[รีวิว] Super Robot Wars Y – สงครามหุ่นเหล็กภาคหลักที่หลายคนรอคอย

Super Robot Wars Y เป็นเกม RPG วางแผนการรบแบบตาราง ที่นำยูนิตและนักบินจากอนิเมะหลากหลายเรื่องมาร่วมต่อสู้กับศัตรูร่วมกัน ผู้เล่นจะได้วางแผนการรบอย่างมีกลยุทธ์ สั่งการยูนิตเพื่อเอาชนะศัตรู อัปเกรดยูนิต และฝึกฝนนักบินด้วยเครดิตและทรัพยากรที่ได้รับหลังจบภารกิจ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ฮีโร่ของคุณพร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งต่อไป

ในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปร่วมสนามรบกับเหล่าหุ่นเหล็กมาแล้ว และก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 โดยหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้าหลังจากที่รีวิวนี้ได้เผยแพร่ไปแล้ว ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

กราฟิกสุดอลังการ สะใจแฟนเกม

สำหรับงานกราฟิกในเกมนี้ ต้องบอกเลยว่าสามารถถ่ายทอดเอกลักษณ์ของเกมซีรีส์ Super Robot Wars ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยโทนสีที่สดใสและการผสมผสานระหว่างโมเดลตัวละครสามมิติแบบย่อส่วนกับฉากหลังที่ใช้ลายเส้นสไตล์การ์ตูน จนออกมาเป็นบรรยากาศที่ทั้งลงตัวและน่าประทับใจ ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสัมผัสกลิ่นอายของการ์ตูนหุ่นยนต์ขนาดยักษ์ในแบบที่คุ้นเคยแต่มาในรูปแบบคมชัดสะใจชวนให้ตื่นตาตื่นใจไปพร้อมกัน

ที่เด็ดที่สุดและขาดไม่ได้เลยก็คือ ฉากการต่อสู้ที่จัดเต็มด้วยเอฟเฟกต์แสง สี เสียงแบบระเบิดภูเขาเผากระท่อมด้วยเอฟเฟกต์ที่อลังการจนทำให้หัวใจเต้นแรงตามไปด้วย ทุกการเคลื่อนไหวของหุ่นแต่ละตัวก็เรียกได้ว่าลื่นไหล รับประกันได้เลยว่าคอเกมสายแอ็กชั่นที่ชอบความสะใจและภาพการต่อสู้ที่ดุดันต้องถูกใจอย่างแน่นอน!

เสน่ห์ของเนื้อเรื่องและตัวละครที่น่าติดตาม

เนื้อเรื่องของเกม Super Robot Wars Y ยังคงถ่ายทอดความเข้มข้นแบบฉบับ Super Robot Wars ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศของสงคราม หรือมิตรภาพอันลึกซึ้งที่ทำให้ผู้เล่นต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลา ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะหักมุมไปในทิศทางใด บทเล่าถูกถ่ายทอดอย่างมีชั้นเชิง จนรู้สึกเหมือนกำลังดูอนิเมะหนึ่งเรื่องที่เราไม่อยากกดข้ามแม้แต่วินาทีเดียว (แม้ว่าการนำเสนอจะเป็นตัวอักษรเฉย ๆ ชวนง่วงไปหน่อยก็ตาม)

สิ่งที่สร้างความประทับใจเป็นพิเศษคือการใส่ใจรายละเอียดของตัวละคร แต่ละตัวจะมี เรื่องราวให้ติดตาม ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจแรงจูงใจและที่มาที่ไปของพวกเขาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เราอินกับตัวละครได้ไม่ยาก แม้จะเพิ่งเจอเป็นครั้งแรกก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น เกมยังใส่บทสนทนาและซีนเฉพาะตัวละครมาให้ได้ติดตาม ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกำลังทำความรู้จักกับพวกเขาไปทีละนิด ทั้งความสัมพันธ์ ความขัดแย้ง หรือแม้กระทั่งมุกแซวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้บรรยากาศของเกมมีชีวิตชีวามากขึ้น

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ระบบ Assist Link ที่เปิดโอกาสให้ตัวละครบทเล็ก ๆ ได้เข้ามามีบทบาทร่วมกับทีมของผู้เล่น ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมิติด้านกลยุทธ์ แต่ยังทำให้เราได้เห็นการโต้ตอบที่คาดไม่ถึงระหว่างตัวละครต่าง ๆ ยิ่งทำให้รู้สึกผูกพันและอยากติดตามเรื่องราวของพวกเขามากขึ้นไปอีก ถือเป็นรายละเอียดที่ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมนี้สนุกและเต็มอารมณ์ยิ่งขึ้นอย่างแท้จริง

กลยุทธ์ที่เข้าถึงง่าย แต่ยังคงท้าทาย

เกมนี้ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ ด้วยระบบวางแผนการรบแบบเดินตามช่องที่แฟน ๆ คุ้นเคย แต่สิ่งที่ทำให้ภาคนี้โดดเด่นกว่าที่เคยคือการออกแบบหน้าจอ UI ใหม่ ที่ดูเรียบง่าย เข้าใจได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตัวละครหรือการใช้คำสั่งต่าง ๆ ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบและใช้งานได้สะดวก ผู้เขียนมองว่านี่คือการพัฒนาที่ชาญฉลาดและส่งผลจริงต่อประสบการณ์การเล่นอย่างมาก (อย่างไรก็ตามผู้เขียนแอบคิดว่าหลาย ๆ คนอาจจะมองว่า UI ที่เรียบง่ายนี้มันดูไม่สวยงามอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งในกรณีนี้ก็คงบอกได้ว่าแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนครับ)

