[รีวิว] Stellar Blade เวอร์ชั่น PC ที่มาแบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก

Stellar Blade เป็นเกมที่นำเสนอการต่อสู้แบบแอ็กชั่นที่เน้นการจับจังหวะ และการหลบหลีกผสมผสานกับการปลดปล่อยคอมโบและทักษะเฉพาะตัว โดยในเกมเวอร์ชั่น PC จะได้สนุกไปกับเรื่องราวทั้งหมด พร้อมกับมีโอกาสได้เผชิญหน้ากับ Scarlet ในฐานะบอสไฟต์ พร้อมกับ Mann องครักษ์ของ Orcal ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งบอสใหม่ที่เพิ่มมาใน DLC เวอร์ชั่น PC นี้ด้วย

ในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปฟาดฟันเนติบา พร้อมเล่น DLC มาแล้ว และก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PC โดยหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้าหลังจากที่รีวิวนี้ได้เผยแพร่ไปแล้ว ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้ นอกจากนี้รีวิวจะมุ่งเน้นไปที่การเล่นบน PC และ DLC ที่เพิ่มเข้ามาเท่านั้น หากใครอยากดูรีวิวเกมเพลย์ของเกมสามารถมาอ่านได้ที่นี่ >>>คลิก<<

แอ็กชั่นแบบจัดเต็ม ไม่มีสะดุดแม้จะคนละแพลตฟอร์มก็ตาม

หนึ่งในความกังวลของผู้เขียนก่อนเริ่มเล่น Stellar Blade เวอร์ชั่น PC คือความเป็นห่วงเรื่องคุณภาพของการพอร์ตจากเวอร์ชั่น PS5 ที่อาจเต็มไปด้วยบั๊กหรือปัญหาจุกจิกให้ปวดหัวตามแบบฉบับเกมที่ถูกพอร์ตข้ามแพลตฟอร์มมาให้เราได้เล่นกัน แต่สิ่งที่ได้สัมผัสกลับกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างมาก เพราะตั้งแต่วันแรกที่ได้ลองเล่น ตัวเกมทำงานได้อย่างไร้ที่ติ ไม่มีบั๊กหรือข้อขัดข้องใด ๆ ให้เสียอารมณ์ ถือว่าเป็นหนึ่งในการพอร์ตที่ “สมบูรณ์แบบ” ที่สุดเกมหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยผู้เขียนสามารถพูดได้เลยว่า “นี่คือมาตรฐานใหม่ที่สูงมากสำหรับการพอร์ตเกมจาก PS5 มาลง PC ในอนาคต”

และนอกเหนือจากเกมที่พอร์ตมาได้อย่างไร้ที่ติ ตัวเกมยังถูกปรับแต่งมาอย่างดีให้รองรับการเล่นบนพีซีได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นด้านเฟรมเรต การควบคุม หรือประสิทธิภาพโดยรวม แม้ว่าผู้เขียนจะใช้คอม Laptop สเปคที่ไม่ได้แรงเท่าไหร่ (Intel i5-13420H / Geforce RTX 3050 6GB / RAM 16GB) ก็สามารถตั้งค่าการเล่นที่ 60FPS ได้สบาย ๆ และด้วยองค์ประกอบนี้เองทำให้ผู้เล่นจะได้เข้าไปฟาดฟันกับเหล่าเนติบาได้อย่างเต็มที่แบบไม่มีอะไรให้กังวล ใครที่เฝ้ารอเวอร์ชั่นนี้หลังจากที่เกมเคยเป็น Exclusive บน PS5 มานาน บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับการรอคอย ไม่มีผิดหวังแน่นอน

DLC ที่คุ้มค่าแก่การเล่นแบบจัดเต็ม

หัวข้อนี้อาจจะต้องขอพาดพิงเล็กน้อย โดยหากใครยังรู้สึกว่าไม่เต็มอิ่มกับ DLC โคลาโบกับ NieR: Automata มาก่อนหน้านี้ (อ่านรีวิวของทีมงานได้ที่นี่) ก็ต้องบอกเลยว่าในครั้งนี้ Shift Up กู้ชื่อได้แบบ 100% ซึ่ง DLC ล่าสุดที่เป็นการครอสโอเวอร์กับ NIKKE ซึ่งถือได้ว่าเป็น DLC ที่คุ้มค่าอย่างมาก เพราะ DLC นี้ได้นำตัวละคร Scarlet และสุนัขคู่ใจ Volt มาปรากฏตัวในฐานะ NPC มอบภารกิจและเปิดร้านขายไอเทมสุดพิเศษ โดยภารกิจที่ได้รับจะกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ Wasteland และบริเวณอื่น ๆ ซึ่งเมื่อทำสำเร็จจะปลดล็อคเครื่องแต่งกายแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่หาซื้อได้จากร้านของ Volt

