[รีวิว] AEW Fight Forever
AEW Fight Forever เป็นเกมมวยปล้ำที่พัฒนาโดย Yuke’s และเผยแพร่โดย All Elite Wrestling ตัวเกมมาพร้อมกับรายชื่อนักมวยปล้ำกว่า 60 คนจาก All Elite Wrestling รวมถึงประเภทการแข่งขันที่หลากหลาย รวมไปถึงสังเวียนการปล้ำ ว่าแต่จะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้างเราไปหาคำตอบกันเลย
ระบบการเล่น
ระบบการเล่นเกมใน AEW Fight Forever ทำออกมาได้รวดเร็วและลื่นไหล ผู้เล่นสามารถกดคอมโบ ต่อสู้ และใช้ท่าพิเศษที่หลากหลายตามแต่ความถนัดและนักมวยปล้ำแต่ละคน ตัวเกมยังมีระบบสวนกลับที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นตอบโต้การโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้
การควบคุมของเกมนั้นเข้าใจได้ไม่ยากสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ อย่างไรก็ตามค่อนข้างที่จะต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควรหากต้องการที่จะเก่งเหนือกว่าใคร ผู้เล่นจะต้องเรียนรู้วิธีใช้การเคลื่อนไหวและการสวนกลับที่แตกต่างกันเพื่อให้ออกมาอย่างลงตัว แต่ถ้าใครไม่เข้าใจตัวเกมไม่ได้ใจร้าย เนื่องจากมีโหมดสอนเล่นให้ตลอดทั้งเกม
กราฟิกภายในเกม
กราฟิกใน AEW Fight Forever ถือเป็นกราฟิกที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในเกมมวยปล้ำ การออกแบบตัวนักมวยปล้ำทำออกมาได้ดูสมจริงและสังเวียนมีรายละเอียดและบรรยากาศที่เข้าถึงอารมณ์ผู้เล่นได้เหนือกว่าเกมอื่น ๆ ที่ทำออก ตัวเกมยังมีเอฟเฟ็กต์ภาพที่หลากหลาย เช่น ควันและประกายไฟ เพิ่มความตื่นเต้นให้กับการแข่งขัน ราวกับว่าเรากำลังได้ดูโชว์จริงอยู่ที่ขอบสังเวียน
การนำเสนอที่แตกต่าง
การนำเสนอใน AEW Fight Forever ทำออกมาได้อย่างลงตัว มีตัวเลือกคำการกระทำที่หลากหลายพร้อมกับเวลาที่เราขึ้นปล้ำบนสังเวียน จะได้ยินเสียงบรรยายไปตลอดทั้งการปล้ำ ซึ่งเสียงดังกล่าวมาจาก Jim Ross และ Tony Schiavone ที่ยกมาจากคนจริงที่หากใครติดตามคงคุ้นเคยกับคนทั้งสองเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีฉากคัทซีนที่หลากหลายซึ่งช่วยบอกเล่าเรื่องราวของการปล้ำได้เป็นอย่างดี
นักมวยปล้ำให้เล่น
รายชื่อของนักมวยปล้ำใน AEW Fight Forever เป็นหนึ่งในจุดแข็งของเกม เนื่องจากมาพร้อมกับนักมวยปล้ำกว่า 60 คนจาก All Elite Wrestling ไม่ว่าจะเป็น Kenny Omega, Chris Jericho, Jon Moxley, CM Punk และ Adam Cole ตัวเกมยังมีตำนานที่เราคุ้นเคยอย่าง เช่น Sting, Matt Hardy และ Paul Wight (Big Show)
โหมดการเล่นที่หลากหลาย
AEW Fight Forever มีประเภทโหมดการเล่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Singles, Tag-Team, 3-Way, 4-Way, Ladder, Casino Battle Royale, Falls Count Anywhere, Unsanctioned Lights Out, Exploding Barbed Wire Death รวมไปถึงโหมดออนไลน์ที่จะช่วยทำให้เราสามารถสนุกไปกับตลอดทั้งการเล่น เชื่อว่าจะไม่มีอาการเบื่อและไม่รู้จะเล่นในโหมดไหนอย่างแน่นอน
โดยรวมแล้ว AEW Fight Forever ถือว่าเป็นเกมมวยปล้ำที่ยอดเยี่ยม มีรูปแบบการเล่น กราฟิก และการนำเสนอที่น่าสนใจ เกมนี้ยังมีรายชื่อนักมวยปล้ำที่มากมาย หากใครที่เป็นแฟนมวยปล้ำ อยากให้ทุกคนได้ลองและไม่ควรพลาดเกมที่นำเสนอออกมาได้แตกต่างจากในอดีต ตัวเกมพร้อมเปิดให้เล่นใน Steam, PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One และ Xbox Series X/S ในวันที่ 29 มิถุนายน 2023 นี้
