[รีวิว] The Last of Us: Part II Remastered เวอร์ชัน PC

หมายเหตุ: การใช้งานเกมอ้างอิงจากอุปกรณ์ Steam Deck ควบคู่กับ​ PC

แม้จะผ่านมาเกือบครึ่งทศวรรษแล้วหลังจากการวางจำหน่ายครั้งแรกของ The Last of Us: Part II (ใช่ครับ! มันผ่านมาห้าปีแล้ว!) แต่ต้องบอกเลยว่าเรื่องราวของเกมนี้ และความทรงจำต่างๆ ตลอดในช่วงที่มีโควิดแพร่ระบาดมันก็ยังคงอยู่ในห้วงความคิดของพวกเราตลอด และในปีนี้เอง The Last of Us ก็จะกลับมาสร้างแรงสั่นสะเทือนอีกครั้งในการนำเกมภาคดังมาแบ่งปันให้ชาวเกมเมอร์ PC ได้เล่นกันแล้ว ต้อนรับการมาถึงของซีรีส์ฉบับคนแสดงจริงพอดิบพอดี!

เรื่องราวที่หยิบต่อเนื่องจากภาคก่อนหน้าโดยตรง แต่ไม่ต้องกลัวหลงทาง

The Last of Us: Part II นั้นบอกเล่าเรื่องราวต่อเนื่องจากเกมภาคแรกเป็นเวลาห้าปี เมื่อ Joel ได้ตัดสินใจพา Ellie กลับมาอยู่ยังแคมป์ชุมชนผู้รอดชีวิตขนาดใหญ่พร้อมปกปิดความจริงที่ว่าเขาฆ่าเหล่าบุคลากรการแพทย์ที่เชื่อว่าเป็นความหวังของมนุษย์ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อรามรณะ ก่อนที่การกระทำของเขาจะนำพาไปสู่สถานการณ์ความโหดร้ายแบบที่ไม่เคยมีใครคาดเดามาก่อน

ในช่วงเปิดเกมนั้นเนื้อหาถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเข้าใจได้ง่ายเพราะมีการบอกเล่าผ่านประโยคและคัตซีนสั้นๆ ที่ต่อให้ไม่ได้เล่นเกมภาคก่อนหน้าก็รับรู้ได้สบายๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นจากนั้นเหตุการณ์ต่างๆ ก็จะแบ่งพาร์ตออกเป็นส่วนของ Ellie และ Abby ตัวเอกอีกฝั่งให้เห็นว่าระยะเวลาคาบเกี่ยวกันพวกเขากำลังทำอะไร โดยภาครีมาสเตอร์นี้ได้อ้างอิงจากเวอร์ชัน PlayStation 5 มา ซึ่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจังหวะการเล่าเรื่อง ปรับแต่งส่วนใดเพิ่มเติมในแคมเปญหลักแต่อย่างใดครับ

เกมเพลย์ที่ลื่นไหลกว่าเดิม

หากใครเคยเล่นเกมภาคแรก หรือแม้จะเป็นตัว Part I เวอร์ชันรีเมค จะพบว่ารูปแบบการบังคับตัวละครมีความลื่นไหลมากขึ้น และความเร็วของตัวละครก็จะว่องไวอย่างเห็นได้ชัดเพราะ Ellie ก็เป็นตัวละครที่ปราดเปรียวมากๆ อยู่แล้วจากที่เราน่าจะได้มีโอกาสเล่นในภาคก่อนหน้า เราจะสามารถพุ่งกระโจน วิ่งไปทำร้ายศัตรู หรือแม้กระทั่งจะเป็นสายซุ่ม ทุกอย่างล้วนทำได้ง่ายๆ แบบไม่มีปุ่มอะไรเยอะ

การคราฟต์ไอเทมและการอัปเกรดปืนนั้นยังคงมีรายละเอียดมากเหมือนเดิมครับ สิ่งของต่างๆ ที่ผู้เล่นได้รับมาตามทางล้วนมีความสำคัญในการดัดแปลงเป็นกับดัก อาวุธสำหรับโยนที่รุนแรง ได้หลายแบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระป๋องตะปู หรือจะเป็นการอัปเกรดอาวุธมืออย่างค้อนติดใบมีดเป็นต้น ขณะเดียวกันในส่วนของการอัปเกรดอาวุธปืนนั้นก็จะแบ่งเป็นสัดส่วนพร้อมอนิเมชันให้เราได้เห็นชัดๆ ระหว่างที่เรากำลังงัดแงะแกะเกา จุดนี้อาจจะดูนานไปบ้าง ทว่าก็ให้อารมณ์ Immersive ไปด้วยอีกระดับ

