วยเกมแนว Racing ในตลาด ผู้เล่นมักจะจัดโพสิชันไว้สองรูปแบบคือไม่เป็นเกมที่เน้นสมจริงไปเลยแบบซีรีส์ Forza, Need for Speed (หากไม่แยกไปอีกว่าเป็นเซอร์กิตหรืออาร์เคด) ก็ต้องเป็นแนวรถแข่งปาร์ตี้แบบ Crash Bandicoot และ Mario Kart ซึ่งทั้งสองประเภทนี้ล้วนเป็นแม่แบบให้เกมอื่นๆ ที่ตามมาทีหลัง ทว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมา การมาถึงของแบรนด์ของเล่นดัง Hot Wheels ในรูปแบบวิดีโอเกมประสบการณ์คอนโซลเต็มตัวก็เข้ามาดิสรัปต์จนเกิดเป็นเกมรถแข่งรูปแบบแคชวลกึ่งฮาร์ดคอร์ที่เป็นเหมือนสายกลางในที่สุด

ปี 2023 นี้ Hot Wheels Unleashed ก็ได้กลับมาอีกครั้งในเกมภาคสองที่มีชื่อว่า Turbocharged และจากการที่ ThisIsGame Thailand ได้มีโอกาสสัมผัสก็ต้องพูดเลยครับว่าชาร์จพลังกันเต็มที่สมกับชื่อเลย โดยวันนี้เอง Ripples Asia ก็ได้มอบโอกาสให้พวกเราได้นำตัวเกมมารีวิวให้เพื่อนๆ ติดตามกันด้วย แต่จะมีอะไรน่าประทับใจบ้างนั้นว่าแล้วอย่ารอช้า ขอเชิญมาเหยียบคันเร่งแล้วพุ่งไปพร้อมกันเลยครับ

【รถแข่งความเร็วสายฟ้าแลบพร้อมโหมดการเล่นที่หลากหลาย】

พูดถึง Hot Wheels แล้ว สิ่งที่ต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกก็คือรูปร่างที่โฉบเฉี่ยวและสีสันอันสวยงาม ซึ่งตัวเกมได้ถ่ายทอดมาด้วยกราฟิก Unreal Engine 4 พร้อมให้ภาพสวยงามสมจริงผ่านเฟรมเรตระดับ 60FPS นิ่งๆ เนียนตายิ่งกว่าเดิม ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกสรรรถแข่งคู่ใจที่มาพร้อมกับตัวเกมได้ตั้งแต่เปิดเกมมากกว่า 130 คัน ทั้งรถแข่งทั่วไป และยังมีรถประเภทใหม่อย่างมอเตอร์ไซค์ เช่นเดียวกับ ATV รถสี่ล้อวิบากพร้อมลุยในทุกสถานการณ์ความมันส์

ในส่วนของโหมดการเล่นใครที่อยากจะ Jump In เข้ามาแบบไม่ต้องซีเรียสก็มีเหมือนเดิมนั่นคือหมวดของ Quick Play ที่จะแบ่งออกเป็นโหมดแข่งกับ AI หรือโหมดแบ่งหน้าจอเล่นกับเพื่อน ซึ่งเมื่อเราจบการแข่งขันช่วง Tutorial ตอนแรกก็จะเข้าสู่เมนูที่จัดสรรมาเป็นระเบียบเลยครับ โดย Quick Play นี้ เมื่อเข้าไปแล้วก็จะยังมีโหมดการเล่นแยกย่อยอีกถึง 5 แบบ ไม่ว่าจะเป็นโหมดการแข่งขัน Quick Race เลือกรถ เลือกด่าน แล้วซิ่งได้เลย, Elimination เร่งความเร็วไม่ให้รั้งท้าย เป็นเกมสไตล์แบทเทิลรอยัลที่ใครแพ้โดนระเบิด หรือจะเป็น Drift Master แข่งกันทำคะแนนจากการดริฟต์ เช่นเดียวกับ Waypoint ที่ผู้เล่นจะไม่ได้แข่งขันกันในสนามทั่วไป แต่เป็นการจับรถของเราลงสู่ฉากขนาดใหญ่ วิ่งไปหาจุดที่กำหนด ส่วนใครอยากเล่นทำคะแนนอวดเพื่อนก็มี Time Trial เหมือนเดิมครับ