ความโดดเด่นของ DLC ไม่ได้อยู่ที่ของตกแต่งเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง มินิเกมยิงปืนมุมมองบุคคลที่สามสุดมันส์ ที่ถูกออกแบบมาอย่างสนุกและท้าทาย โดยผู้เล่นจะได้สาดกระสุนพร้อมหลบหลังที่กำบังเหมือนกับเกม NIKKE ที่มีให้เล่นบนมือถือ แต่ผสมผสานเพิ่มเติมด้วยท่าไม้ตายสุดอลังการในแบบฉบับของเกมแอ็กชั่นคุณภาพสูง มีทั้งหมด 6 ภารกิจ ซึ่งจะปลดล็อคไอเทมใหม่เรื่อย ๆ และนำไปสู่การต่อสู้กับบอสสุดท้ายที่ปิดฉาก DLC ได้ถูกใจแฟนเกมของ Shift Up แน่นอน

อย่างไรก็ตามที่จะเข้าถึง DLC ของ NIKKE ได้ผู้เล่นจะต้องเดินทางมาถึงเมืองไซโยนให้ได้เสียก่อน จากนั้นก็ต้องทำภารกิจ ไซโยน เมืองสุดท้ายที่เหลืออยู่ ให้เรียบร้อย ซึ่งหากใครที่เคยเล่นเกมนี้จบไปแล้ว และอยู่ในโซนสุดท้ายของเกมก็ต้องขอแสดงความเสียใจที่คุณจะต้องเริ่ม New Game+ เพื่อมายังพื้นที่นี้อีกครั้ง แต่ผู้เขียนบอกได้เลยว่าคุ้มค่าแน่นอน

นอกจากนี้ผู้เล่นจะยังได้มีโอกาสประมือกับ Mann ซึ่งเป็นองครักษ์ของ Orcal ด้วย ซึ่งจากที่ผู้เขียนได้ลองประมือเองก็ต้องบอกว่ามันส์สะใจมาก ๆ (และก็หัวร้อนมากเช่นกัน) ซึ่งรายละเอียดในการต่อสู้กับบอสตัวนี้ก็ต้องบอกว่าทำออกมาได้ละเอียด และน่าสนใจมาก ๆ

และด้วย DLC ตัวนี้เองทำให้เกม Stellar Blade บน PC กลายเป็นเกมที่ไม่ครพลาดเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะใครที่ไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนก็สามารถซื้อตัว Complete Edition ไปเล่นได้เลย เพราะตัวเกมจะมาพร้อมกับ DLC และไอเทมอัปเดตล่าสุดแบบครบถ้วนคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์อย่างแน่นอน

สรุปรีวิว

Stellar Blade เวอร์ชั่น PC เป็นเกมที่ผู้เล่นไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้เล่นที่ยังไม่เคยเล่นเกมนี้บน PS5 มาก่อน ด้วยคุณภาพของกราฟิกและประสิทธิภาพที่ทำมาลื่นไหลไร้ปัญหา รวมไปถึง DLC ที่คุ้มค่าจัดเต็มครบถ้วนทั้ง DLC ที่เคยวางจำหน่ายมาก่อน และ DLC ใหม่อย่างการต่อสู้กับ Mann รวมไปถึง DLC โคลาโบกับ NIKKE ทำให้เงินราคา 1,690 บาทนั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็เป็นได้ครับ

จุดเด่น

– เกมเพลย์แอ็กชั่นสุดมันส์เหมือนเคย

– เกมถูกพอร์ตมาดี เล่นได้ลื่นไหล ไม่มีปัญหา

– DLC โคลาโบกับ NIKKE ที่คุ้มค่าแก่การเล่น

– รวม DLC ทั้งหมดที่เคยมีมา มาให้เราได้เล่นกันเต็มอิ่ม

ข้อสังเกต

– หากจะเล่นแบบอลังการจนถึงที่สุดก็คงต้องใช้คอมที่แรงพอสมควร

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Sony Interactive Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวกันในครั้งนี้ครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อเกมได้ที่ : [คลิก]