นอกจากนั้นแล้วสเกลของฉากในเกมยังกว้างใหญ่มากขึ้น ผู้เล่นจะได้สำรวจสภาพแวดล้อมที่มีรายละเอียดมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ที่มีตึกรามบ้านช่องในระยะห่างหลายจุด และแต่ละจุดจะมีอะไรให้เราเข้าไปดูเยอะมาก บางจุดอาจจะกลายเป็นซ่องสุมของผู้ติดเชื้อที่มีไอเทมดีๆ บางอย่างซ่อนเอาไว้อยู่เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นการใช้งานบนอุปกรณ์ขนาดเล็กอย่าง Steam Deck ย่อมต้องมีการปรับแต่งบางส่วนเช่นกันครับ

การพอร์ตมาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

หากยังจำกันได้ แม้ The Last of Us: Part I บน PC จะได้รับการประกาศสเปคในขั้นที่ต่ำกว่ารอบปัจจุบันในเกมภาคนี้นะครับ ทว่าประสิทธิภาพในการรันเกมของ Part II: Remastered บน PC ดูจะไม่ได้เป็นปัญหามากเท่าไร โดยถ้าสังเกตให้ดีความต้องการของสเปคคอมพิวเตอร์จะเทียบเท่ากับ Spider-Man II และด้วยความที่เกมนี้ไม่ได้เป็นเกมที่มีสเกลฉากใหญ่ถึงขั้นโอเพนเวิลด์ ต่อให้มีรายละเอียดที่สมจริงมากขึ้น ทว่าก็ไม่หนักเครื่องจนเกินไป และสามารถเล่นรูปแบบ Ultra HD เห็นทัศนียภาพที่กว้างขวางกว่าที่เคย

ความน่าสนใจก็คือ The Last of Us: Part I นั้นเป็นเกมที่มีการพัฒนามาจากเนื้อแท้ที่เป็นเกมบนสถาปัตยกรรม PlayStation 3 ที่ไม่สามารถใช้งานกับระบบประมวลผล x86 อยู่แล้ว ดังนั้นเคสก่อนหน้าจะพบว่ามีปัญหาในการรันพอสมควร นอกจากนั้นแล้วจากการทดสอบบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์นอกจาก Steam Deck ก็สามารถรันภาพความละเอียดสูงได้สะดวกกว่าเดิมมากด้วยเทคโนโลยีอัปสเกล FSR ที่มีการรองรับตั้งแต่วันแรก ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมว่าเมื่อเกมใช้การประมวลผลเรื่อง CPU ที่หนักกว่าเดิม ปัญหาการรันก็เลยยังคงมีอยู่ ตรงนี้ปฏิเสธได้ยาก

คอนเทนต์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา

หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า The Last of Us: Part II Remastered มาพร้อมกับคอนเทนต์ใหม่จำนวนมาก เริ่มจากเนื้อเรื่องเสริมที่เป็นฉากที่ถูกตัดออกไปจากเกมเต็มรวมจำนวนสามฉาก โดยสถานะของซีนทั้งหมดนี้จะไม่สมบูรณ์ เช่นขาดอนิเมชัน ไม่มีเสียงพากย์ หรือบางจุดไม่ได้มีการลงกราฟิกจนพร้อมใช้งาน 100% เทียบกับเกมเต็ม ทว่าก็ทำให้เราได้เห็นไอเดียที่ทางทีมงานวางวิสัยทัศน์เอาไว้ นอกจากนั้นแล้วยังมีการวางจุดลงเสียงที่จะมีเสียงพากย์เบื้องหลังไอเดียนั้นๆ พร้อมคำแปลภาษาไทย (ตัวเกมรองรับคำบรรยายภาษาไทยทั้งเกมนะครับ!)