โดยรวมแล้ว Hot Wheels Unleashed 2: Turbocharged ไม่ได้เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์การแข่งรถดุเดือดที่เหมือนกับเกมประเภท Racing เกมอื่นๆ แต่ให้ความเป็นอาร์เคดมากกว่า และด้วยธีมของการที่รถแบรนด์นี้คือรถของเล่นไซส์จิ๋ว โลกที่เราเห็นนั้นแม้จะเป็นฉากขนาดสเกลมนุษย์ แต่พื้นที่การเล่นที่เราจะใช้เวลาด้วยกันมากที่สุด ก็คือรางรถสีส้ม – น้ำเงินแบบที่คุ้นตา ซึ่งก็ให้อารมณ์ที่ต่างจากการฟาดฟัน เอาชนะบนถนนยางมะตอยสไตล์ Gran Turismo – Forza Motorsport และอีกทั้งมีความเป็นแคชวลในตัวครับ

【เกมเพลย์ใหม่ๆ ที่ใส่เข้ามาให้สนุกมากขึ้น】

วิธีการเล่นยังคงเหมือนเดิมเลยครับนั่นก็คือผู้เล่นเพียงแค่เหยียบคันเร่งไปข้างหน้า เก็บเกจบูสต์ที่จะขึ้นเมื่อเราขับรถไปสักพัก จากนั้นกดปุ่ม O เพื่อใช้สปีดแย่งชิงความเป็นหนึ่ง แต่ถ้าจะมีแค่นี้คงดูไม่ท้าทายนัก ผู้เล่นสามารถดริฟต์ให้เกจบูสต์เพิ่มสูงขึ้นแบบเร็วกว่าเดิมได้เช่นกัน แต่นอกเหนือจากการประลองความเร็วแล้ว Hot Wheels Unleashed 2: Turbocharged มาพร้อมกับแอ็กชันใหม่ที่ส่งผลต่อการแข่งชัดเจน และผมคิดว่าน่าจะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะถูกเพิ่มเข้าไปยังภาคอื่นๆ ในอนาคตด้วย 

สิ่งนั้นคือระบบกระโดดที่ผู้เล่นสามารถกดปุ่มสามเหลี่ยมเพื่อเด้งตัวขึ้นได้ถึงสองสเต็ปไปยังทางลัดหรือข้ามอุปสรรคประเภทห่วงไฟเป็นต้น นอกจากนี้ยังทำการ ‘แดช’ ที่ไม่ใช่บูสต์ธรรมดา แต่จะเร่งเครื่องและกระแทกคู่ต่อสู้ให้ตกจากรางแข่งขันได้เหมือนกันครับ เห็นได้ว่าเกมมีมิติมากขึ้นกว่าเดิม และจากที่ผมกล่าวถึงโหมด Waypoint ไว้ข้างต้นตอนนี้หลายคนอาจจะงงว่า แล้วในโหมดที่ไม่มีรางเราจะทำอย่างไร คำตอบก็คือเป็นโหมดที่เหมาะกับการนำรถ ATV ที่เป็นรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกมาลุยมากกว่า ซึ่งความรู้สึกจากการใช้รถแข่งแบบ ATV แทนรถทั่วไปก็แตกต่างกันมากเนื่องจาก ATV จะมีน้ำหนักต่างกันทำให้โมเมนตัมเวลาเราเหิน ลอยฟ้า (ตามสไตล์ของรถ Hot Wheels) มันมีความจั๋งหนับมากกว่า และถ้าหากใครเป็นคนที่อยากให้ความละเอียดกับสเปครถ ก็มีผัง Skill Tree สำหรับแต่งตามเกมเพลย์ที่ต้องการ เพิ่มความสามารถให้รถของเราแข็งแกร่ง

