[รีวิว] Baten Kaitos I & II HD Remaster เวอร์ชั่น Nintendo Switch

หากย้อนเวลากลับไปในช่วงปี 2003 ในยุคที่เครื่องเกมคุณภาพอย่าง GameCube กำลังมีบทบาทอยู่ในแวดวงเกม ก็ได้กำเนิดเกม Turn-based RPG ที่ผสมผสานกับความเป็น Card Game จากค่าย Namco ปรากฎตัวขึ้นมาให้ผู้เล่นได้รู้จัก เกมนั้นชื่อว่า Baten Kaitos: Eternal Wings and the Lost Ocean และมีภาคต่ออีกภาคในปี 2006 ชื่อว่า Baten Kaitos Origins เป็นเกมที่ดีและมีคะแนนรีวิวจากสื่อเกมในยุคนั้นค่อนข้างสูง แต่เนื่องจากเครื่อง GameCube ไม่ค่อยได้รับความนิยมในตอนนั้นสักเท่าไหร่และทำให้ต้องเลิกผลิตไป ส่งผลให้ซีรีส์ Baten Kaitos ก็เลือนหายตามไปด้วย แต่วันนี้ Baten Kaitos ได้กลับมาอีกครั้งในเครื่อง Nintendo Switch พร้อมกับการแพ็ครวมทั้ง 2 ภาค ในชื่อเกมว่า Baten Kaitos I & II HD Remaster ครับ

ภาพรวมของเกมนี้

Baten Kaitos I & II HD Remaster ก็ตามชื่อเลยครับ เป็นเกมที่แพ็ครวม Baten Kaitos ทั้ง 2 ภาคด้วยการซื้อเพียงแค่ครั้งเดียว สามารถเลือกได้ว่าจะเล่นภาคไหนก่อนหลังก็ได้ โดยทั้ง 2 ภาคจะเป็นการ Remaster จากเกมต้นฉบับให้ภาพคมขึ้น เพิ่มเฟรมเรทมากขึ้น แต่โดยรวมแล้วยังคงเป็นเกมเดิมตั้งแต่ภาค GameCube ทั้งสองภาคจะมีรูปแบบเกมเพลย์แนว RPG Turn-based แบบ Old School คือผลัดกันโจมตีเป็นเทิร์น ๆ มีเวลาให้หยุดคิด แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์คือเกมนี้ใช้ระบบ Card มาเป็นตัวควบคุมการต่อสู้ ทั้งรอบที่โจมตีและรอบที่ป้องกัน ทำให้หลายครั้งมีเรื่องดวงเข้ามาเกี่ยว แต่ก็สามารถจัดเด็คก่อนเข้าสู้ได้ และสู้เสร็จก็จะได้รับรางวัลเป็นการ์ดที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เด็คมีการปรับปรุงอยู่ตลอด ผจญภัยไปกับตัวละครที่จะเพิ่มเข้ามาร่วมทีมกับคุณตามเนื้อเรื่อง และไปยังสถานที่ต่าง ๆ สุดแฟนตาซีครับ

ภาพกราฟิกสไตล์ยุค 2000

ในด้านของกราฟิกและอาร์ตภายในเกมจะเป็นภาพกราฟิกแบบโพลิกอน โดยตัวละครและฉากบางอย่างที่เคลื่อนไหวจะถูกปั้นโดยโมเดลเหลี่ยม ๆ ทำมุมปั้นขึ้นมาเป็นตัวละครตามสไตล์โพลิกอน ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากในยุค 2000 แต่ก็ยังใช้ภาพวาดแสดงใบหน้าตัวละครและบางฉากที่ไม่เคลื่อนไหวอยู่บ้าง ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างกราฟิกโพลิกอนเคลื่อนไหวและอาร์ตภาพนิ่งรวมกันเป็นฉากได้อย่างลงตัว และเกมนี้ส่วนใหญ่จะอยู่กับความแฟนตาซีและอยู่กับธรรมชาติ พองานภาพถูก Remaster ให้คมขึ้น ก็ยิ่งทำให้ภาพสวยขึ้นตามไปด้วยครับ