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ โหมด Auto ที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถนั่งดูการต่อสู้อันอลังการได้แบบสบาย ๆ เหมือนกำลังชมอนิเมชั่นคุณภาพสูง แต่เมื่อทดลองใช้งานจริง ผู้เขียนพบว่า AI ยังมีข้อจำกัดอยู่เล็กน้อย เพราะมักโฟกัสไปที่การโจมตีศัตรูมากกว่าการทำภารกิจเฉพาะ เช่น การปกป้องหุ่นหรือการสกัดไม่ให้ศัตรูหลุดไปถึงเป้าหมาย การทำลายศัตรูที่เจาะจงในเวลาที่กำหนด จึงมีโอกาสที่จะทำให้ภารกิจล้มเหลวได้ง่าย ๆ หากผู้เล่นปล่อยให้ AI ทำงานเพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองโดยรวมแล้วผู้เขียนรู้สึกว่าเกมเพลย์ในภาคนี้ถูกปรับให้ “เข้าถึงง่ายขึ้น” โดยเฉพาะในระดับ Normal ที่ผู้เขียนได้ทดลองเล่น ทำให้คนที่ไม่ใช่แฟนเดนตายของซีรีส์ก็ยังสนุกได้แบบไม่รู้สึกยากเกินไป แต่ในขณะเดียวกัน เกมก็ยังไม่ลืมแฟนสายฮาร์ดคอร์ เพราะสามารถปรับความยากให้ท้าทายยิ่งขึ้นได้ และยิ่งยากเท่าไร รางวัลที่ได้รับก็จะยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นการบาลานซ์ที่ดี ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งผู้เล่นทั่วไปและผู้เล่นสายจริงจังได้อย่างลงตัว

ระบบพัฒนาตัวละครสุดล้ำ ที่ทำให้คุณอยากอัปเกรดไม่หยุด

หนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้เกม Super Robot Wars Y โดดเด่นก็คือ ระบบการพัฒนาตัวละครและหุ่นรบ ที่ถูกออกแบบมาอย่างน่าสนใจและเต็มไปด้วยความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการอัปเลเวลผ่านการต่อสู้จริงเพื่อเสริมความแข็งแกร่งพื้นฐานของหุ่น การอัปเกรดค่าสถานะแบบเจาะจงที่ต้องอาศัยการลงทุนทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ไปจนถึงการปลดล็อคค่าสถานะพิเศษเมื่อหุ่นพัฒนาไปถึงระดับที่กำหนด ซึ่งทำให้หุ่นแต่ละตัวมีเอกลักษณ์และบทบาทที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในสนามรบ

นอกจากตัวหุ่นแล้ว ผู้เล่นยังสามารถสวมใส่สกิลให้กับนักบินด้วยระบบการฝึกฝนนักบิน เพื่อเพิ่มความสามารถเฉพาะตัว รวมถึงใส่อุปกรณ์เสริมที่ช่วยยกระดับสถานะของหุ่นให้โดดเด่นยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้เล่นรู้สึกได้ทันทีว่ากำลังสร้างทีมในแบบฉบับของตัวเองจริง ๆ

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ระบบปลดล็อคสกิลของยานแม่ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อค่าสถานะ ความสามารถ และกลยุทธ์การเล่นในหลายแง่มุม บอกเลยว่าฟังก์ชันนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อความอลังการอย่างเดียว แต่ยังช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญในการต่อสู้ด้วย

จากประสบการณ์ที่ได้ลอง ระบบการพัฒนาตัวละครและหุ่นในเกมนี้ทำให้ผู้เขียนประทับใจอย่างมาก เพราะทั้งเข้าใจง่าย ยืดหยุ่น และที่สำคัญคือเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้พัฒนาทีมตามสไตล์ที่ตัวเองต้องการอย่างแท้จริง บอกได้เลยว่าใครที่ชอบเกมแนวปรับแต่งและอัปเกรด จะต้องหลงรักระบบนี้ตั้งแต่เริ่มเล่นแน่นอน

สรุปรีวิว

โดยรวมแล้ว Super Robot Wars Y ก็ยังคงสเน่ห์ของเกม Super Robot Wars ไว้ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงกราฟิกของเกมที่ยังดูสวยงาม เอฟเฟกต์ที่อลังการ รวมไปถึงมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจให้ใช้งานเยอะมาก ๆ อย่างไรก็ตามการปรับ UI ให้เข้าถึงง่ายนั้นอาจจะทำให้แฟนเกมหลาย ๆ คนไม่ชอบในความเรียบง่ายเกินไป รวมไปถึงระดับความยากของเกมที่อาจจะง่ายลงไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วผู้เขียนไม่มีปัญหากับประเด็นเหล่านี้เลยแม้แต่น้อยครับ

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็เป็นได้ครับ

จุดเด่น

– กราฟิกสวยงาม ผสมผสานโมเดล 3 มิติกับภาพลายเส้นการ์ตูนคมชัดได้สวยงาม

– เกมเพลย์แม้จะง่ายลง แต่ยังเข้าใช้กลยุทธ์อยู่พอสมควร โดยเฉพาะในด่านหลัง ๆ

– มีระบบ Auto ให้ใช้งาน

– มีระบบอัปเกรดตัวละครให้ใช้งานหลากหลาย

– มีการสอดแทรกรายละเอียดของตัวละครเข้ามาได้ดีพอสมควร

ข้อสังเกต

– ระบบการเล่าเรื่องที่ยังเน้นผ่านตัวอักษรเฉย ๆ เป็นหลักทำให้แอบง่วงไปบ้าง

– การเลื่อนช่องควบคุมในฉากการต่อสู้แอบยากไปนิด

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อเกมได้ที่ : [คลิก]

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามรีวิว / พรีวิวเกมอื่น ๆ ของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<