ที่สำคัญที่สุดก็คือโหมด No Return ที่เป็นประสบการณ์แบบ Roguelike นั่นเองครับ ขอแนะนำไว้ก่อนว่าโหมดนี้เป็นโหมดที่ทำให้เราได้เล่นวนกันยาวๆ เพราะจะให้เราได้รับบทเป็นตัวละครต่างๆ ที่ล้วนมี Perk กับชุดอาวุธที่เชี่ยวชาญไม่เหมือนกัน ต่อสู้กับศัตรูในฉากต่างๆ ที่อาจมีเอฟเฟกต์ไม่เหมือนกัน ยิ่งเล่นยิ่งได้แต้มอัปเกรดความสามารถ ทว่าหากพลาดท่าก็จะเป็น Permadeath โดยสมบูรณ์ สำหรับเวอร์ชัน PC นี้ก็ยังได้รับการอัปเดตคอนเทนต์ใหม่เรียบร้อย เพิ่มตัวละคร Bill กับ Marlene จากภาคแรก ทั้งสองมีลักษณะเกมเพลย์ไม่เหมือนกันด้วยครับ อีกทั้งยังมีด่านใหม่อีกสี่แบบ

อีกจุดที่สังเกตได้ก็คือ The Last of Us: Part II Remastered นั้นอ้างอิงจากแพตช์เวอร์ชันใหม่สุด ดังนั้นจึงมีคอนเทนต์เข้ามาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นเกมเพลย์โหมด Speedrun สำหรับแคมเปญเนื้อเรื่องหลักให้เราทดสอบความสามารถของฝีเท้าในการวิ่งตั้งแต่ต้นจนจบเกมเพื่อนำคะแนนมาเบ่งกัน หรือจะเป็นตัวเลือก Permadeath สุดโหดที่จะสร้างความกดดันมากขึ้นไปอีก ท้ายที่สุดก็คือสกินใหม่นั่นเอง

ประสบการณ์ The Last of Us: Part II Remastered บน Steam Deck เป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับการเล่นบน Steam Deck นั้นเลือกพรีเซ็ตโดยรวมของเกมอยู่ที่ระดับ Low ทั้งหมด ซึ่งจะพบว่าการเรนเดอร์นั้นไม่คมชัดอย่างแน่นอนครับ กระนั้นแล้วเกมไม่ได้ตัดในส่วนของเงาและฟิลเตอร์การแสดงเอฟเฟกต์ภาพ ทั้งนี้เราจะเห็นแบบลางๆ แบบ half-transparency เช่นหมอกเงาจะเห็นแตกเป็นจุดๆ ตลอดทั้งแอเรีย ส่วนเฟรมเรตจะตั้งค่าพิเศษเป็นแบบ 30FPS ล็อคเฟรม ดังนั้นความรู้สึกจะเหมือนกับภาพที่ดรอปจากเวอร์ชัน PS4 นิดนึง แต่ความลื่นไหลไม่ได้เจอปัญหาเฟรมตกเท่ากับภาคแรก และ 30FPS นั้นเพียงพอต่อการใช้งานบนจอขนาดเล็กเหลือๆ ไม่ต้องกังวล ในขณะที่ระยะเวลาการกินแบตที่พรีเซ็ตระดับดังกล่าวจะอยู่ที่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง 50 นาที

บทสรุป

ไม่ว่าจะเล่นบน PC หรืออุปกรณ์ Mini PC สำหรับเล่นเกมอย่าง Steam Deck ก็ตาม การกลับมาของ The Last of Us: Part II Remastered ที่ได้ Nixxes เจ้าพ่อการพอร์ตเกมมาคุมงานก็ทำให้เวอร์ชันนี้เป็นเหมือนกับตัวสมบูรณ์ที่สุดด้วยการปลดล็อกคุณสมบัติกราฟิกความละเอียดสูงและเฟรมเรต พร้อมการรองรับฟังก์ชัน DualSense เทียบเท่าคอนโซล PS5 ด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกใจนักหากเวอร์ชัน PC จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่อาจจะไม่ได้สะดวกเล่นบนเครื่องเกม

ท้ายที่สุดนี้พวกเราก็ขอขอบคุณ Sony ประเทศไทยอีกครั้งสำหรับตัวเกมที่ได้นำมาทดสอบเพื่อรีวิวให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกัน ส่วนโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันกันที่นี่อีกครั้งขอเชิญอัปเดตข่าวสารใหม่ๆ รวมไปถึงเรื่องราวน่าสนใจในแวดวงวิดีโอเกมที่นี่ก่อนใครเช่นเคยครับผม นอกจากนี้อย่าลืมว่าอีกไม่กี่วันซีซันที่สองของซีรีส์กำลังจะกลับมาฉายแล้วด้วย ว่าแล้วก็ขอกลับไปเล่นต่อดีกว่ากำลังมันส์เชียว