เกมเพลย์สไตล์ JRPG สุดคลาสสิค

เกมเพลย์ในเกมนี้จะเป็นสไตล์ JRPG สุดคลาสสิค ก็คือสามารถบังคับตัวละครเดินไปเดินมาได้ สามารถสำรวจแผนที่ เปิดกล่องเก็บของ คุยกับ NPC เข้าไปในบ้าน โรงแรม ซื้อไอเทม เปิดเมนูจัดการตัวละคร สามารถออกไปสู่โลกภายนอกในส่วน World Map ได้ ภายในดันเจี้ยนก็จะมีกลุ่มมอนสเตอร์กระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด บางดันเจี้ยนต้องแก้ Puzzle เปิดหาทางไปต่อ เวลาเจอมอนสเตอร์เดินอยู่ในแผนที่พอเราเดินไปชนก็จะตัดฉากเข้าสู่การต่อสู้ สิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่คลาสสิคมาก

ระบบการต่อสู้ที่ใช้ Card

เมื่อเข้าสู่ Battle ไม่ว่าจะสู้กับบอสหรือมอนสเตอร์ทั่วไป การต่อสู้จะเป็นการใช้การ์ดทั้งหมด โดยจะแบ่งออกเป็น Phase โจมตีกับป้องกัน การ์ดทุกใบจะมีส่วนที่แสดงค่า ATK และ DEF อยู่ ถ้ามีแต้ม ATK แสดงว่าใช้โจมตีได้ ส่วน DEF จะเอาไว้ใช้ตอนป้องกันศัตรู แต่ถ้าการ์ดใบไหนมีทั้ง ATK และ DEF แสดงว่าการ์ดใบนั้นใช้งานได้ทั้ง 2 Phase มีความคล่องตัวสูงแต่ต้องแลกมากับแต้มที่อาจจะต่ำกว่าการ์ดที่ใช้งานเฉพาะทาง ยกตัวอย่างเช่น การ์ดที่ใช้ ATK หรือ DEF อย่างเดียวอาจมีความแรง 10 แต่ถ้าใช้ได้ 2 อย่าง อาจจะลดเหลือ ATK 6 / DEF 4 เป็นต้น ซึ่งการ์ดที่มีแต่ ATK จะใช้ใน Phase ป้องกันไม่ได้ ส่วนการ์ดที่มีแค่ DEF จะใช้โจมตีไม่ได้เช่นกัน

หน้าที่ของเราในแต่ละ Phase

ไม่ว่าจะเป็น Phase โจมตีหรือป้องกัน เราจะมีการ์ดที่ถืออยู่บนมือได้อย่างจำกัด ตอนแรกเริ่มของเกมนั้นจะถือได้แค่ 3 ใบเท่านั้น และจะค่อย ๆ เพิ่มจำนวนขึ้นมาในอนาคต แต่ในช่วงที่การ์ดบนมือถือได้น้อยนั้นมีโอกาสอย่างมากที่การ์ดต่างหน้าที่จะขึ้นมือมาผิด นั่นจึงเป็นเรื่องของดวงด้วยว่าเราจะโชคดีไหม หรือจัดการความน่าจะเป็นให้เล่นสะดวกมากแค่ไหน ซึ่งใน Phase โจมตี เราจะต้องใช้การ์ดที่มีค่า ATK หรือการ์ดไอเทมสนับสนุนที่เป็น Recovery หรือการ์ดโจมตี Combo ได้ ซึ่งจะใช้ได้ตั้งแต่ 2 ใบขึ้นไปตามเลเวล ส่วนใน Phase ป้องกัน เราจะต้องใช้การ์ดที่มีค่า DEF ป้องกันดาเมจตามจำนวน Hit ที่ศัตรูโจมตีมา ในกรณีที่ต้องใช้การ์ดมากกว่าการ์ดบนมือ ระบบจะสุ่มจั่วการ์ดจากเด็คขึ้นมา ถ้าคุณเห็นว่ามันใช้ต่อได้และคิดทัน คุณก็สามารถกดใช้เลย ดังนั้นเกมเพลย์จึงมีความตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยครับ

จัดเด็คได้ตามสไตล์ของคุณเอง

ตัวละครทุกตัวในทีมของเราที่สามารถเล่นได้นั้นจะมี Deck เป็นของตัวเอง ซึ่งแต่ละคนจะสามารถใส่การ์ดได้สูงสุด 20 ใบ สามารถดีไซน์ได้ตามที่คุณต้องการ โดยประเภทของการ์ดหลัก ๆ ก็จะแบ่งออกเป็น 3 อย่าง คือ การ์ดโจมตีที่เป็นรูปอาวุธหรือเวทมนตร์ การ์ดป้องกันที่อาจจะเป็นเกราะหรือโล่ และการ์ดสนับสนุนเช่นการ์ดฟื้นฟู HP หรือการ์ดบัฟ ATK จะเอาอะไรใส่ลงไปบ้างก็ได้ ถ้าดรอปการ์ดใหม่ ๆ แล้วจะเปลี่ยนใส่เลยทันทีก็ทำได้เช่นกัน คุณอาจจะเล่นบาลานซ์เป็น ATK 10 ใบ DEF 10 ใบ ก็ได้ ง่ายดี หรือคุณจะเล่นสายเมคชัวร์ ทุกใบมีทั้ง ATK และ DEF ใช้ได้ทุก Phase ก็ได้ อาจจะเบาหน่อย แต่มั่นใจได้เลยว่ามีไพ่ให้ใช้ชัวร์ ลองดีไซน์เด็คของคุณให้เหมาะสมกับตัวละครที่เล่นดูครับ

มีระบบเร่งความเร็วเกม

เนื่องจากเกม Baten Kaitos นั้นเป็นเกมเก่าตั้งแต่ยุค 2003 ซึ่งในสมัยนั้นจัดว่ามีเกมเพลย์ค่อนข้างช้า กว่าจะสู้มอนสเตอร์จบแต่ละรอบ กว่าจะวิ่งไปถึงเป้าหมายค่อนข้างกินเวลา ดังนั้นผู้พัฒนาเลยเพิ่มระบบเร่งความเร็วขึ้นมาช่วยผู้เล่น ซึ่งสามารถปรับได้สูงถึง 200% และมี Auto-Battle มาช่วยผู้เล่นให้สะดวกขึ้นด้วยถ้าไม่อยากเสียเวลาฟาร์ม เพราะมอนสเตอร์เกมนี้จะเกิดใหม่ทุกครั้งที่ย้ายแผนที่ อาจสร้างความรำคาญให้ผู้เล่นได้ ระบบอำนวยความสะดวกเหล่านี้ช่วยได้มากครับ

จุดเด่น

– เป็นเกมเก่าสมัย GameCube ที่หาเล่นไม่ได้แล้ว
– เป็นเกม RPG Turn-based ที่ต่อสู้ด้วยเกมการ์ด มีการจัดเด็คและใช้ดวงหน่อย ๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก
– การเล่าเรื่องและเกมเพลย์นอก Battle มีความเป็น JRPG แบบเก่าสูงมาก ซึ่งหาได้ยากในยุคปัจจุบัน
– บรรยากาศในเกมเน้นความแฟนตาซีสูง

จุดสังเกต

– เกมเพลย์ค่อนข้างช้า ต่อสู้ 1 ครั้งใช้เวลาค่อนข้างนาน และมอนสเตอร์เกิดใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยนแมพ
– RPG ยุคเก่าไม่มีไกด์อะไรบอกว่าต้องไปทางไหนต่อ ต้องอ่านและหาทางเอาเอง

และนี่คือรีวิวของเกม Baten Kaitos I & II HD Remaster ที่อยู่ในเครื่อง Nintendo Switch ครับ อย่าลืมนะครับว่าซื้อเกมนี้เกมเดียว ได้เล่นถึง 2 ภาคเลย คุ้มสุด ๆ ที่ได้เล่นเกม JRPG ระดับตำนานที่ถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในยุคปัจจุบัน เพราะถ้าจะไปหาเล่นในเครื่อง GameCube น่าจะหาไม่ได้แล้วล่ะ มาร่วมผจญภัยไปด้วยกันนะครับ 🙂

สั่งซื้อเกมได้ที่ : [คลิก]