โหมดถ่ายรูปงามๆ ก็มีเครื่องมือให้เราได้แชะภาพในช็อตที่ดีที่สุด

【ฟีเจอร์การสร้างสรรค์ที่อิสระ】

ขาดไปไม่ได้กับฟีเจอร์การ ‘โม’ สิ่งต่างๆ ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกลวดลายรถใหม่ได้แบบไร้ขีดจำกัด อีกทั้งมีเครื่องมือสำหรับการสร้างลายใหม่ๆ เองเพื่อแบ่งปันกับผู้เล่นอื่นทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหนก็สามารถแชร์ให้ได้ และที่สำคัญที่สุด พูดถึง Hot Wheels แล้วก็อย่าลืมว่าเรื่องการแต่งสนามก็เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับแบรนด์นี้เหมือนกัน โดยระบบการสร้างฉากนี้จะใช้งานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะผู้เล่นสามารถลากพาร์ตต่างๆ ต่อเข้าหากัน หรือสร้างพาร์ตยาวๆ ที่มีเส้นทางฉวัดเฉวียนได้เลย

【โหมดเนื้อเรื่อง – ภาษาไทย】

โหมดเนื้อเรื่องกับภาษาไทยขออนุญาตไว้รวมกันเพราะเป็นไฮไลต์สำหรับแฟนเกมในบ้านเราเลยก็ได้ เนื่องจากว่านอกเหนือจากการแปลภาษาในส่วนของคำบรรยายแล้ว Hot Wheels Unleashed 2: Turbocharged มาพร้อมกับเสียงพากย์ภาษาไทยเต็มรูปแบบ และคุณภาพการพากย์ก็ถือว่าดีมากทีเดียวราวกับดูการ์ตูนฝรั่งเรื่องหนึ่งเลยครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นในเรื่องของการแปลภาษาของคำบรรยายโดยรวม อาจจะดูแข็งๆ ไปบ้าง และมีบางจุดที่ตัวอักษรทะลุช่องข้อความ ซึ่งคาดว่าเป็นปัญหาด้านเทคนิค แต่ไม่ได้เรียกว่าน่าตะขิดตะขวงใจเท่าไรนัก

ในตัวเนื้อเรื่องหลายคนอาจจะเข้าใจว่าเป็นเหมือนกับ Tutorial ที่ใส่คอนเทนต์เนื้อหามา แต่ขอบอกว่าไม่ใช่ เพราะผู้เล่นจะได้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลเรื่องราว Hot Wheels เลย โดยเนื้อหาก็เหมาะกับทุกเพศทุกวัยตามสไตล์ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเดินทางของเหล่านักแข่งที่ต้องเจอกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่กำลังจะทำลายโลก มีคัตซีนให้ติดตามพอหอมปากหอมคอ และบอสใหญ่รอคอยอยู่หลายฉากพร้อมให้เราได้ทดสอบฝีมือกันครับ

【บทสรุป】

Hot Wheels Unleashed 2: Turbocharged ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของซีรีส์ Hot Wheels Unleashed ที่หยิบเอาส่วนดีๆ ของภาคแรกมาปรับปรุงให้ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น และด้วยเกมเพลย์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ก็น่าจะเป็นรากฐานสำคัญที่จะวางแผนให้เกมนำไปต่อยอดในอนาคตได้ อาทิการจัมพ์ หรือแดช แต่สำหรับคนไทยเองน่าจะฟินเป็นพิเศษกับเนื้อเรื่องที่มีเสียงพากย์จริงๆ ให้ติดตามแถมธีมไม่รุนแรงนี้ยังเหมาะกับเด็กๆ หรือคนที่รักความเร็วทุกคน ใครที่ชอบภาคแรกไม่ควรพลาดเลย

Hot Wheels Unleashed 2: Turbocharged จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 ตุลาคมนี้บน PlayStation 4, Xbox One, Nintendo Switch และ PC เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มเน็กซ์เจ็น เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาเกมรถแข่งสไตล์ปาร์ตี้แคชวล หรือเป็นแฟนของ Hot Wheels อยู่แล้วก็เตรียมตัวเล่นกันได้เลยเพราะการกลับมาครั้งนี้ จัดเต็มยิ่งกว่าเดิมแบบทะลุพิกัด ส่วนโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอีกครั้ง ก็ขอเชิญติดตามที่นี่ได้เช่นเคยครับ